Meta เผย สถิติใช้งานแพลตฟอร์มพุ่ง ดึงโมเดล AI หนุนธุรกิจไทยโต
treenarath_ June 28, 2025 09:22 AM

Meta อัปเดตข้อมูลอินไซต์ สถิติเวลาใช้งานพุ่งทุกแพลตฟอร์ม หนุนเครื่องมือเอไอช่วยสร้างคอนเทนต์ จับกลุ่มเป้าหมายชัดขึ้น ช่วยธุรกิจไทยทำการตลาด-เพิ่มยอดขาย-ลดต้นทุน

Meta อัปเดตข้อมูลล่าสุด ผ่านงาน AI for Business : The Next Generation ที่เปิดเผยอินไซต์ และการนำ AI มาช่วยเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจไทย นำไปสู่การพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานแอปพลิเคชันในเครือ Meta ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยแพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย เปิดเผยว่า Meta ลงทุนไปแล้วกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาโมเดล AI เพื่อการผลักดันนวัตกรรมและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สถิติเติบโตด้วย AI

ในปีนี้เพียงปีเดียว Meta คาดการณ์ว่าจะมีการลงทุนกว่า 64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนศูนย์ข้อมูลและฮาร์ดแวร์สำหรับ AI

สถิติการเข้าถึงกว่าพันล้านต่อวัน

  • ปัจจุบัน Meta มีผู้ใช้งานกว่า 3,430 ล้านคนต่อวัน
  • โดยเฉพาะ Reels มีการแชร์ซ้ำ ๆ กว่า 4,500 ล้านครั้งต่อวัน
  • บทสนทนาทางธุรกิจกว่า 600 ล้านรายการต่อวันบนแพลตฟอร์ม

บูรณาการใช้ AI

เอไอในรูปแบบของ Meta พัฒนาบนโมเดล Llama 4 ที่มีผู้ใช้งานประจำเกือบ 1 พันล้านต่อเดือน เมื่อไม่นานมานี้ก็มีการเปิดตัวแอปฯ Meta AI โดยเฉพาะ ที่ AI เข้ามาช่วยพัฒนาการแนะนำเนื้อหาบนแอปฯของเมต้าอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ส่งผลให้ต่อเวลาใช้งานในแอปฯต่าง ๆ ใน 6 เดือนที่ผ่านมาอย่างมาก

  • เวลาใช้งานผู้ใช้บน Facebook เพิ่มขึ้นกว่า 7%
  • เวลาใช้งานของผู้ใช้บน Instagram เพิ่มขึ้น 6%
  • เวลาใช้งานของผู้ใช้บน Threads เพิ่มขึ้นถึง 35%

ผลตอบแทนจากค่า ROAS

Meta พัฒนาระบบการลดค่าใช้จ่ายค่าโฆษณา (Return on Ad Spend) แต่ไม่ลดผลลัพธ์ ผลการศึกษาล่าสุด ระบุว่า นักโฆษณาในเอเชียแปซิฟิกได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อทุก 1 ดอลลาร์สหรัฐที่ใช้จ่ายบนแพลตฟอร์ม

ขณะที่แคมเปญการขายที่ใช้เครื่องมือธุรกิจอย่าง Meta Advantage+ มีค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 37% เมื่อเทียบกับแคมเปญทั่วไป

ตัวช่วยธุรกิจไทย

เครื่องมือ AI ของ Meta ช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในทุกอุตสาหกรรม อีกทั้งยังช่วยให้ธุรกิจประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายมากขึ้น โดยมีตัวช่วย ดังนี้

  • Meta Advantage+ Campaigns : แคมเปญที่ใช้ AI เข้ามาช่วยปรับงบประมาณ กำหนดเป้าหมาย และพัฒนาคอนเทนต์อย่างเหมาะสม ส่งผลให้ต้นทุนต่อการได้มาของลูกค้า (CPA) ลดลง 9% ต้นทุนต่อลีดที่มีคุณภาพลดลง 10% และต้นทุนต่อการแปลงเป็นลูกค้าลดลง 9%
  • Generative AI : ช่วยสร้างคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบและปรับแต่งภาพโฆษณาให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลของโฆษณา
  • Opportunity Score : เครื่องมือให้คำแนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญ โดยระบุจุดอ่อนและเสนอแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและเหมาะสมให้
  • Value Optimization : เครื่องมือใช้เพื่อจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมายที่สร้างมูลค่าทางธุรกิจสูงที่สุด ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่มีมูลค่าถ่วงน้ำหนัก (Value Weighted Results) เพิ่มขึ้นโดยประมาณ 5.6% ด้วยการมุ่งเน้นงบประมาณไปที่กลุ่มเป้าหมายที่ให้ผลตอบแทนสูง

โมเดล AI เบื้องหลังความสำเร็จ

Meta GEM (Generative Ads Recommendation Model) : โมเดลแนะนำโฆษณาเป็นโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงรุ่นใหม่ที่สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลและเหมาะกับความสนใจของผู้ใช้งาน ช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพของโฆษณาและความแม่นยำในการกำหนดเป้าหมาย

Meta Andromeda : โมเดลการคาดการณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ช่วยปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล โดยสามารถระบุประเภทของโฆษณาและคอนเทนต์ที่มีแนวโน้มจะให้ผลลัพธ์ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้แต่ละคน

อนาคต Meta กับ AI

จากการศึกษาของบริษัทวิจัย Gartner คาดว่า ภายในปี 2568 Generative AI จะกลายเป็นพันธมิตรในการทำงานสำหรับ 90% ของบริษัททั่วโลก และภายในปี 2570 กว่า 50% ของโมเดล Generative AI ที่องค์กรต่าง ๆ ใช้งานจะถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับแต่ละอุตสาหกรรมหรือฟังก์ชันเฉพาะทาง

ในปัจจุบัน AI เป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์แพลตฟอร์มของ Meta โดยเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงทั้งประสบการณ์ของผู้บริโภคและผลลัพธ์ทางธุรกิจ และปีนี้ก็จะเป็นอีกปีที่ Meta เดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง

ภายในงาน นอกจากข้อมูลอินไซต์ แพรได้เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ขององค์กรที่นำไปสู่แนวทางในอนาคต ว่า แค่ในปีนี้ปีเดียว เราลงทุนไปกว่า 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐไปกับเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับขีดความสามารถของแพลตฟอร์มเพื่อให้มีประสิทธิภาพสำหรับกสนสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (more personal),  ขับเคลื่อนการเติบโต more growth), และเจาะกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น (more conversion)

“เครื่องมือ AI ของเราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนการตลาด โดยเครื่องมือเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่าย และเหมาะสำหรับกระบวนการธุรกิจประจำวัน ช่วยเพิ่มยอดขาย ค้นหาลูกค้าใหม่ และลดต้นทุนผ่านการทำงานอัตโนมัติและการสร้างเนื้อหา นอกจากนี้ ยังมีความยืดหยุ่นในการขยายขนาดกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ทั้งธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่สามารถได้รับประโยชน์เท่าเทียมกัน” แพร กล่าว

นอกจากนี้เธอยังให้คำแนะนำว่า AI พัฒนาการไปอย่างรวดเร็วด้วยการขับเคลื่อนจากนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับธุรกิจที่จะต้องปรับตัวให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และมีความจำเป็นต้องเริ่มจากการมีแนวคิดที่อยากจะทดลองและเรียนรู้ (Test and Learn Mindset)

ขั้นตอนแรก คือ การทำความเข้าใจอย่างชัดเจนว่า วิธีการใช้งาน AI แบบไหนที่สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจของตัวเอง จากนั้นจึงตามมาด้วยการทดลองใช้เครื่องมือเอไอที่หลากหลาย ปรับกระบวนการทำงานให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเปิดประตูไปสู๋โอกาสใหม่ ๆ และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างชัดเจน

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.