วันที่ 6 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพของแม่น้ำสายที่ไหลมาจากประเทศเมียนมาเข้าสู่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบว่ามีสีส้มเข้มลักษณะคล้ายสีของชาเย็นซึ่งแตกต่างจากสภาพก่อนหน้านี้ที่มีเพียงสีขุ่นปกติ โดยความขุ่นเข้มของน้ำดังกล่าวพึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและมีความแตกต่างจากสภาพของน้ำตั้งแต่ก่อนปี 2567 และข่วงต้นปี 2567 ซึ่งเริ่มมีความขุ่น กระทั่งเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อเดือน ก.ย.-ต.ค.2567 และตรวจพบสารหนูและตะกั่วเกินมาตรฐานในช่วงต้นปี 2568 นี้ เพราะมีความขุ่นเข้มมากผิดปกติจนแทบไม่เหลือเค้าของแม่น้ำสายธรรมชาติ

ขณะที่สถานีโทรมาตรอัตโนมัติที่ไทยและเมียนมาร่วมมือกันติดตั้งจำนวน จำนวน 3 สถานี ใน จ.ท่าขี้เหล็ก กลับไม่พบว่ามีฝนตกลงมาในช่วงนี้แต่อย่างใดโดยปริมาณฝนที่เครื่องโทรมาตรแสดงคือ 0 มิลลิเมตร ขณะที่สถานีโทรมาตรที่ติดตั้งในฝั่งไทยตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 พบมีปริมาณฝนในช่วงเวลาประมาณ 16.50 น.วันเดียวกันมีเพียง 16.8 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้หลายฝ่ายต่างสงสัยว่าเหตุใดแม่น้ำสายจึงมีสีส้มเข้มหรือสีเหมือนชาเย็นดังกล่าวทั้งๆ ที่ไม่มีฝนตกในพื้นที่เหนือน้ำและสงสัยว่าอาจเกิดจากเหมืองแร่ทองคำ แมงกานิส หรือแรร์เอิร์ธ (แร่หายาก) กระนั้นยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากฝ่ายใด

ด้านเครือข่ายภาคประชาชนได้ยื่นหนังสือผ่านนายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย รัฐบาลจีน รัฐบาลเมียนมา และกองทัพว้า ให้ยุติการทำเหมืองเหนือแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเพราะภาพถ่ายดาวเทียมพบมีการเปิดหน้าดินทำเหมืองแร่กว่า 40 แห่ง บางแห่งห่างแม่น้ำเพียง 2 กิโลเมตร จนการตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง ตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย.2568 จำนวน 4 ครั้งโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) กรมควบคุมมลพิษ พบมีสารหนูในทุกแม่น้ำเกินมาตรฐานเกือบทุกจุดทั้ง 4 ครั้งด้วย