เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ท่าอาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ความตรึงเครียดบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชาว่า ระหว่างปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ กรุงเจนีวาทุกเช้าจะต้องประชุมกับปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง และผู้ว่าราชการอุบลราชธานี ถึงการเตรียมพร้อม และได้ ติดต่อตรงทางไลน์ ตลอดกับผู้ว่าฯ ซึ่งความพร้อมของฝ่ายปกครองคือการสนับสนุนเป็นแนวหลัง เพื่อเกิดความมั่นคงและความมั่นใจว่า พี่น้องประชาชนจะใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข หากมีความจำเป็นเร่งด่วนใดๆ ที่จะต้องอพยพ เราพร้อมที่จะมีศูนย์พักพิงให้ มีโรงพยาบาลสนามเตรียมเอาไว้ มีอาหารการกิน มีการจัดชุด ชรบ. และชุด อส.ไปดูแลบ้านเรือน ชุมชนของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัดไม่ใช่เพียงแต่อุบลราชธานี ซึ่งเรามีความพร้อมเต็มที่และมีความพร้อมสนับสนุน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานมีบทสรุปมาว่า การตัดสินใจเรื่องยุทธศาสตร์เป็นเรื่องของกองทัพซึ่ง ถ้ากองทัพต้องการสนับสนุนใดๆ เช่น การปิดด่าน ปิดชายแดน ก็ให้แจ้งมาผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมที่จะดำเนินการตามการตัดสินใจของผู้ที่มีอำนาจ
เมื่อถามถึงขวัญกำลังใจประชาชนในพื้นที่ นายอนุทิน กล่าวว่า ระยะทางพื้นที่ยังห่างจากชายแดนหลาย 10 กิโลเมตร เราก็จัดชุดให้ไปเฝ้า ตามวิถีชาวบ้านที่ไปหาของป่า ก็ขอให้ยกเว้นสักพัก จะมีคนคอยลาดตระเวนดูแลในสวนแนวหลัง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า จะเกิดความปลอดภัยสูงสุด เพราะยังไม่มีกรณีลอบทำร้ายกันระหว่างสองฝั่งหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประชาชนยังใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ ซึ่งเขาก็พอใจ โดยเราจะไม่รบกวนกำลังของทหาร ที่ต้องดูแลการคุกคามของฝ่ายตรงข้ามตามแนวชายแดน ใน ส่วนนี้ทาง อส.ทาง ชรบ.และหน่วยฝ่ายปกครอง นายอำเภอ ปลัดอำเภอจะต้องคอยตรึงแนวหลัง ให้มั่นใจว่าความสงบเรียบร้อยเกิดขึ้น คิดว่าไม่มีปัญหา ถ้าเป็นไปได้ วันพรุ่งนี้(8มิ.ย.) ตนจะเดินทางไปด้วยคณะเล็กๆ ชวนปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง ไปอย่างไม่เป็นทางการ และวันที่ 11 มิ.ย. จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวเขตชายแดน ไทยกัมพูชาทั้ง 7 จังหวัด ไปประชุมที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า แนวทางในการสนับสนุนส่วนหน้า และแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชนจะต้องเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เมื่อถามถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย และพรรคภูมิใจไทย เปลี่ยนโปรไฟล์ ติดแฮชแท็ก "ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขาด" นายอนุทิน กล่าวว่า "เราต้องให้กำลังใจกองทัพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะทำ พวกสื่อคงไม่ทันหรอก ในสมัยคอมมิวนิสต์ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็มีการร้องเพลง ปลุกใจกันทั้งวัน เปรี้ยงๆ สายฟ้าฟาด หนักแผ่นดิน แต่หวังว่ายุคนี้คงไม่ต้องร้องเพลงขนาดนั้น"
เมื่อถามว่ามองอย่างไร ที่คนอาจมองว่าเป็นการกระตุ้นให้เกิดการรัฐประหาร นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไกลเกินไป คิดแต่เรื่องดีๆ คิดว่าความพยายามที่จะเจรจายุติความขัดแย้งยังดำเนินอยู่ ประเทศไทยก็ออกแถลงการณ์ชัดเจน ว่ายังเชื่อเรื่องของการใช้การเจรจา ตามหลักสากลในการที่จะยุติข้อขัดแย้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องให้กำลังใจ