เหี้ยมเกิน!!! หนุ่มไรเดอร์บุกหนุ่มเทศบาล และเพื่อน จนบาดเจ็บ ก่อนบุกยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนตาย 2 ศพ
จากกรณีอุกอาจเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (4 มิ.ย 68) พ.ต.ต.ศักดิ์สิทธิ์ บุญรับ สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหลุมแก้ว ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ว่ามีเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 ราย ในพื้นที่ ต.ระแหง จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ ศักดินา สุขมาก ผกก. ฯ พร้อมกำลังชุดสืบสวน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้รับแจ้งจากกกกลุ่มคนถูกยิงว่า ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 มีเพื่อนๆ นำขึ้นรถไปส่ง รพ.ลาดหลุมแก้ว
ต่อมา ไม่ถึง 15 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาล ว่า มีเหตุคนร้ายเข้ามายิงผู้บาดเจ็บ ขณะญาติกำลังนำส่งโรงพยาบาลเป็นเหตุให้เสียชีวิต 2 ราย เจ้าที่ทั้งหมดจึงนำกำลังมาที่โรงพยาบาลทันที
เมื่อไปถึง โรงพยาบาล พบว่าให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้นำผู้เสียชีวิตเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว เบื้องต้น พบว่าทั้งคู่ถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัวหลายแห่ง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลระแหง และนายนรินทร์ หรือต๋อง อายุ 32 ปี พนักงานร้านขายโลงศพไทยประดิษฐ์
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรอยหยดเลือดทางหน้าห้องฉุกเฉิน และที่พื้นถนนทางเข้าโรงพยาบาลพบปลอกกระสุนจำนวนมากกระจายเกลื่อนและหัวกระสุนนอกจากนี้ ใกล้ทางออกของโรงพยาบาลพบรถกระบะสีแดง มีร่องรอยคราบเลือดที่ท้ายกระบะ มีหัวกระสุนตกอยู่ 1 หัว ท้ายรถฝั่งขวามีรูกระสุน 1 รู กระจกแคปด้านขวา 2 รู กระจกหลัง 1 รู ส่วนที่อาคาร3 อาคารผู้ป่วยนอก พบว่ามีรูกระสุนทะลุกระจกห้องน้ำ กระสุนไปตกในห้องพักฟื้นผู้ป่วย รวมทั้งที่ห้องวิทยุของหน่วยแพทย์กู้ชีพ รพ.ลาดหลุมแก้ว มีรูกระสุนทะลุเข้าไปในห้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกภาพในที่เกิดเหตุ แล้วใช้เชือก Police Line กั้นไว้เพื่อตรวจสอบ
จากการสอบถาม เพื่อนที่อยู่ ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุแก๊งของผู้ตายได้นั่งดื่มเหล้าและคุยกันอยู่ที่หน้าบ้าน ได้มีคนขับรถแต่งชุดไรเดอร์ขับผ่าน ก่อนจะวนรถกลับมาพร้อมกับถามกลุ่มตนว่า “ได้สั่งของไว้หรือเปล่า” ซึ่งพวกตนก็บอกว่าเปล่า ก่อนที่คนขับไรเดอร์จะชักปืนออกมายิงนายนรินทร์ และนายมานะ จำนวนหลายนัด ส่วนพวกตนทั้งหมดก็ได้วิ่งหนีกระจายไปคนละทิศละทาง พอคนร้ายไปแล้ว พวกตนจึงพาคนเจ็บทั้งสองขึ้นรถกระบะ เพื่อมาส่งโรงพยาบาล โดย มีนายวิรัตน์ อายุ 33 ปี เป็นคนขับ และมีเพื่อนๆ นั่งอยู่ ท้ายกระบะ รวม 5 คน
แต่เมื่อมาถึงทางเข้าโรงพยาบาล เพื่อนที่นั่งหลังรถกระบะ ได้ตะโกนบอกว่า คนร้ายที่ก่อเหตุได้ขับรถตามมา พร้อมไล่ยิงจากหน้าโรงพยาบาล จนต้องขับรถวนหน้าโรงพยาบาล 2 รอบ โดยที่คนร้ายตามมาจอดยิงผู้บาดเจ็บทั้งสองคนจนเสียชีวิต แล้วขับรถหลบหนีไปโดยที่ไม่ยิงคนอื่นๆ ซึ่งกระสุนได้ไปโดนอาคารของโรงพยาบาล และห้องเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์กู้ชีพได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุพวกตนก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมชุดไล่ล่าตลอดทั้งคืน กระทั่ง สืบทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุ คือนายสมยศ หรือเป๋ง อายุ 32 ปี ชาวสามโคก จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไล่ล่า จนกระทั่งได้รับแจ้งจากตำรวจ ภ.จว. สมุทรปราการ ว่า พบชายคนดังกล่าว มาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คนโดยใช้รถยนต์เก๋งเป็นยานพาหนะ ขณะนี้ควบคุมอยู่ที่ด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงรุดเดินทาง ไปควบคุมตัว ได้พร้อมยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนอีก 55 นัด และแม็ก 2 อัน ก่อนนำตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก โดยมี พล ต.ต ยุทธนา จอมขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ หฤษฏ์ คำจุมพล ผกก.กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ ศักดินา สุขมาก ผกก.สภ.ลาดหลุมแก้ว รอสอบปากคำผู้ต้องหา
เบื้องต้น นายสมยศ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุ ตนได้สวมชุดไรเดอร์ซึ่งเป็นอาชีพของตน และขับวิน จยย.รับจ้างด้วย โดยได้นำอาวุธปืนเพื่อหวังที่จะมายิงนายไอซ์ เพียงคนเดียว เนื่องจากมีความคับแค้นใจ เหมือนถูกหยามแบบลูกผู้ชาย เนื่องจากเห็นโพสต์ที่นายไอซ์ มาแถวบ้านตนพร้อมกับมีการท้าทาย แล้วตนก็เชื่อว่านายไอซ์ แอบมาตีท้ายครัวกับเมียตน ซึ่งเมียตนคือเมียเก่าของนายไอซ์ แต่เลิกกันไป 10 กว่าปีแล้ว ก่อนมาอยู่กับตนและได้จดทะเบียนกันโดยอยู่ด้วยกันร่วม 14- 15 ปี จนมีลูกด้วยกัน 4 คน แต่ตัวนายไอซ์ ยังจะหวนกลับมาตีท้ายครัวกับเมียตนเองอีก ตนจึงเกิดความแค้นก่อนที่จะพกอาวุธปืนเพื่อหวังจะไปยิงนายไอซ์ เพียงคนเดียว
แต่ขณะก่อเหตุนั้น นายต๋อง ได้ปรี่เข้ามาหาตน ทำให้ตน ต้องยิงไปที่ตัวนายต๋อง หลังจากนั้นตนก็ได้ขับรถ หนีออกมาโดยไม่รู้ว่าทั้งสองจะเสียชีวิตหรือไม่ แต่พอขับรถมาถึงปากซอย ตนได้ทำโทรศัพท์ตกในที่เกิดเหตุ จึงได้ขับรถย้อนกลับไปเพื่อจะไปเอาโทรศัพท์ ปรากฏว่า เห็นกลุ่มเพื่อนๆ ขอนายไอซ์และนายต๋องขับรถกระบะมุ่งหน้าออกมาทางโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว ตนจึงขับรถตามมาแล้วก็ได้ก่อเหตุยิงอีกจำนวนหลายนัด หลังจากก่อเหตุแล้ว จึงได้ขับรถหลบหนี กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านแล้วขับรถ จยย.มาจอดทิ้งไว้ตรงข้ามกับ รพ.ปทุมธานี ก่อนจะให้เพื่อนรุ่นน้องขับรถเก๋งไปส่งเพื่อจะหลบหนีไปอยู่แถวสมุทรปราการ แต่ก็มาถูกตำรวจตั้งด่านสกัดจับดังกล่าว
อย่าหาทำนะคะแบบนี้ ไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ไม่ควรฆ่าใครตาย ค่อยพูดค่อยจากกันดีกว่าค่ะ หากมีความคืบหน้าจะอัปเดตให้ทราบ