‘KAYAKI’ ย่างปลา สไตล์ญี่ปุ่น ตอบโจทย์สายปิ้ง-ย่างแบบเฮลตี้
GH News June 29, 2025 09:15 AM

‘KAYAKI’ ย่างปลา สไตล์ญี่ปุ่น ตอบโจทย์สายปิ้ง-ย่างแบบเฮลตี้

ปี 2568 “เทรนด์อาหารญี่ปุ่นในไทย” จากความนิยมและพฤติกรรมการบริโภคอาหารญี่ปุ่นของคนไทย “อินไซต์จานโปรด! เมนูไหนที่คนไทยชอบโพสต์” ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ยังคงมาแรงและได้รับความนิยมที่ติดอยู่ในท็อป 5 จากผลสำรวจของ บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด

ล่าสุด 3 ผู้บริหาร เบ๊นซ์-ปณิธาน, โบ๊ท-ปณิธิ และ เพลน-ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้ริเริ่มเทรนด์ แบบไม่ตามใคร ได้ฤกษ์เปิดร้านใหม่ KAYAKI ภายใต้คอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA (YAKI-ย่าง, ZAKANA-ปลา) กับร้านปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ยังไม่เคยมีในไทยมาก่อน ถือว่าเป็นเจ้าแรกในไทย ที่ตอบโจทย์สายปิ้งย่างของคนรักสุขภาพ โดยนำวัตถุดิบเกรดซาชิิมิระดับพรีเมียมส่งตรงจากญี่ปุ่น นำมาย่างด้วยเทคนิคเฉพาะของทางร้าน เสิร์ฟคู่กับข้าวญี่ปุ่นสูตรพิเศษของทางร้าน และน้ำจิ้มสูตรเฉพาะที่จัดมาทานคู่กันแต่ละประเภทของปลาซึ่งจะเพิ่มความอร่อยแบบเต็มคำ

จากการที่สามพี่น้องนักบริหารมักจะชอบสรรหาความอร่อยแวะไปชิมร้านเด็ดประจำท้องถิ่นอยู่บ่อยๆ ในระหว่างไปพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งสามท่านไม่หยุดนิ่งที่จะมองหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติม เพื่อกลับมาพัฒนาและต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ในการรับประทานอาหารที่หลากหลายมากขึ้น

โบ๊ท-ปณิธิ กอบกุลสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท ไทยสากล เอสเตท จำกัด เล่าถึงที่มาของร้าน KAYAKI ว่า ย้อนกลับไปเมื่อมิถุนายนปีที่แล้วทางเราได้ไปเจอร้านนึงที่ประเทศญี่ปุ่น กินแล้วติดใจมากด้วยคอนเซ็ปต์และสไตล์ที่แปลกใหม่ รวมถึงรสชาติที่ชวนให้คิดถึงตอนเดินกลับโรงแรมแบบหยุดคิดไม่ได้ ร้านที่ว่านั่นเป็นร้านแนวปลาย่างที่ตัดเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ

ไม่ใช่การย่างทั้งตัวหรือชิ้นใหญ่ตามที่เห็นในท้องตลาด ซึ่งจะมีชิ้นปลาหลายชนิดแต่ละส่วนของปลาแตกต่างกัน ถ้าให้นึกภาพให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ เป็นร้านที่มีคอนเซ็ปต์คล้ายกับ YAKINIKU (ร้านเนื้อย่าง) คือการเอาชิ้นเนื้อส่วนต่างๆ ของวัวมาย่าง ซึ่งจะย่างออกมาแนว medium rare กึ่งสุกกึ่งดิบซะส่วนใหญ่ ทางเราเห็นว่าร้านแนวนี้ยังไม่เคยเห็นที่ประเทศไทย และเรามองว่าเนื้อปลาเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และดีต่อสุขภาพ เหมาะกับคนที่ชอบ

อาหารเฮลตี้ ถึงแม้ว่าปลาที่นำมาย่างนั้นจะมีแบบติดมันบ้าง แต่ก็เป็นไขมันดีที่เหมาะสมต่อร่างกาย น่าจะตอบโจทย์สายรักสุขภาพ แต่อยากทานปิ้งย่างแล้วไม่รู้สึกผิดกับร่างกาย นอกจากนี้ ยังเพิ่มซีฟู้ดต่างๆ เข้ามาเสริมเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการรับประทานที่หลากหลายยิ่งขึ้น เรียกได้ว่า KAYAKI ภายใต้คอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA ถือเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยก็ว่าได้

KAYAKI เป็นร้านอาหารประเภทปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่นำเนื้อปลาเกรดซาชิมิระดับพรีเมียมสามารถทานดิบได้ โดยมีเนื้อปลาหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น

“ปลาเนื้อแดง” เทียบเท่ากับเนื้อวัว ซึ่งมีระดับไขมันของเนื้อปลาที่แตกต่างกัน อาทิ Maguro-มากูโระ (ปลาทูน่า) โดยนำ 3 ส่วนสำคัญของปลาเนื้อแดงที่นิยมนำมาทำ YAKIZAKANA คือ “Otoro” (โอโทโร่) ปลาเนื้อที่มีมันแทรกระดับสูงสุด จะอยู่บริเวณท้องด้านล่างของปลา ละลายในปากมีรสชาติเข้มข้น หวานมัน ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลต์ ในเมนูโอมากาเสะหรือซูชิพรีเมียม ซึ่งเทียบเท่ากับเนื้อ A5,

“Chutoro” (ชูโทโร่) ปลาเนื้อที่มีไขมันระดับปานกลางพอดีทาน จะอยู่บริเวณหน้าท้องตอนบน มีไขมันแทรกเล็กน้อย เนื้อนุ่มละลายในปาก แต่ยังคงเท็กซ์เจอร์ของเนื้อปลาที่ยังมีความแน่นๆ มากกว่าโอโทโร่ ซึ่งเป็นส่วนที่คนนิยมทานมากที่สุด ซึ่งเทียบกับเนื้อ A4-A3

“Akami” (อากามิ) ปลาเนื้อแดงไม่ติดมัน จะลีนที่สุดของตัวปลา อยู่บริเวณกลางลำตัว เป็นส่วนของกล้ามเนื้อของปลาที่ใช้ว่ายน้ำ มีไขมันน้อย เนื้อสัมผัสมีความแน่น นุ่ม เทียบเท่ากับเนื้อสันใน

“ปลาเนื้อขาว” เปรียบเสมือนเนื้อไก่ มีความนุ่มของเนื้อปลาเมื่อกัดเข้าไปแต่ละคำยังคงได้เท็กซ์เจอร์ของเนื้อปลาอยู่ โดยการแล่เนื้อปลาแบบฟินเลต์ซึ่งจะแตกต่างจากการแล่เพื่อทานเป็นซาชิมิหรือเทปปัน โดยจะหั่นเป็นแนวเฉียง 30-40 องศา ต้องใช้มีดที่คมหั่นเพียงครั้งเดียวให้ติดหนัง เพื่อเวลาย่างไฟหนังปลาจะช่วยจะทำให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น รวมถึงจะทำให้ปลาสุกไว เนื้อปลาไม่แตกเวลาย่าง ปลาขาวที่นิยมนำมาย่าง อาทิ Madai-มาได (ปลากะพงแดงญี่ปุ่น), Kinmedai-คินเมได (ปลากะพงแดงตาโต), Hamachi-ฮามาจิ (ปลาหางเหลือง)

“อาหารทะเล” ที่จะช่วยเบรกระหว่างรับประทานเนื้อปลา และยังเป็นเมนูเสริมสำหรับคนที่รักซีฟู้ดอีกด้วย อาทิ Aka ebi-อะกาเอบิ (กุ้งแดงญี่ปุ่น), Hotate-โฮตาเตะ (หอยเชลล์) และหมึก

เพลน-ปวิตรา กล่าวเสริมว่า ความพิเศษในการทานเนื้อปลาแบบไม่ปรุง จะได้รสชาติความหวานจากเนื้อปลารวมถึงเท็กซ์เจอร์ของเนื้อปลา แต่ปลาบางชนิดจะต้องนำมาดรายเอจ (Dry-aged) ก่อน ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของปลา เพื่อดึงรสชาติของเนื้อปลาออกมา ซึ่งการดรายเอจเป็นเทคนิคของคนญี่ปุ่นที่มีมานานตั้งแต่สมัยเอโดะ (ปี 1603-1868) โดยเฉพาะปลาเนื้อขาว ซึ่งจะทำให้เนื้อปลาไม่มีกลิ่นคาว

“อย่างที่ทราบกันดีว่าคนญี่ปุ่นจะมีวัฒนธรรมและพิธีการในการรับประทานอาหารในแบบฉบับของคนญี่ปุ่น เราจึงมีการเทรนด์พนักงานให้มาย่างเนื้อปลาโดยเฉพาะ พร้อมเสิร์ฟให้ทานทีละคำ เนื่องจากปลาแต่ละชนิดจะรับประทานด้วยความสุกที่แตกต่างกันไป รวมถึงต้องคุมอุณหภูมิและเวลาให้เหมาะพอดี ทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นปรุงพิเศษจากทางร้าน เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องปรุงและน้ำซอสเอาไว้จิ้มทานคู่กัน ปลาทุกชิ้นจะเสิร์ฟมาแบบมีเดียมแรร์คือ เนื้อสัมผัสภายนอกจะมีความ

สุกนิดๆ หอมกลิ่นสโมกเบาๆ บนผิวของเนื้อปลา แต่ยังได้ความปลาดิบข้างในซึ่งคงรสชาติความหวานของเนื้อปลาอยู่เป็นเนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่ เมื่อได้ที่แล้วจะวางไว้บนข้าวญี่ปุ่น เพื่อให้น้ำมันจากเนื้อปลาแทรกซึมเข้าไปยังเม็ดข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มความหอมก่อนจะทานคู่กับเครื่องเคียง อาทิ เกลือมะนาว, วาซาบิ, ซอสสูตรพิเศษต่างๆ ของทาง KAYAKI เพื่อเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น โดยพนักงานจะคอยแนะนำว่าปลาชนิดไหนทานคู่กับอะไร ที่จะช่วยชูความอร่อยให้กับคำนั้นๆ เรียกว่านี่เป็นการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคที่เข้ามารับประทานในร้านของเรา” ปวิตรากล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ สามารถสั่งเป็นเซตที่มาหลากหลายเมนูในจานเดียว ซึ่งมีทั้งหมด 3 เซต ได้แก่ เซต SEIKAI 6 ชิ้น ได้แก่ Chutoro, Hamachi, Salmon, Aka ebi, Ika, Madai ราคา 890 บาท, เซต KAIYO 7 ชิ้น ได้แก่ Chutoro, Hotate, Akami, Aka ebi, Salmon, Ika, Madai ราคา 1,290 บาท และ เซต KAYAKI 8 ชิ้น ได้แก่ Chutoro, Hotate, Akami, Aka ebi, Kinmedai, Ika, Madai, Otoro Suki ราคา 1,790 บาท

เซต SEIKAI 6 ชิ้น

โดย Set KAIYO และ KAYAKI สามารถอัพเกรด จาก Akami เป็น Toro Bomb (ข้าวหน้า Chutoro, Uni, Ikura) ในราคา 690 บาท โดยทุกเซตจะมาพร้อม สลัด ข้าว ซุป และของหวาน

เซต KAIYO 7 ชิ้น
เซต KAYAKI 8 ชิ้น

นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งเป็นแบบอะลาคาร์ทเพิ่มความอร่อยได้อีกด้วย ภายใต้บรรยากาศอันอบอุ่น ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานคอนเทมโพรารีและโมเดิร์นอย่างลงตัว โอบล้อมด้วยสวนญี่ปุ่นกลางสุขุมวิท 49 ที่เรียบหรู โปร่งโล่ง สบายตา เหมือนรับประทานมื้อพิเศษนี้ในร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ

สัมผัสประสบการณ์ คอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA ปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดสุดพรีเมียมนี้ได้ โดยวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน จะเปิดให้บริการเป็น วันแรก ดยเปิดเป็น 2 รอบ คือ รอบเที่ยง 11.00-14.30 น. และรอบเย็น 17.00-22.00 น. ที่ร้าน KAYAKI โครงการ YARD 49 ซอยสุขุมวิท 49 ที่เดียวกับ Kay’s, KANORI, Day by Kay’s สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook: Kayaki, IG: Kayaki.Thailand

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.