ดวงตา คือ หน้าต่างของหัวใจ และยังเป็นประตูสำคัญที่เชื่อมเราเข้ากับโลกภายนอก แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น หน้าต่างบานนี้ก็อาจเริ่มมัวลงด้วย “โรคต้อกระจก” โรคทางตาที่พบได้บ่อยในผู้สูงวัย แต่รู้หรือไม่ว่า…หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นตาบอดถาวรได้เลยทีเดียว
ต้อกระจก คือ ภาวะที่เลนส์ตาขุ่นมัว ซึ่งแต่เดิมเลนส์นี้ควรจะใสเพื่อให้แสงผ่านเข้าสู่จอประสาทตาได้อย่างชัดเจน เมื่อเลนส์ขุ่น แสงจะผ่านได้ไม่ดี การมองเห็นจึงพร่ามัว มืดลง หรือเหมือนมีหมอกจาง ๆ ปกคลุมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาการเหล่านี้ค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ จนหลายคนไม่ทันรู้ตัวว่ากำลังสูญเสียการมองเห็นไปทีละน้อย
โรคต้อกระจกไม่ได้ทำให้เสียชีวิต แต่สามารถลดคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก ลองนึกภาพว่าคุณไม่สามารถขับรถ อ่านหนังสือ หรือแม้กระทั่งมองเห็นหน้าคนที่คุณรักได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกนั้นไม่ต่างจากการถูกจำกัดโลกให้อยู่ในกรอบเล็ก ๆ ที่มืดมน และอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าหรือความรู้สึกโดดเดี่ยว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
หากเริ่มมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที เพราะยิ่งตรวจพบเร็ว โอกาสรักษาให้กลับมามองเห็นชัดเจนก็ยิ่งสูง
แม้ในระยะแรกการสวมแว่นจะช่วยได้บ้าง แต่เมื่อต้อกระจกพัฒนาไปถึงจุดหนึ่ง วิธีที่ได้ผลดีที่สุดคือการผ่าตัดเลนส์ตา โดยนำเลนส์ที่ขุ่นออกแล้วใส่เลนส์เทียมแทน ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดปลอดภัยสูง ใช้เวลาไม่นาน และสามารถฟื้นฟูการมองเห็นได้ดี
“ต้อกระจก” อาจไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงชีวิต แต่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษา มันสามารถพรากโลกใบสวยจากคุณไปได้อย่างไม่มีวันหวนกลับ อย่ารอให้สายเกินแก้ หมั่นดูแลและตรวจเช็กสุขภาพดวงตาเป็นประจำ เมื่อมีอาการควรเข้ามาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุ เพื่อตรวจประเมินและนำไปสู่การรักษาที่ทันท่วงที เพื่อรักษาดวงตาคู่สวยให้อยู่กับเรานานยิ่งขึ้น