สวยไม่เสี่ยง ย้อนวัยแบบปลอดภัย “หมออ้น” ชี้ ศัลยกรรมคือการทำจุดบกพร่องให้ดีขึ้น ไม่ใช่เปลี่ยนตามเทรนด์ไปเรื่อย ๆ เตือนระวังหมอกระเป๋า ควรเลือกคลีนิก-โรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ
วันสุดท้ายแล้วสำหรับงานแฟร์เพื่อสุขภาพอันดับ 1 ของประเทศที่เครือมติชนผนึกกำลังกับโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งพันธมิตรด้านสุขภาพ จัดงาน “Thailand Healthcare 2025” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 เพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนในทุกช่วงวัย ภายใต้ธีม ‘A Better Life : สร้างสุขทุกช่วงวัย’ ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน ถึง 29 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 20.00 น. ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์
หนึ่งในไฮไลต์ที่น่าสนใจคือเวทีเสวนา เรื่อง “สวยไม่เสี่ยง ย้อนวัยแบบไหนปลอดภัยที่สุด” โดย “นพ.ฉัตรพล คงเฟื่องฟุ้ง” (หมออ้น) ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง แพทย์ผู้บริหาร คลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทาง ไอดีแอล
นพ.ฉัตรพล กล่าวว่า การย้อนวัยมาจากคำว่า “Anti Aging” โดยสามารถแยกเป็น 2 อย่าง คือจากระบบภายใน เช่น เลือด คอเลสเตอรอล และอีกอย่างคือทำอย่างไรให้แก่แบบไม่โทรม เพราะไม่สามารถย้อนอดีตได้
แต่เราสามารถทำให้ยังดูสดชื่น ดูแข็งแรง หรือถ้าพร้อมผ่าตัด ก็อาจสามารถปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูย้อนวัยลงสัก 5-10 ปี ก็ทำได้เช่นกัน
การย้อนวัยต้องดูว่าตัวเองอยู่ในวัยไหน ถ้ายังไม่อาวุโสมาก อย่างอายุไม่เกิน 40 ปี บางครั้งก็ไม่ต้องผ่าตัดอะไร เนื่องจากอายุยังไม่มาก โดยสามารถใช้วิธีอื่น เช่น ฉีดโบท็อกซ์ หรือเครื่องยกกระชับ เป็นต้น
แต่ถ้าอาวุโสมากขึ้น อายุ 50 ปีขึ้นไป การฉีด หรือใช้เครื่องต่าง ๆ อาจไม่ค่อยได้ผล ถ้าอยากย้อนวัยจริง ๆ ต้องทำการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดดึงหน้า ผ่าตัดยกหนังตา ผ่าตัดดึงคอ เป็นต้น
สำหรับความเสี่ยงของการย้อนวัย นพ.ฉัตรพล กล่าวว่า การรักษาทุกอย่างทางการแพทย์มีความเสี่ยงทั้งสิ้น ดังนั้น ต้องหาแพทย์ที่เฉพาะทาง เช่น ถ้าผ่าตัดดึงหน้าโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจมีการโดนเส้นประสาท หรือท่อน้ำลาย และอาจใบหน้าเบี้ยวได้
“การศัลยกรรมนั้นเป็นเงินเยอะ มีคุณหมอที่จบใหม่ แล้วมาผ่าตัดใหญ่เลย ก็ค่อนข้างที่จะเสี่ยง เพราะการผ่าตัดใหญ่ต้องใช้ชั่วโมงบิน จะสามารถลดความเสี่ยงของคนไข้ได้ ควรเลือกแพทย์ที่ทำงานมามากกว่า 5 ปี”
ปัจจุบัน ปัญหาหมอกระเป๋ามีอยู่ทั่วโลก และมีสารเหลวเถื่อนเยอะมาก ซึ่งราคาถูก และจูงใจให้คนเข้าไปฉีด ดังนั้น ควรหาข้อมูลและหาคลีนิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพชัดเจน หรือเป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์นำเข้าอย่างถูกต้อง
“ถ้ามีใครพาไปฉีดนอกสถานที่ บอกว่ามีหมอเก่งมากเลยมาที่คอนโด หมอกระเป๋าชอบสิงที่คอนโด ส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่ไม่ใช่หมอจริง ๆ เป็นพวกครูพักลักจำ เอายามาจากไหนไม่รู้ และก็ฉีดเข้าไปที่หน้าคนไข้ พยายามเข้าไปในสถานพยาบาลที่ถูกต้อง”
นพ.ฉัตรพล กล่าวอีกว่า ร่างกายคนเราเริ่มเสื่อมลงหลัง 25 ปี คอลลาเจนจะลดลงปีละ 1% เหมือนกาวที่เสื่อม และไม่สามารถทำให้หน้าเราตึง สภาพผิวก็จะเสื่อม โดยอาการจะแสดงออกตามช่วงอายุ ซึ่งอาการแรกคือรอยบริเวณใต้ตาและร่องแก้ม โดยอาศัยการฉีดเติมเต็มได้
ถ้าเข้าสู่ช่วง 45 ปีขึ้นไป จะไม่ค่อยเห็นแนวกระดูกจะเป็นก้อนเนื้อและทำให้แก้มห้อยลงมา หน้ากับคอจะไม่แยกกันอีกต่อไป
ไม่มีอะไรยั่งยืน 100% บางทีเราต้องใช้พุทธศาสนาช่วย ดึงหน้าไปอีก 5 ปี มันก็คล้อยลง ต้องเข้าใจความปกติสังขาร หน้าที่หมอคือทำให้ดูช้าลง และมีความสุขในปัจจุบันได้นานขึ้นหน่อย นพ.ฉัตรพล กล่าว
ทั้งนี้ จมูกหรือร่างกายคนไม่เหมือนวาดรูป เอารูปเทรนด์เกาหลีหรือจีนไปให้แพทย์ดู ผ่าออกมาอย่างไรก็ไม่เหมือนอย่างนั้น การศัลยกรรมคือการให้ดีขึ้น ไม่ใช่การวาดรูป เพราะเป็นเนื้อเยื่อมนุษย์ ศัลยกรรมที่ดี คือการทำให้จุดบกพร่องดีขึ้น ไม่ใช่เปลี่ยนเทรนด์ไปเรื่อย ๆ
นพ.ฉัตรพล กล่าวอีกว่า รากฐานที่สำคัญคือการพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้านอนไม่พอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ต้องพูดถึงการออกกำลังกายหรือการกินอาหารเลย จากนั้นคือทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด นำไปสู่การกินที่ดี นำมาซึ่งกล้ามเนื้อแข็งแรง ถ้าทำได้ คนที่ยังไม่แก่ ก็จะแก่ช้าลง หรือถ้าอายุมากและทำได้ ก็จะเเข็งแรงขึ้น