“รัฐบาล”เตือนผู้ปกครองร่วมกันดูแลสุขภาพเด็กไทย พบเป็นโรคอ้วน อันดับ 3 ของอาเซียน เดินหน้าร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น เพื่อสร้างสังคมสุขภาวะที่เข้มแข็ง ห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
วันนี้ (29 มิถุนายน 2568 ) เวลา 08.30 น. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จากข้อมูลสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า ประเทศไทยมีเด็กที่เป็นโรคอ้วนสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน จากพฤติกรรมบริโภคอาหารหวาน มัน เค็ม ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และการเสียชีวิตอันดับ 1 ของการเสียชีวิตทั้งหมดของคนไทยหรือเกือบ 4 แสนคนต่อปี โดยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คือ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ซึ่งจะมีการดำเนินโรคอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ สะสมอาการอย่างต่อเนื่อง อาทิ โรคเบาหวาน โรคมะเร็งต่าง ๆ โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคอ้วนลงพุง
นอกจากนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้โครงการการสื่อสารเรื่องการใช้ยาเพื่อลดความเสี่ยงโรคไต เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการใช้ยาและส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ยาที่ถูกต้อง ระบุว่า คนไทยป่วยโรคไตเรื้อรังทะลุ 1.13 ล้านคน ทั้งนี้ จากการสำรวจความรอบรู้ด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในบุคลากรด้านสาธารณสุขและประชาชน ปี 2567 กองบริหารการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ภาพรวมประชาชนมีระดับความรอบรู้ด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลเพียง 64.9% ส่วนใหญ่มีระดับความรอบรู้ด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผลที่เพียงพอระดับดี 43.9% ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีโรคประจำตัวจากการวินิจฉัยของแพทย์ 52.5% และมีการซื้อยาใช้เอง 50.6%
นายอนุกูล กล่าวว่า ปัญหาการใช้ยาไม่เหมาะสม การใช้ยาเกินความจำเป็นและการใช้ยาอย่างไม่ถูกต้อง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ เช่น อาการแพ้ยาปฏิชีวนะ อาการไม่พึงประสงค์ และปัญหาการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะยากลุ่มต้านการอักเสบ (NSAIDs) ยาชุด และสมุนไพรบางชนิด อาจมีฤทธิ์หรือคุณสมบัติทำให้ไตทำงานได้ลดลง ซึ่งจากรายงานภาวะสังคมไตรมาส 3/2567 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า คนไทยมีการป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังและมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้ป่วย 0.98 ล้านคน ในปีงบประมาณ 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 1.13 ล้านคน ในปี 2567
“รัฐบาล โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มุ่งส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาวะและพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง ทั้งในเรื่องการใช้ยาอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงโรคไตในกลุ่มวัยทำงาน และการปรับพฤติกรรมบริโภคของเด็กไทยเพื่อป้องกันโรค NCDs ตั้งแต่วัยเยาว์ เดินหน้าร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น สร้างสังคมสุขภาวะที่เข้มแข็ง และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพ โดยใช้แนวคิด “สามเหลี่ยมสมดุล” เสริมสร้างศักยภาพเด็กนักเรียน ให้ตระหนักต่อการสร้างเสริมสุขภาวะ ผ่านเมนูอาหารกลางวันที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ตลอดจนพัฒนาโครงการอาหารปลอดภัยในผู้สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดี ลดอัตราของโรค NCDs โดยตั้งเป้าภายในปี 2568 จะมีการขยายผลโครงการไปสู่กลุ่มแกนนำผู้สูงอายุต่อไป” นายอนุกูล ระบุ