ชุมพร สลดใจ แม่พาลูกชายส่ง รพ.รัฐ แต่ถูกปฏิเสธ ผลักให้ไปบำบัดยาเสพติดเอกชน ซึ่งต้องจ่ายครึ่งแสน แต่ไม่มีเงิน รอขายผลผลิตจากสวน แต่สุดท้ายลูกชายหลอนผูกคอตายก่อนจะได้รักษา           

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 7 มิถุนายน 68 พ.ต.ท.สมบูรณ์ กาญจนะ สว.สอบสวน สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 8 ตำบลปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.พะโต๊ะ แพทย์เวร รพ.พะโต๊ะ อาสากู้ชีพกู้ภัย รพ.พะโต๊ะ และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน          

 ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่ริมถนนหมู่บ้านในแจะ ห่างถนนสายพะโต๊ะ-หลังสวน ประมาณ 12 กม.และห่างจากวัดบ้านในแจะ และที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ม.8 เพียง 200 เมตร  ภายในบ้านเจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายวุฒิชัย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 8 ตำบลปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร อยู่ในสภาพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงบ๊อกเซอร์สีดำ เพียงตัวเดียว นอนอยู่บนพื้นกลางห้องนอน ใกล้กันมีเชือกไน่ร่อน ที่ใช้สำหรับโยงกิ่งทุเรียน ยาวประมาณ 10 เมตรกองอยู่ 1 เส้น จากการชันสูตรศพ บริเวณลำคอเหนือกระเดือกมีรอยเชือกรัดเป็นร่องลึกรอบคอ แต่ไม่พบร่อยรอยบาดแผลตามร่างกาย         

สอบถาม นางนารี ซึ่งเป็นแม่ ทราบว่า ตนเองมีลูกชาย คือนายวุฒิชัย เพียงคนเดียว และ อาศัยอยู่ที่บ้านที่เกิดเหตุนี้กัน 3 คนพ่อแม่ลูก โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 3 เดือน ลูกชาย ซึ่งเสพยาเสพติดอย่างหนัก และเกิดอาการหลอน ตนเองก็พยายามนำตัวลูกชายเพื่อไปรักษาอาการในเบื้องต้นที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่ง แต่ ทาง รพ.ก็ปฏิเสธในการรักษา พร้อมทั้งผลักการรักษา หากจะบำบัดจริงก็ให้ไปสถานบำบัดเอกชน ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งแรกก่อน 50,000 บาท ต่อจากนั้นก็จะเสียเป็นรายเดือนๆละ 1 หมื่นบาท ซึ่งตนเองไม่มีเงิน จึงต้องพาลูกกลับ มาดูแลตามมีตามเกิด           

นางนารี เล่าต่อว่า ตลอดระยะเวลาทุกวันก่อนจะเข้าไปทำงานในสวน ก็จะตั้งเงินไว้ให้ลูกชาย จำนวน 100 บาท และวันนี้ก็เช่นกันตนเองก็ได้ตั้งเงินไว้ให้ 100 บาท แล้วก้เข้าไปในสวน เพื่อจะดูแลผลผลิตซึ่งอีกไม่กี่วันแล้วที่ทุเรียนก็จะเก็บเกี่ยวได้ ก็คาดหวังจะนำเงินที่ขายทุเรียนได้ รวบรวมพาลูกชายไปบำบัดที่สถานบำบัดเอกชน และตลอดระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายก้าวร้าวหนักขึ้น ไม่ได้อะไรดั่งใจ ก็จะทำลายข้าวของ ทำให้ตนเองและสามีเกิดความหวาดกลัวๆลูกจะหลอนทำร้ายพ่อแม่            

นางนารี กล่าวต่ออีกว่า จนมาวันนี้ตนเองมารู้จากเพื่อนบ้านว่า เมื่อวานตอนเย็นลูกชาย ใช้เชือกผูกที่คอ แล้วเดินไปตามหมู่บ้านพร้อมตะโกนว่า คอยดูตนเองผูกคอตาย ตนเองจึงรีบกลับมาที่บ้าน ก็พบว่าห้องลูกชายปิดประตูไว้ จึงเปิดเข้าไปดูก็พบว่าลูกชายใช้เชือกที่โยงทุเรียน ผูกกับตะปูบนฝ้าเพดานเสียชีวิตแล้ว จึงได้นำร่างลงมาพร้อมแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว และขอฝากรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาจัดสถานที่ผู้ป่วยยาเสพติดให้เข้าถึงสถานบำบัดอย่างแท้จริงด้วย             

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ รพ.พะโต๊ะ ซึ่งทางครอบครัวไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงได้มอบศพให้นำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป