วันที่ 25 เม.ย. 68 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ความเห็นกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3 ก.ค.นี้ว่า สภาเปิดแล้วก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ซึ่งก็อยู่ในข้อบังคับและระเบียบตามรัฐธรรมนูญที่ตรวจสอบรัฐบาล แต่รัฐบาลเพิ่งปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถือว่าเป็นการปรับใหญ่พอสมควร เพราะฉะนั้นต้องปล่อยให้รัฐบาลทำงานไปก่อน ถ้ายื่นญัตติอภิปรายเลย โดยที่รัฐบาลยังไม่ได้ทำงานในฐานะรัฐบาลที่มีการปรับครม. แล้ว ต้องมองประเด็นเดียวเลยคือประเด็นการเมือง
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยที่เคยเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันก่อนมาเป็นฝ่ายค้าน การยื่นอภิปรายนายกฯ มองว่าเขาใช้เหตุผลในการอภิปรายเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ของนายกฯหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า พอไปอยู่มุมฝ่ายค้าน ท่าทีก็ต้องเปลี่ยนเพราะฝ่ายค้านก็ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการตรวจสอบขอให้ใช้เหตุใช้ผล อย่าใช้อารมณ์หรือใช้การเมืองเข้ามา เพราะประเทศต้องเดินต่อ ในเรื่องนี้ตนมองว่าพรรคภูมิใจไทยจริงๆไม่เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อนเพิ่งจะมาเป็นครั้งนี้ครั้งแรกในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่าฝั่งภูมิใจไทยย้อนศรมาเร็วขนาดนี้ในขณะที่เคยเป็นพรรคร่วมกันมา 2 ปีอาจจะรู้ใจทำให้พรรคเพื่อไทยระแวงหรือกังวลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวลการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละท่านก็ยึดหลักกฏหมายยึดหลักความถูกต้องอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ได้กังวลในเรื่องใดๆ แต่ที่ให้ความเห็นคือว่ารัฐบาลเรายังไม่ได้เริ่มทำงานเลย โดยหลักแล้วต้องปล่อยให้รัฐบาลทำงานก่อน
เมื่อถามต่อว่าพรรคภูมิใจไทยออกมาบอกว่าพรรคเพื่อไทยดูแลกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ดีเท่ากับตอนที่พรรคภูมิใจไทยบริหาร นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่จริง เรื่องนี้ตนขอปฏิเสธ เพราะขณะนี้นายกฯได้มอบหมายภารกิจในเรื่องของการให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไปกำกับดูแลกระทรวง ตอนนี้เริ่มมีผู้ร้องว่าในสมัยนั้น(สมัยพรรคภูมิใจไทย) มีการกระทำที่ไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง จึงอยากให้รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบ โดยเรื่องที่ได้เข้าไปตรวจสอบเป็นเรื่องการใช้งบประมาณ โดยตามที่ตนได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้มีการทำหนังสือแจ้งมาถึงตนแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ ซึ่งก็มีเรื่องที่มีคนมายื่นหนังสือกับตนทันทีที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ก็มีเรื่องไม่ชอบมาพากลในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ โดยเป็นวงเงินที่สูงกว่าปกติโดยระบุว่า มูลค่าความเสียหายเป็นหมื่นล้าน
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนกระทรวงมหาดไทยมีคนมาร้องหรือไม่ตนได้ยินข่าว แต่เป็นเรื่องของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหมเป็นผู้กำกับดูแล ส่วนตนรับเรื่องในส่วนกระทรวงศึกษาและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เมื่อถามย้ำว่าจะเข้าไปรื้อเลยหรือไม่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอดูเหตุผลว่าการจะไปรื้อ ถ้าเขาทำถูกต้องแล้วก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าทำไม่ถูกต้องก็พร้อมตรวจสอบ