เดอะมอลล์ ผนึกพันธมิตรแดนมังกร SCPG Group เปิดประตูสินค้าไทยไปจีน ประเดิมงานใหญ่ ณ เมืองเซินเจิ้น และเมืองเซี่ยงไฮ้ หวังอานิสงส์ดึงนักท่องเที่ยวมากขึ้น ฟุ้งแบรนด์จีนสนใจเข้าทำตลาดไทย

25 มิ.ย. 2568 – นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า หนึ่งในพันธกิจของเดอะมอลล์ในฐานะภาคเอกชน ต้องการที่จะผลักดันธุรกิจไทยขยายไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยที่มีฐานใหญ่มาก และสินค้ามีความน่าสนใจ ไม่เหมือนใคร ซึ่งอาจใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ของไทยเพื่อทำการเปิดตลาดมาแล้ว แต่ขณะเดียวกันบริษัทเห็นว่าตลาดจีนมีส่วนสำคัญอย่างมาก จึงได้ร่วมมือกับบริษัท SCPG Group บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน พัฒนา และบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ชั้นนำของจีน ขยายความร่วมมือเชิงเศรษฐกิจและวัฒนธรรมให้เกิดขึ้น

สำหรับความร่วมมือเบื้องต้นจะเกิดขึ้นในงาน “Super-V SCPG Hua Hua Festival” เทศกาลใหญ่ประจำฤดูร้อนของเครือ SCPG ด้วยธีม Kud-Thai Holiday ณ เมืองเซินเจิ้น และเมืองเซี่ยงไฮ้ โดย SCPG ได้นำสินค้าของผู้ประกอบการไทยจากงาน Kud-Thai Market ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์อีเวนต์ของกูร์เมต์ มาร์เก็ต โดยกลุ่มเดอะมอลล์ เข้าจัดแสดงในงาน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Gourmet Thai X Butterbear ในกลุ่มเมนูทองม้วน, ทองแผ่น, ข้าวแต๋น, กระบอกซุป เป็นต้น, ผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น สตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง มะม่วงอบแห้ง ตลอดจนสินค้ากลุ่ม Grocery Non-Food เช่น เสื้อ-กางเกงช้าง, พัดสาน รวมถึงสินค้าจากแบรนด์ THAI THAI ที่มีความโดดเด่น สะท้อนถึงอัตลักษณ์ไทย

“เราเห็นว่า SCPG Group มีหลากหลายธุรกิจ รวมถึงศูนย์การค้าที่เรามองว่ามีศักยภาพในการนำพาแบรนด์ไทยเข้าไปทำตลาดได้ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ นอกเหนือจากจะนำสินค้าไทยไปจำหน่ายในงานดังกล่าวแล้ว ผู้ประกอบการจากทางจีน ยังสามารถนำสินค้าที่คนไทยนิยมหรือชื่นชอบมาทำตลาดไทยด้วยเช่นกัน เราจะเป็นเทรดเดอร์เพื่อนำสินค้ามาขยายตลาดซึ่งกันและกัน รวมถึงยังเป็นโอกาสในการดึงนักท่องเที่ยวจากจีนกลับมาไทยด้วย  หากคนจีนมาเที่ยวเยอะขึ้น ไทยก็จะดีขึ้น ตอนนี้คนจีนมาไทยน้อยมาก นักท่องเที่ยวจีนเป็นคนที่มีกำลังซื้อสูง เราต้องดึงคนจีนมาให้ได้ เนื่องจากตอนนี้จีนลดไป มองว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะดึงกลับมาได้สัก 10% ก็นับว่าดีแล้ว” นางสาวศุภลักษณ์ กล่าว

นายเหยา ไฮ่ปัว ประธานกรรมการบริหาร บริษัท SCPG Group กล่าวว่า จากจำนวนฐานสมาชิกของกลุ่มบริษัทที่มีมากกว่า 60 ล้านคน มองว่าจะเป็นโอกาสดีที่จะทำให้สินค้าไทยภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ สามารถขยายตลาดได้มากขึ้น รวมถึงจะต่อยอดนักท่องเที่ยวจีนมาไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทยังมีพาร์ทเนอร์มากกว่า 2 หมื่นราย ซึ่งประมาณ 1 ใน 3 ของพาร์ทเนอร์สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและเครือเดอะมอลล์ อาทิ กลุ่มอาหาร เครื่องประดับ เป็นต้น แน่นอนว่าประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ มีศักยภาพในการทำค้าปลีกอีกมาก เนื่องจากยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ค่อนข้างเยอะ ในอนาคตกรุงเทพฯ สามารถกลายเป็นศูนย์กลางของโลกได้ แต่ต้องการความหลากหลายความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น