วันที่ 18 มิ.ย.68 เมื่อเวลา14.09 น. ที่หน้าตึกภักดีบดินทร์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนภายหลังมีการปล่อยคลิปการสนทนาระหว่างนส.แพทองธาร กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปจริง ที่คุยกันเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยตนทราบข้อมูลจากผู้ที่เป็นล่ามในคลิปว่าสมเด็จ ฮุน เซน โกรธ แม่ทัพภาคที่ 2 ระหว่างการพูดตนจึงบอกว่าการพูดของพล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในขณะที่ไทยกับกัมพูชาตอนนี้เป็นฝ่ายตรงข้ามกัน ปะทะกันก็ต้องพูดเช่นนั้น แม่ทัพภาค 2 ก็ต้องพูดเช่นนั้น อย่าไปถือสา อย่าไปคิดเลย
ตนพยายามเข้าใจว่าเมื่อสมเด็จ ฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ ก็เป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์ คุยโทรศัพท์แบบส่วนตัว มันก็ไม่ควรจะนำมาเปิดเผย ตนมีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง อธิปไตย และผลประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ตนจึงพูดคุยด้วยความนุ่มนวล และการพูดคุยส่วนตัวก็เรียกคุณอาเหมือนกันคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลทุกคนที่ทำงานมาตั้งแต่ยุคนายทักษิณ ชินวัตร การเรียกอาเรียกลุงเป็นเรื่องปกติ
และระหว่างการพูดคุยตนไม่มั่นใจไทม์ไลน์ของกองทัพ สมเด็จ ฮุน เซน บอกให้เปิดด่าน ตนจึงเสนอให้เปิดพร้อมกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงสันติภาพ จับมือแล้วเปิดพร้อมกันแต่ทางกัมพูชาไม่ยอม พยายามพูดโน้มน้าวให้เปิดพร้อมกัน แต่ฝั่งกัมพูชาบอกไม่ได้ให้ไทยเปิดก่อน แล้วจะเปิดตามหลัง 5 ชั่วโมง และบอกว่าเขาเป็นลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้น ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจจึงขอปรึกษากระทรวงกลาโหมก่อน เพื่อให้คำตอบในวันรุ่งขึ้น
ซึ่งเป็นการประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่บ้านพิษณุโลก ระหว่างประชุมสมเด็จ ฮุน เซน ก็โพสต์เฟซบุ๊คว่าหากไทยไม่เปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง กัมพูชาจะปิดด่านทั้งหมด อ้าวทำไมไม่เหมือนที่พูดกันไว้ ตนพยายามพูดอย่างใจเย็นเพราะอยากทราบว่าเขาต้องการอะไร คุยกันอย่างไรดี เพื่อให้เกิดการต่อรอง เกิดสันติภาพ ไม่เสียเลือดเสียเนื้อ นี่คือความตั้งใจ สมเด็จ ฮุน เซน เขาย้ำเรื่องการเปิดด่านอย่างเดียว ซึ่งตนไม่กล้ารับปาก เพราะไม่แน่ใจว่ากองทัพพร้อมหรือไม่
"แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าความต้องการของท่านจริงๆ คือคะแนนนิยมภายในประเทศของท่านเองโดยไม่สนใจจะเกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร การที่ท่านต้องการคะแนนนิยมภายในประเทศ เพราะเคยบอกกับดิฉันว่าคะแนนนิยมเริ่มตก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งทำให้อยากจะเรียกพลังตรงนี้
ดิฉันหวังว่าท่านจะได้คะแนนนิยมเพิ่มอยู่ในสายตาของโลกที่จับตามองอยู่ว่าเมื่อผู้นำสองท่านคุยกันแบบส่วนตัว แต่ที่มีการอัดคลิปแล้วปล่อยมาแบบนี้ แน่นอนว่าดิฉันไม่ได้ปล่อย ก็ตามนั้น จะได้เข้าใจจุดประสงค์ว่าเราต้องการสันติภาพ ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นหนึ่งในการทำให้คะแนนนิยมของท่านเพิ่มขึ้น ไม่เป็นไรก็ตามนั้น" นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า การบอกว่าแม่ทัพภาค 2 ไม่ใช่พวกเรา ถือเป็นเทคนิคในการสนทนาหรือไม่ นายกฯ กล่าวสวนทันที ว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่พวกเรา แต่เรากับกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว การจะพูดคุยกันก็ต้องพูดถึงกันไม่ดีอยู่แล้ว แต่ตนทราบว่า สมเด็จ ฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ตนจึงชี้แจงทำความเข้าใจ
เมื่อถามต่อว่า ประเด็นนี้จะต้องทำความเข้าใจกับแม่ทัพภาคที่ 2 หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า หากตนเป็นฝั่งตรงข้ามกับกองทัพ ทำไมต้องรอว่าฝั่งกองทัพคิดอย่างไร แต่มันไม่ใช่ เมื่อตนทราบว่าเขาโกรธกองทัพก็รีบทำความเข้าใจว่าเมื่อเราทะเลาะกันเป็นฝั่งตรงข้ามก็ต้องพูดแบบนี้ ให้แม่ทัพภาคที่ 2 พูดไป พยายามลดอารมณ์ว่าไม่มีอะไร เพื่อจะให้คุยประโยคกันต่อไป และนำไปสู่ความสงบสุข
เมื่อถามย้ำว่า มีกระแสข่าวจะมีคลิปที่ 2 ตามออกมา จะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ โดยเฉพาะภายในประเทศที่เหมือนจะถูกยั่วยุให้รบกันเอง นายกฯ ตอบว่า "ใช่ค่ะ ดิฉันไม่อยากให้คนไทยหลงกลตรงนี้ เพราะเป็นเทคนิคให้เข้าใจว่าเราทะเลาะกัน แต่จริงๆแล้วประโยชน์แรกที่ดิฉันคือต้องการแสดงความเข้าใจเขา ให้เขาบอกความต้องการที่แท้จริงว่าอะไรที่จะทำให้ประเทศชาติสงบสุข อะไรทำให้การปะทะมันจบลง "
เมื่อถามอีกว่า การพูดคุยและมีการปล่อยคลิปตามหลังออกมาแบบนี้ ต่อไปจะพูดคุยกันต่อได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ทราบ
เมื่อถามย้ำว่า สันติเจรจา จะยังใช้ได้กับกัมพูชาหรือไม่ น.ส.แพททองธาร กล่าวว่า ตนไม่ใช่คนที่จะไปท้าตีท้าต่อย แต่คงไม่มีการคุยส่วนตัวแล้ว
เมื่อถามอีกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฮุน กับตระกูลชินวัตร ได้จบลงแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ไม่ทราบว่าอย่างไร แต่ไม่ขอคุยส่วนตัวอีกแล้ว เพราะจะมีปัญหาเรื่องการไว้ใจ อย่างไรก็ตามบทสนทนาแบบนี้ไม่ควรที่จะออกมา เพราะนี่คือระดับผู้นำของประเทศ คือนายกฯและอดีตนายกฯที่เป็นนายกฯมาตั้งแต่อายุ 32 ปี และเป็นพ่อของนายกฯคนปัจจบัน บทสนทนาแบบนี้ ก็นั่นและค่ะ