“รศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้มุมมองต่อการทำหน้าที่สื่อของ “หนังสือพิมพ์สยามรัฐ” ตลอดระยะกว่า 7 ทศวรรษ ในท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองในห้วงหลายสิบปีที่ผ่านมา และจากนี้ทิศทางการเมืองในวันข้างหน้า
“ 75ปีของสยามรัฐ กับการเดินทางที่ผ่านมากว่า 7 ทศวรรษ เติบโตมาพร้อมกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ต่างกันไม่มาก แต่ก็ได้เป็นประจักษ์พยาน ของการทำหน้าที่ในการดูแล จัดการบ้าน จัดการดูแลเมือง ถึงแม้จะไม่ได้สมบูรณ์แบบไปเสียทุกเรื่อง แต่ทำให้สิทธิเสรีภาพ ของประชาชนโดดเด่นยิ่งขึ้น ในการแสดงออก ในการแสดงความคิดเห็น
เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ที่ผ่านมากว่า 7 ทศวรรษ ถ้าเปรียบเป็นคนหนึ่งคน ก็นับว่าเข้าสู่วัยชรา แต่70 กว่าปีของสยามรัฐผ่านร้อนผ่านหนาว เติบโตคู่มากับสังคมไทยในฐานะสื่อ แน่นอนว่าหากเราไปย้อนดูประวัติความเป็นมา สยามรัฐอาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเกิดขึ้นมาจากม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ต้องการใช้สื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง
แต่ผมคิดว่าตลอด 70 กว่าปีที่ผ่านมา สยามรัฐเองได้ถอดบทเรียน จากสื่อที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อตอบโต้ คู่แข่งทางการเมือง แต่ถ้าสื่อไม่ยืนหยุ่น ไม่ยืนบนหลักการ ที่ถูกต้องของความเป็นสื่อ ผมเชื่อว่าสยามรัฐคงอยู่ไม่ได้ ระยะเวลากว่า 70 ปีย่อมเป็นประจักษ์พยาน ว่าสยามรัฐอยู่กับอุดมการณ์ ศรัทธา อยู่กับบทบาทของสื่อ ซึ่งบทบาทของสื่อ เป็นเครื่องยืนยันถึงเสรีภาพของระบอบประชาธิปไตย
หลายๆสื่อที่ผ่านมา อยู่ได้ หรือล้มเลิกไป เพราะด้วยเงื่อนไขการจัดการ ด้วยกระแส และด้วยทุน แต่กว่า 70ปีของสยามรัฐ ทำให้เห็นว่าถ้าทำงานบนฐานของอุดมการณ์ บนความหวัง บนความฝันที่อยากจะเห็นสังคมไทย เป็นสื่อกลางสาธารณะ ไปสู่ประชาชน สร้างความงอกงามทางปัญญา ถ้าเอาอุดมการณ์เป็นตัวตั้ง ไม่ว่าจะเผชิญกับแรงกดดันจากเศรษฐกิจ หรือแรงกดดันจากการขยายตัวของสื่ออื่นๆมาเป็นคู่แข่ง
แต่ กว่า 70ปี สามารถเป็นประจักษ์พยาน ทำให้เห็นว่าสยามรัฐยืนอยู่ได้ ถ้าสยามรัฐ ใช้อุดมการณ์เป็นตัวนำ แม้อาจจะไม่ได้โดดเด่น แต่ก็ทำหน้าที่สื่อได้อย่างสมบูรณ์แบบ และอนาคตต่อไป จากจุดยืนที่มั่นคง ในฐานะที่เป็นสถาบันสื่อ อยากให้สยามรัฐใช้ฐานที่มั่นคงต่อยอดไปสู่การสร้างสถาบันสื่อ ขายความคิด ขายแง่มุมใหม่ๆ นำเสนอสถานการณ์ เหตุบ้านการเมือง ที่ตรงไปตรงมา และทำให้ต้นทุนทางสังคมของสยามรัฐเป็นที่ยอมรับ และการเป็นที่ยอมรับของสังคม จะเป็นต้นทุนที่ทำให้สยามรัฐอยู่กับสังคมไทย ในฐานะสื่อประชาธิปไตย ต่อไปอย่างยั่งยืน
-จากสถานการณ์ทางการเมือง ณ เวลานี้ เต็มไปด้วยความเข้มข้น บทบาทของสื่อในท่ามกลางการเมืองเช่นนี้ บวกกับอารมณ์ ความรู้สึกของประชาชน สื่อควรจัดสมดุล อย่างไร
สื่อไม่ต้องบาลานซ์ ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตามจุดยืนกับสยามรัฐเคยทำมาตลอดกว่า 7 ทศวรรษ ความตรงไปตรงมา บนจุดยืน บนอุดมการณ์ ผมคิดว่า 75 ปี เติบโตมาพร้อมกับประชาธิปไตย เราไม่ต้องสร้างข้อมูล ข่าวสารเพื่อที่จะต้องรองรับประชาชนกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง หรือสีใด สีหนึ่ง เรานำเสนอข้อมูลเสนอต่อประชาชน เสนอต่อสาธารณะ อย่างตรงไป ตรงมา เพราะเราเชื่อว่า ประชาชนในสังคมจำนวนมากมีวิจารณญาณ ในการพินิจพิเคราะห์สื่อนั้นได้
สยามรัฐไม่จำเป็นต้องเทคไซด์ข้างใด ข้างหนึ่ง แต่ต้องเทคไซด์ความเป็นจริง และจะทำให้เป็นทางเลือกของสื่อ ต่อไปหากสื่อข้างนั้นๆ ถูกมองเป็นพรรคนั้น พรรคนี้ แต่สยามรัฐ ยืนอยู่ตรงกลาง สิ่งเหล่านี้จะเป็นต้นทุน ความมั่นคงของสยามรัฐ