คิมซังซิก โค้ชทีมฟุตบอลทีมชาติเวียดนาม ยกทีมชาติไทย และเจ้าภาพอินโดนีเซีย คือตัวเต็งแชมป์ฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 15-29 ก.ค.นี้
กุนซือเกาหลีใต้รายนี้ เพิ่งนำ เวียดนาม ชุดใหญ่ คว้าแชมป์อาเซียนคัพ โดยชนะไทยในรอบชิงชนะเลิศ และชนะทั้งไป-กลับ และเขาก็หวังพา ดาวทองพลังหนุ่มได้แชมป์ 23 ปีด้วย โดยรอบแรกอยู่กลุ่ม B ร่วมกับ ลาว และ กัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ซังซิก ยกให้ ทีมไทย กับ เจ้าภาพ คือตัวเต็ง “จากที่ผมรู้และได้สังเกตมา ไทยและอินโดนีเซียมักจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งเสมอ ทีมชาติไทยโดดเด่นในเรื่องเทคนิคและการจัดระบบทีมที่ดี ส่วนอินโดนีเซียมีพละกำลังและความเร็วเป็นจุดแข็ง การเจอกับ 2 ทีมนี้มักจะเป็นเกมที่เข้มข้นและสูสี เราจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด”
เวียดนาม เป็นแชมป์ใน 2 สมัยหลัง โดยปี 2022 ชนะไทยในรอบชิงฯ 1-0 และปี 2023 ชนะจุดโทษอินโดนีเซีย ในรอบชิงฯ ส่วนไทยเป็นแชมป์ 1 สมัย ปี 2005 จากการจัดครั้งแรก
ขณะเดียวกัน แม้โค้ชคิม จะหวังว่าทีมจะประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่กดดันตัวเอง ระบุว่า การคว้าแชมป์ 2 สมัยติดกันถือเป็นความภาคภูมิใจของเวียดนาม แต่แทนที่จะกดดันตัวเองมากเกินไป ก็อยากมุ่งเน้นไปที่การเล่นให้ดีที่สุดในแต่ละนัดมากกว่า อยากให้ผู้เล่นมองทัวร์นาเมนต์นี้เป็นโอกาสในการพัฒนาและเติบโต มากกว่าการมุ่งหวังแค่ผลลัพธ์ เพราะเชื่อว่าผลการแข่งขันที่ดีจะตามมาเอง
“ทัวร์นาเมนต์นี้ไม่ใช่แค่การชิงแชมป์เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีในการประเมินศักยภาพของผู้เล่น และลองใช้หลากหลายรูปแบบในการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงแทคติก อีกทั้งยังเป็นโอกาสล้ำค่าสำหรับดาวรุ่งในการเก็บประสบการณ์นานาชาติ” คิมซังซิก กล่าว
สำหรับทีมชาติไทย ที่ คิมซังซิก ยกเป็นตัวเต็งนั้น คุมทัพโดย ทาคายูกิ นิชิกายะ โค้ชชาวญี่ปุ่น ที่ผลงานอุ่นเครื่องแพ้รวด 5 นัด จนเก้าอี้สั่นคลอน มีกระแสว่าหลังจบรายการนี้จะโดนเด้ง มีโค้ชไทยรอเสียบแล้ว โดยรอบแรก ช้างศึก 23 ปี ร่วมกลุ่ม C วันที่ 19 ก.ค. พบ ติมอร์เลสเต และวันที่ 22 ก.ค. พบ เมียนมา
ด้าน กลุ่ม A มี “เจ้าภาพ” อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และ บรูไน