เผยยิบวงกมธ. เรียกคู่กรณีศิลปินแห่งชาติ หลังร้องเรื่องสุดฉาว ยืมงานไปขาย รับถูกขู่เอาชีวิต
GH News June 28, 2025 09:45 AM

เลขาฯชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม เผยยิบวงกมธ. เรียกคู่กรณีศิลปินแห่งชาติ หลังร้องเรื่องสุดฉาว ยืมงานไปขาย รับถูกขู่เอาชีวิต แจ้งความข้ามจังหวัด

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายวรา จันทร์มณี อดีตเลขาฯศิลปินแห่งชาติ อังคาร กัลยาณพงศ์ และ เลขาธิการชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเผยบรรยากาศการประชุม คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาเรื่องร้องเรียนให้สอบจริยธรรมศิลปินแห่งชาติ โดยระบุว่า

“เมื่อวานช่วงเช้า (26 มิถุนายน) คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญผมในฐานะเลขาธิการชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม เข้าร่วมให้ความเห็นกรณีคุณชุติมา ร้องเรียนให้ตรวจสอบการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพจิตรกรรม “พระพุทธบาท” ของ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเธออ้างว่าศิลปินแห่งชาติท่านหนึ่งนำผลงานชิ้นนี้ซึ่งเธอซื้อไว้แล้ว ไปขายต่อให้ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยอีกทอดหนึ่ง

โดยมีนักกฏหมายด้านสิทธิมนุษยชนสองท่าน คือ ทนายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี และทนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ไปในฐานะทนายความของคุณชุติมา (ทนายธีรพันธุ์เป็นทนายให้คุณชุติมา กรณีถูกศิลปินแห่งชาติแจ้งความฐานหมิ่นประมาทกับ สน.โชคชัย กรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อต้นเดือน (5 มิ.ย.68) เพิ่งไปรับทราบข้อกล่าวหามา)

  • ทนายเผยเรื่องฉาว ศิลปินแห่งชาติ ยืมงานไปแสดง แต่เอาไปขายก.วัฒนธรรม 10 ปีสู้ทวงคืน โดนสารพัด

เมื่อวานใช้เวลาประชุมประมาณ 3 ชั่วโมง เบื้องต้นขอชื่นชมว่ากรรมาธิการเก่ง ซักถามอย่างละเอียดรอบด้าน โดยกรรมาธิการได้ซักถามทุกฝ่ายตามลำดับ ในส่วนของผมถูกถามถึงบทบาทของชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม ผมก็ได้เรียนว่า เดิมทีผมเคยเป็นเลขาศิลปินแห่งชาติ อังคาร กัลยาณพงศ์ ได้ร่วมทำกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมกันมาตั้งแต่สมัยท่านมีชีวิต ต่อมาเมื่อปี 2562 มีเหตุการณ์ที่กรมศิลปากรได้ลดเขตโบราณเขายะลาเพื่อเปิดทางให้มีการระเบิดหิน ผมจึงเริ่มเคลื่อนไหวเครือข่ายภาคประชาสังคม “ชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม” คัดค้านการเพิกถอนเขตโบราณสถานดังกล่าวผ่านกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร จนสำเร็จ (ต่อมาชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรมก็ได้ทำทั้งเรื่องปกป้องโบราณสถานต่างๆ รวมทั้งการทวงคืนผ้าพระบฏเมืองสงขลา และเรียกร้องให้นำโกลเด้นบอยกลับบุรีรัมย์ เป็นต้น)

ในกรณีคุณชุติมา เมื่อผมทราบว่าการพิจารณาของสภาล่าช้า โดยมีข่าวว่า “ผู้ใหญ่ขอ” กอรปกับรู้ว่าคุณชุติมาเคยถูกข่มขู่เอาชีวิตและถูกโจรเข้าไปขโมยเอกสารเกี่ยวกับคดีในบ้าน ผมจึงยากจะนิ่งเฉย เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เกี่ยวข้องกับศิลปินแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม และสภาผู้แทนราษฎร ผมจึงแนะนำให้คุณชุติมาทำหนังสือติดตามทวงถามถึงคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบฯ อีกครั้ง หลังจากที่เธอยื่นมาครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2566 อีกทั้งแนะนำให้เธอยื่นข้อร้องเรียนถึงคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ด้วย เผื่อว่าคณะกรรมาธิการการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบฯ จะไม่ดำเนินการอีก

สิ่งที่ผมขอยืนยันกับสาธารณะในกรณีข้อพิพาทระหว่างคุณชุติมากับศิลปินแห่งชาติ คือต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ทั้ง 2 ฝ่ายจะได้รับความเป็นธรรมก็ต่อเมื่อมีพื้นที่แห่งความเป็นธรรมที่เท่าเทียมกัน โดยผมมองว่า ที่ผ่านมา คุณชุติมาไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างน้อย 6 ประการ คือ

1. การที่คู่กรณีเป็นศิลปินแห่งชาติ เธอได้ถูกคนในวงการศิลปะ นักสะสม และประชาชนกลุ่มหนึ่งพิพากษาไปแล้วว่า ศิลปินแห่งชาติเป็นคนดี มีเกียรติ สูงส่ง ส่วนตัวเธอนั้นสร้างเรื่องโกหก สามีเธอก็เป็นแค่คนขับรถให้ศิลปิน คนธรรมดาอย่างเธอและสามี จะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนไปให้ศิลปินยืมตั้ง 3.98 ล้าน และมีเงินซื้อภาพตั้ง 7 แสนบาท โดยมิได้มีใครสนใจที่จะให้ความเป็นธรรมหรือสืบหาข้อเท็จจริง

2. เธอเคยถูกข่มขู่เอาชีวิต (มีตำรวจร่วมรับฟัง) และถูกโจรบุกเข้าไปขโมยเอกสารเกี่ยวกับคดีในบ้าน (มีบันทึกการแจ้งความ) แต่ตำรวจจับคนร้ายไม่ได้ และแนะนำให้เธอหนี เพราะหากอยู่เชียงใหม่อาจมีอันตรายถึงชีวิต นั่นหมายความว่าอะไร หมายความว่ามีปัญหากับศิลปินแห่งชาติ ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยในจังหวัดเชียงใหม่ได้แล้วใช่หรือไม่

3. คุณชุติมา ได้แจ้งความกับตำรวจเชียงใหม่กรณีภาพจิตรกรรมถูกนำไปขายต่อให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 จนบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี เธอจึงวิตกกังวลว่าคดีจะถูกลากออกไปนานอย่างไม่มีข้อกำหนด และไม่แน่ใจว่าจะมีอำนาจใดเข้ามาแทรกแซงความตรงไปตรงมาในการดำเนินคดีของตำรวจหรือไม่ (https://www.facebook.com/share/p/16hoAtafLD/?mibextid=wwXIfr)

4. คุณชุติมา ได้ทำหนังสือติดตามเรื่องเจ้าของกรรมสิทธิ์ผลงานไปยังสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ก็ได้รับคำตอบแค่ว่าผลงานศิลปะดังกล่าวมีกระบวนการจัดซื้อโดยถูกต้อง แต่มิได้ชี้แจงรายละเอียดข้อมูลหรือส่งเอกสารประกอบอื่นใด เรื่องนี้จึงมีคำถามว่าเป็นเพราะคุณชุติมาเป็นแค่คนเล็กคนน้อยใช่หรือไม่ หน่วยงานรัฐจึงไม่ให้ราคา และหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง นอกจากอ้างกฏหมาย จะไม่มีคุณธรรมมโนธรรมอะไรเลยหรือที่จะสามารถทำให้กระทรวงวัฒนธรรมรับผิดชอบในการกระทำที่ตนใช้เงินภาษีประชาชนดำเนินการ และหากมีช่องทางกฏหมายที่จะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนได้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ดำเนินการ อาจมีความผิดตามมาตรา 157 ใช่หรือไม่ (https://www.facebook.com/share/p/191TrE7FAj/?mibextid=wwXIfr)
( ข้อสังเกตเพิ่มเติม* ในการจัดซื้องานศิลปะของสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยฯ ประชาชนไม่ทราบเลยว่ากระบวนการโปร่งใสหรือไม่อย่างไร ใครเป็นผู้คัดเลือกผลงาน เป็นธรรมหรือไม่ ซื้องานแต่ละชิ้นราคาเท่าไร สมเหตุสมผลหรือไม่ จัดซื้อโดยใช้งบประมาณหมวดไหน เป็นต้น)

5. คุณชุติมาทำเรื่องร้องเรียนถึงคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มานานปีครึ่ง ก็ยังไม่ได้รับการพิจารณา แถมยังมีข่าวว่า “ผู้ใหญ่ขอ” คำถามคือ หากพึ่งตำรวจไม่ได้ มาสภาผู้แทนราษฎรก็ยังพึ่ง ส.ส. ที่ประชาชนเลือกมาไม่ได้ แล้วประชาชนจะไปพึ่งใคร? และอย่าลืมว่าที่ประชาชนต้องบากหน้าเสียเงินเสียทองเดินทางมาร้องเรียน เพราะเขาเดือดร้อน หากพิจารณาล่าช้า ความล่าช้านั้นก็คือความไม่เป็นธรรม

6. ศิลปินแห่งชาติ ปกติพักอาศัยอยู่จังหวัดเชียงใหม่ และคุณชุติมาก็อยู่เชียงใหม่ แต่เหตุใดล่าสุดศิลปินแห่งชาติจึงมาแจ้งความคุณชุติมาฐานหมิ่นประมาท ที่ สน.โชคชัย กรุงเทพฯ

ในสมัยที่คุณชุติมายังทำงานรับใช้ศิลปินแห่งชาติ ขณะนั้นลูกชายเธออายุแค่ไม่กี่ขวบ และเขาเคยเป็นออทิสติก แต่ปัจจุบันหายแล้ว ในขณะที่ลูกป่วยเป็นออทิสติก ทั้งคุณชุติมาและสามีต้องดูแลลูกด้วยความยากลำบาก ใช้จ่ายต้องประหยัด อยากให้ทุกท่านลองคิดดูว่า หากคุณชุติมาไม่ได้ปั้นน้ำเป็นตัว แต่เธอถูกกระทำต่างๆ ดังข้างต้นจริง ครอบครัวเขาต้องอดทนแค่ไหนกับการถูกกระทำ การถูกประณามหยามเหยียด และการไม่ได้รับการใส่ใจจากใครเลย สังคมไทยจะไม่มีพื้นที่ให้คนเล็กคนน้อยที่ถูกรังแกได้หายใจจริงหรือ ทำไมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขาถึงต่ำกว่าศิลปินแห่งชาติ เขาไม่ใช่คนเหมือนศิลปินแห่งชาติหรืออย่างไร

เมื่อเห็นว่าคุณชุติมาไม่ได้รับความเป็นธรรมดังกล่าว ชมรมคนรักศิลปวัฒนธรรม ซึ่งมีเจตนารมณ์ในการปกป้องศิลปวัฒนธรรม ผลประโยชน์สาธารณะ ภายใต้หลักความเป็นธรรม จึงมิสามารถเพิกเฉยละเลยทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว วางเฉยอยู่ได้ ความถูกต้องต้องมาก่อนระบบพรรคพวก สังคมต้องยึดถือระบบคุณธรรม ไม่ใช่ระบบอุปถัมภ์

หากบอกว่าศิลปินแห่งชาติไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ต้องคิดอีกมุมว่าแล้วถ้าคนเล็กคนน้อยที่มีข้อพิพาทกับศิลปินแห่งชาติไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการด่วนตัดสินของสังคมล่ะ จะว่ายังไง ไม่เท่ากับเลวกันทั้งสังคมหรือ ดังนั้นเมื่อยึดหลักความเป็นธรรม ก็ต้องให้ความเป็นธรรมอย่างเสมอกัน ไม่มียศชั้นตำแหน่งอำนาจ เราต้องยึดหลัก “คนเท่ากัน” ไม่ควรมีใครมีอภิสิทธิ์เหนือใคร สังคมจึงจะสามารถไปต่อได้ อยู่ร่วมกันได้อย่างมีกติกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เกี่ยวข้องกับจริยธรรมของศิลปินแห่งชาติที่ได้รับค่าตอบแทนและสวัสดิการจากภาษีประชาชน กระทรวงวัฒนธรรมก็ใช้ภาษีประชาชนไปซื้อภาพ จึงต้องรีบทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ

มีผู้ตั้งประเด็นว่า เรื่องนี้ควรให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ผมก็ขอตอบเหมือนกับที่ชี้แจงไปในที่ประชุมกรรมาธิการว่า ที่ประชาชนเขามาร้องเรียน เพราะเขารู้สึกว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ไปแจ้งความตำรวจก็ไม่รีบดำเนินคดี ไปร้องเรียนสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยฯ ก็ตอบกลับมาแบบห้วนๆ บ้านเมืองเรามี 3 อำนาจถ่วงดุลกัน คือบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ เมื่อประชาชนเห็นว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการตุลาการ เขาก็มาร้องเรียนผู้แทนของเขาซึ่งเป็นผู้แทนราษฎรที่ต้องช่วยให้เขาได้รับความเป็นธรรม

การพิจารณาของคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ยังไม่แล้วเสร็จ ยังมีต่อรอบสอง ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ ส.ส.พุธิตา ชัยอนันต์ โฆษกคณะกรรมาธิการฯ ที่ประสานงานช่วยเหลือเป็นอย่างดี ขอบคุณคณะกรรมาธิการฯ ทุกท่าน คณาจารย์นักวิชาการ นักกฏหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน ศิลปิน นักสะสม ที่ให้ข้อมูลและให้กำลังใจ ผมคิดว่าการดำเนินการของพวกเราเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ ยึดมั่นหลักมนุษยธรรม ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า “ก่อนที่จะเป็นศิลปินหรือเป็นอะไร ควรมีความเป็นมนุษย์ก่อน” ขอบคุณครับ”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.