กสทช. ยกระดับมาตรการสกัดแก๊งคอลฯ-อาชญากรรมออนไลน์ พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา มีมติโอเปอเรเตอร์ทุกรายยุติการปล่อยสัญญาณทุกรูปแบบ - รายงานข้อมูลการขายซิมทุก 15 วัน
วันที่ 26 มิถุนายน 2568 นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยถึงมาตรการควบคุมการให้บริการระบบคมนาคม ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ด่านพรมแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยเน้นย้ำถึงความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ทางกัมพูชาได้มีการตัดการรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากประเทศไทยด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเอกชนที่มีสัญญาคู่ค้ากับประเทศกัมพูชา ยังคงมีการปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตตามปกติ แต่จากผลการประชุมในวันนี้ กสทช. ได้มีมติแจ้งให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายยุติการปล่อยสัญญาณทุกรูปแบบ และดึงสัญญาณกลับมาทั้งหมด
มาตรการใหม่และการควบคุมในอนาคต หลังจากนี้ หากมีการส่งสัญญาณอีกครั้ง ผู้ให้บริการทุกรายจะต้องแสดงหลักฐานของคู่ค้าฝั่งกัมพูชาอย่างชัดเจน เพื่อระบุว่ามีการทำธุรกิจประเภทใด และมีความเสี่ยงที่จะถูกนำไปใช้ประโยชน์โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรืออาชญากรรมอื่น ๆ หรือไม่ รวมถึงต้องแจ้งปริมาณ Bandwidth ที่ใช้งานด้วย
สำหรับเอกชนไทยที่เปิดสาขาในประเทศกัมพูชา จะมีการแยกท่อส่งสัญญาณ เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการตัดสัญญาณในครั้งนี้ภายใน 15 วันนับจากนี้ เครือข่ายโทรศัพท์จะต้องตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในแถบแรก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ติดชายแดนมากที่สุด
ส่วนในแถบที่สองจะมีการดึงสัญญาณลงและจำกัดระยะการโทร วันนี้ กสทช. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการปล่อยสัญญาณอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมของประเทศไทย
ผลกระทบต่อประชาชนและการแก้ไขปัญหา แม้ว่าประชาชนชาวไทยจะได้รับผลกระทบในส่วนของการใช้สัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ชายแดน แต่จะมีการจัดเตรียมรถซิมโมบายจากโอเปอเรเตอร์ เพื่อให้บริการบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น
นายไตรรัตน์ยืนยันว่า ขณะนี้พื้นที่ชายแดนสระแก้วไม่มีการลักลอบโยงสายอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ข้ามไปฝั่งประเทศกัมพูชา 100% ควบคุมการจำหน่ายซิมโทรศัพท์ชายแดน
ในส่วนของการซื้อขายซิมโทรศัพท์ในประเทศกัมพูชา กสทช. ได้ประสานกับเครือข่ายโทรศัพท์ว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การเปิดใช้งานซิมในพื้นที่ชายแดนจะต้องมีการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ และวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการนำซิมไปใช้ในทางที่ผิด กสทช. จะมีแผนจัดระเบียบใหม่ และเครือข่ายโทรศัพท์จะต้องรายงานข้อมูลการขายซิมในพื้นที่เฝ้าระวัง รวมถึงวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งาน กลับมายัง กสทช. ทุก 15 วัน
นายไตรรัตน์กล่าวปิดท้ายว่า กสทช. ได้ดำเนินการควบคุมการลากสายสัญญาณโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตของเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์มาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว แต่เมื่อมีวิธีการป้องกัน มิจฉาชีพก็จะเปลี่ยนแปลงวิธีการในการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตไปเรื่อย ๆ เนื่องจากในปัจจุบัน การสื่อสารเป็นไปอย่างเสรี ทำให้เครือข่ายมิจฉาชีพแสวงหาช่องทางต่าง ๆ ในการใช้ประโยชน์อยู่เสมอ