เอสเอ็มอีไทย ชี้สเปกผู้ว่าแบงก์ชาติ ไม่ใช่เก่งเศรษฐศาสตร์ ต้องเข้าใจปัญหาปชช. ช่วยแก้หนี้ทั้งระบบ
วันที่ 27 มิถุนายน นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานยุทธศาสตร์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ให้ทัศนะและฝากถึงผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ไว้ว่า จากสถานการณ์สภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยที่เข้าไปติดกับดักหนี้ในภาคประชาชนและ SME แทบจะทุกหมู่เหล่า เขย่าให้เกิดแรงกระเพื่อมส่งผลกระทบต่อหนี้เสียบ้าน ยานยนต์ ผู้ประกอบการ SME เกษตรกร ข้าราชการ หนี้ กยศ. ตามต่อด้วย หนี้นอกระบบที่เบ่งบานท่ามกลาง สถาบันการเงินที่กอบโกยผลประกอบการกำไรท่วมท้นบนหลุมฝังกลบทั้งเป็นของ ประชาชน ขาดกระบวนการดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นระบบจริงจัง การกำกับดอกเบี้ยนโยบายที่ขาดกระบวนการติดตาม ตรวจสอบ บังคับใช้ เข้าสูตรกลุ่มทุน “ดอกเบี้ยขึ้นให้เร็วเต็มที่ ลงให้ช้าพอเป็นพิธี”
ซ้ำร้าย “การให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ” ที่ ธปท ให้นโยบาย สถาบันการเงินที่ผ่านมาหลายปีทำอะไร ? เพิ่งจะมาเกิดมีความรับผิดชอบ ? ผู้ที่ได้รับผลกระทบเยียวจ่ายคืนย้อนหลัง หรือไม่ ? อะไร คือ สิ่งสำคัญที่ผู้นำในตำแหน่ง ผู้ว่าแบงค์ชาติ เคยเดินลงมาจากหอคอยดูวิถีลูกหนี้ ชาวบ้าน ประชาชน เกษตรกร SME ที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานกับดอกเบี้ยที่บอกว่าช่วย ช่วยจริงหรือภาพลวงตา ?
ทั้งการพิจารณาไส้ในวิธีการคำนวณดอกเบี้ยผิด นัดชำระ ปรับโครงสร้างหนี้ ยืดหนี้ การปล่อยสินเชื่อแบบผลักให้ผู้ขอไปใช้ดอกเบี้ยที่แพงกว่าความต้องการที่มีอยู่ในโปรแกรมของ ธนาคาร ซ้ำร้ายสถาบันการเงินแข่งขันกันเต็มใจมอบบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคลทั้งๆที่มีข้อมูลผู้ขอมีแล้วเท่าไหร่ ?
นำเสนอประกันทุกรูปแบบบางรายผ่านสินเชื่อแต่ไม่ทำประกันที่เสนอไป “สินเชื่อไม่ผ่าน” ต้องยอมทำประกัน ทำประกันมีดอกลด ลดจริงหรือภาพลวงตา เพราะที่ปรารถนา คือ กำไรจากเบี้ยประกัน ประชาชนรากหญ้า SME ต่างเผชิญการทะลักท่วมดอกเบี้ยที่ ทำให้ SME และประชาชนติดกับดักกันเกลื่อนมาตั้งแต่ช่วง Covid-19 การยืดหนี้เพิ่มภาระดอกแล้วบอกว่าช่วยคนที่สู้
ผู้ว่าแบงค์ชาติ เป็นตำแหน่งที่มีความหมายต่อลมหายใจทางเศรษฐกิจประเทศ วิธีคิด วิธีทำ ผ่านมาทำอะไร ? แถมปล่อยสถาบันการเงินบางสถาบันปล่อยสินเชื่อรายย่อยอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงหรือเท่ากับ Non Bank แต่ใช้ บสย. มาค้ำ เอาเปรียบเทียบสถาบันการเงินอื่นและ Non Bank หรือไม่ ที่สำคัญประชาชนลูกหนี้แบกภาระดอกเบบี้ยแบบเต็ม แค่สถาบันการเงินนั้นกำไรล้น ใครกำกับ ? กฎหมายมีไว้ให้เลือกปฏิบัติหรือไม่ ปพพ.224/1 สถาบันการเงินดำเนิการตามที่ แก้ไขและบังคับใช้หรือไม่ ? ผู้ที่ได้รับผลกระทบไปทำอย่างไร ?
อะไร คือ สเปคผู้ว่าแบงค์ชาติของประเทศไทยในมุมมองของ SME ?
1. “ไม่ใช่เก่งเศรษฐศาสตร์แต่ต้องเข้าใจปัญหาประชาชน” เดินเข้าถึง SME รากหญ้า มีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน การแก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบของ ประเทศที่เป็นรูปธรรม นำทีมเดินลงมาจากหอคอย ไม่จัดอีเว้นท์แบบจัดฉาก เอาภาพไร้ผลลัพธ์รูปธรรมที่มีประสิทธิภาพ อย่ามี “ทัศนคติแบบติดลบ” กับประชาชน SME ลูกหนี้คนไทย ต้องแยกแยะ
2. “ทำงานผลักดันช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำของหนี้” ร่วมมือกับรัฐบาลทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้ง การแก้หนี้ครัวเรือนที่ซุกซ่อนอยู่นอกระบบอีกจำนวนมาก การพัฒนาคุณภาพหนี้ครัวเรือน การแก้หนี้เสีย หนี้นอกระบบ อย่างเป็นระบบมีเจ้าภาพ และต้องมีกลไกการพัฒนาร่วมด้วยในการแก้หนี้ยั่งยืน
3. “ธนาคารกลางจริงไหม ?” กระบวนการกำกับของแบงค์ชาติเป็นไปอย่างมีธรรมาภิบาลจริงหรือไม่ ? ต้องการผู้ว่า แบงค์ชาติที่สร้างศรัทธา มีธรรมาภิบาล เปิดรับ เปิดกว้างให้ภาคประชาชน SME และหน่วยงานรัฐสามารถเข้ามามีกลไก การตรวจสอบ นโยบายและการออกมาตรการแต่ละโครงการต่างๆ รวมทั้งผลประโยชน์ทับซ้อนกับสถาบันการเงินต่างๆ
จะได้ “คนใน” หรือ “คนนอก” ก็ตาม ต้องตอบคำถามประชาชน SME และประเทศชาติจะได้ประโยชน์จากการ เปลี่ยนแปลงหรือจะย่ำอยู่กับที่ที่ไม่ต่างจากเดิม ได้ตำแหน่งแล้วจะทำอะไรให้ประชาชน เพราะ “ผลของการกระทำในวันนี้ คือ ผลกรรมในวันข้างหน้าที่เราทุกคน ต้องเผชิญร่วมกัน” สุดท้าย “ประชาชน SME รากหญ้า คือ ผู้รับผลกรรม”