เปิดพิกัด 6 วัดลับฮ่องกง ฉบับโลคอล โดยอาจารย์คฑา ชินบัญชร ที่สายมูตัวจริงต้องไปให้ถึง
หากใครวางแผนไปฮ่องกง แน่นอนว่าการไหว้พระขอพรจะต้องเป็นหนึ่งในลิสต์กิจกรรมที่ต้องทำ เพราะฮ่องกงขึ้นชื่อว่าขออะไรก็สมปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นที่วัดหวังต้าเซียน วัดแชกง (หรือที่คนไทยชอบเรียกว่าวัดกังหัน) ซึ่งคนไทยมักไปสักการะกัน
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริง ๆ แล้วฮ่องกงยังมีวัดอีกมากมายที่ศักสิทธิ์ โดย “อาจารย์คฑา ชินบัญชร” กูรูสายมูตัวจริงได้เปิดลิสต์ 6 วัดลับฉบับโลคอลฮ่องกงให้สายมูชาวไทยได้ไปมูกันแบบไม่ซ้ำใคร
เริ่มต้นกันที่วัดแชกง โหวช้ง (Che Kung Temple, Ho Chung) วัดเล็ก ๆ ในย่านไซกุง สร้างขึ้นราว 400 ปีก่อน ถือได้ว่าเป็นวัดแชกงที่เก่าแก่กว่าวัดแชกงที่ซาถิ่น (ที่เป็นที่นิยมสุด ๆ ในหมู่คนไทย และกำลังปรับปรุงพื้นที่ จะแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2568) จึงเป็นเวลาที่เหมาะกับการสักการะวัดแชกง โหวช้งที่สุด
คนในย่านไซกุงสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติและแสดงความเคารพต่อท่านนายพลแชกง แม่ทัพผู้เกรียงไกรแห่งราชวงศ์ซ่ง เชื่อกันว่าพลังอำนาจของท่านจะช่วยปัดเป่าโชคร้าย พัดพาโชคดีเข้าหาตัว และให้พรด้านธุรกิจรุ่งเรือง วัดแชกง โหวช้งยังมีกังหันใหญ่ 2 ตัวตั้งอยู่ด้านหน้าวัด ตัวทางซ้ายเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงครอบครัว ส่วนตัวทางขวาสื่อถึงความราบรื่นในชีวิต
วัดเจ้าแม่ทับทิม จอสเฮาส์เบย์ (Tin Hau Temple, Joss House Bay) อีกหนึ่งวัดลับในย่านไซกุง เป็นวัดเจ้าแม่ทับทิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในฮ่องกง ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของฮ่องกง ผู้มาสักการะจะสามารถมองเห็นวิวทะเลอันสวยงามได้จากบริเวณวัดอีกด้วย
ไฮไลต์ของวัดนี้คือห้องนอนของเจ้าแม่ทับทิม ภายในมีเตียงมังกรจำนวน 3 หลัง ให้ผู้คนได้เข้ามาขอพรในเรื่องการเงิน สุขภาพ และขอบุตร โดยหลังจากอธิษฐานเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้มือทั้งสองข้างทำท่าโกยเข้าหาตัวจำนวน 3 ครั้ง
จากนั้นล้วงเข้าไปใต้ผ้าห่มเพื่อคลำหาของใต้เตียง เชื่อกันว่า หากคลำพบเมล็ดบัวหมายถึงจะได้ลูก หรือหากคลำเจอซองใส่เงินนำโชค ก็จะพบกับความร่ำรวยในปีที่กำลังจะมาถึง โดยแนะนำให้ขอเพียง 1-2 เรื่องเท่านั้น
สำหรับย่านไซกุงได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวนหลังบ้านของฮ่องกง” หากแวะมาไหว้พระที่วัดทั้งสองแห่งในย่านไซกุงแล้ว แนะนำให้ลองมาเยี่ยมเยือนตัวเมืองไซกุง (Sai Kung Town) อันเงียบสงบ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมเมืองในบรรยากาศชิล ๆ แวะคาเฟ่ ชิมอาหารทะเลสดๆ และชมธรรมชาติอย่างแนวภูเขาและทะเลซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับคนท้องถิ่น หรือจะนั่งเรือข้ามฝากจากตัวเมืองไซกุงเพื่อไปเยี่ยมชมเกาะเล็ก ๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย
วัดหยวนหยวน (Yuen Yuen Institute) วัดขนาดใหญ่ในย่านซึนวาน ตั้งอยู่กลางหุบเขาและแม่น้ำซึ่งนับเป็นลักษณะที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี สร้างขึ้นเพื่อเผยแผ่ศาสนาพุทธ ลัทธิขงจื๊อ และเต๋า
มีไฮไลต์สำคัญคือศาลไฉ่ซิงเอี๊ยสีทองอร่าม ที่ประดิษฐานเทพเจ้าโชคลาภครบทั้ง 5 องค์ที่มอบพรในด้านต่าง ๆ ตามทิศ และ “หอฟ้า” อาคารทรงหกเหลี่ยมจำลองจากหอฟ้าเทียนถานในกรุงปักกิ่ง เป็นที่ประดิษฐานองค์ไท้ส่วยเอี๊ยทั้ง 60 องค์ เพื่อให้คนได้มาแก้ปีชงกับไท้ส่วยประจำปีเกิดได้
อ.คฑา ชินบัญชร ได้แนะนำวิธีแก้ปีชง โดยเริ่มจากจุดธูปใหญ่ 3 ดอก ธูปเล็ก 6 ดอก หันหน้าไปทางประตูวัด บอกชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และสิ่งที่ต้องการขอ ปักธูป ดอกเล็กที่กระถางซ้ายขวา กระถางละ 3 ดอก จากนั้น นำธูปดอกใหญ่ ไปปักไว้บนกระถางชั้นบนของหอฟ้า หน้าองค์พระศาสดาทั้งสาม คือ พระพุทธเจ้า ขงจื๊อ และศาสดาของลัทธิเต๋า
ถัดไป ลงมาที่ชั้นล่าง เพื่อไหว้เทพเจ้า “ทาย-เซยว์” (Tai Sui) หรือองค์ไท้ส่วยเอี๊ยซึ่งจะมีทั้งสิ้น 60 องค์ตามปีนักษัตร ในโถงชั้นนี้ห้ามจุดธูป แต่จะใช้วิธีวางธูปหน้าเทพเจ้าหลังจากไหว้เสร็จสิ้น โดยจะเริ่มจากไหว้องค์ “เต๋า-โหม่ว” หรือเต๋าบ๊อ (Doumu) พระมารดาแห่งดวงดาวที่มี 3 พระเศียร และ 8 พระกร
จากนั้นตรงไปไหว้ที่องค์ไท้ส่วยเอี๊ยประจำปีเกิด วางธูป 3 ดอก และไหว้องค์อื่นๆ พร้อมวางธูปองค์ละ 1 ดอก จนครบ 60 องค์
ไม่ไกลจากวัดหยวนหยวน มีสำนักสงฆ์ “ไซ้-ฟ้อง-จี๋” (Western Monastery) เป็นวัดอันเงียบสงบ มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่จำลองจากพระราชวังจีน
ไฮไลต์สำคัญ ได้แก่ เจดีย์ 9 ชั้น ที่บรรจุพระพุทธรูปและวัตถุโบราณ และยังมีอุทยานเจ้าแม่กวนอิมที่ร่มรื่น สงบ เป็นที่ประดิษฐานประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมหลากหลายปาง เหมาะอย่างยิ่งกับการมาเดินเล่นสงบจิตใจ
ย่านซึนวานตั้งอยู่ในเขตทางตะวันตกของเขต New Territories แม้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคย แต่เดินทางสะดวกด้วย MTR และแม้พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นย่านที่อยู่อาศัย แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายทั้งแหล่งช็อปปิ้ง ธรรมชาติ วัฒนธรรม สำหรับสายกิน ขอแนะนำย่าน “ซั้ม-แจ๋ง” (Sham Tseng) ที่มีชื่อเสียงในฐานะ “เมืองห่านย่าง” ของฮ่องกง และมีร้านห่านย่างเด็ด ๆ อยู่มากมาย
วัดหลินฟ้า (Lin Fa Kung Temple) ตั้งอยู่ในย่านไท่หาง เป็นวัดเล็ก ๆ ที่สายมูชาวไทยตัวจริงจะต้องรู้จัก คนฮ่องกงเรียกว่า “หลี่น-ฟ้า-ก๊ง” แปลว่า วังดอกบัว มีตำนานเล่าไว้ว่าครั้งหนึ่งเจ้าแม่กวนอิมเคยปรากฏกายบนก้อนหินใหญ่ที่นี่ ชาวบ้านจึงสร้างวัดบนหินก้อนนั้นเพื่อบูชาเจ้าแม่กวนอิม และให้ชื่อว่า “หินดอกบัว” ปัจจุบันหินก้อนนั้นอยู่บริเวณด้านหลังของวัด
เทศกาลที่สำคัญของวัดนี้ นอกจากเทศกาลที่เกี่ยวกับเจ้าแม่กวนอิม เช่น วันเปิดท้องพระคลัง ก็ยังมีเทศกาลเชิดมังกรไฟ (Tai Hang Fire Dragon Dance) ซึ่งเป็นประเพณีโบราณในช่วงวันไหว้พระจันทร์ของคนในหมู่บ้านไท่หาง
วัดกว๋อง-ฟก-ฉี่-ห่อง (Kwong Fuk Ancestral Hall หรือ Kwong Fook Tsz) ตั้งอยู่บนถนนไถ่ผิงซาน เป็นวัดเก่าแก่ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาคารทางประวัติศาสตร์ ระดับ 1 เป็นที่รู้จักกันดีในนามวัดจี้กง เพราะมีรูปปั้นองค์จี้กงให้สักการะอยู่ภายใน
โดยขึ้นชื่อสุด ๆ ในหมู่คนฮ่องกงด้านการขอคู่ แม้แต่ดาราดัง ๆ ก็ยังแวะเวียนมาไหว้ เพราะมีเทพเจ้า “หยืดว์-โหลว” หรือที่คนไทยเรียกว่าเทพเจ้าด้ายแดง (ผู้เฒ่าจันทรา หรือเทพพ่อสื่อในตำนานจีน) ที่นี่สามารถทำพิธีผูกด้ายแดงได้ด้วย แต่ต้องให้เกจิอาจารย์ของวัด หรือ ซือฝู เป็นผู้ประกอบพิธีให้
สำหรับถนนไถ่ผิงซานในย่านเซิงหว่าน (Sheung Wan) เป็นย่านที่เงียบสงบแต่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม คาเฟ่สุดเก๋ แกลเลอรี่ศิลปะ และร้านอาหารมากมาย อาทิ ร้าน For Kee ร้านข้าวหมูทอดที่โด่งดังสำหรับคนไทยสุด ๆ
ถนนยาว 300 เมตรแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่หลายแห่ง นอกจากนั้นยังสามารถเดินเที่ยวต่อไปย่านเซ็นทรัล เพื่อชมสถาปัตยกรรม และอาคารต่าง ๆ ที่สร้างถูกต้องตามตำราฮวงจุ้ย หรือสายอาร์ตจะเดินชม Street Art บนกำแพงที่ประดับประดาไปทั่วทั้งย่านจากศิลปินชื่อดังจากทั่วโลกก็ได้