เปิดเส้นทาง ปลัดจอมแฉ เคยร้องปม ค่าหัวคิวบัตรต่างด้าว ถูกบุกรวบตามหมายจับ คดีทุจริต
GH News June 30, 2025 09:43 PM

ย้อนเส้นทาง ปลัดจอมแฉ เคยร้องปมหัวคิวบัตรต่างด้าว โดนบุกรวบคาสำนักงาน คดีทุจริต

จากกรณี สำนักงาน ป.ป.ช. นายนิรันดร ศรีภักดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเชียงใหม่ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มสืบสวนฯ 2 เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 5 และเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตประจำจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และสำนักงาน ป.ป.ท.

ร่วมกันจับกุม นายบุญญฤทธิ์ ตำแหน่งเจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ (ปลัดอำเภอ) ที่ทำการปกครองอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยนายทะเบียนจังหวัด (ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่) ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ 21/2568 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2568

ทั้งนี้ หากย้อนไปเมืื่อช่วงต้นปี 2566 มีการเปิดโปง ความฉาวในวงการราชการ เมื่อ  นายบุญญฤทธิ์  ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้ช่วยนายทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมา เปิดเผยข้อมูล ว่า เคยร้องเรียนเมื่อปี2561 สมัยตัวเองเป็นปลัดอำเภอแม่ริม

ว่า พบเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค สาขาจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ลักลอบจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม  ซึ่งครั้งนั้นนายบุญญฤทธิ์  ยังระบุว่า เรื่องดังกล่าวมีการทำเป็นขบวนการ คือ ชายฉกรรจ์ คอยเฝ้าประจำบริเวณจุดออกบัตร เพื่อทำการเก็บบัตรที่ออกแล้วเอาไว้ก่อน

จากนั้นเรียกเก็บเงินกินเปล่าแบบไม่มีใบเสร็จจาก แรงงานต่างด้าว คนละ 400 บาท นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมจัดทำบัตรคนละ 80 บาท ซึ่งให้เอกชนที่เป็นนายหน้าตัวแทนที่พาแรงงานต่างด้าวมาทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัว รวบรวมเงินจนครบตามยอดและนำมาจ่ายให้ภายในวันเดียวกันก่อน จึงจะมอบบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวให้ หากไม่ยินยอมจะยึดบัตรเอาไว้

ครั้งนี้เรียกว่าสนั่นว่าวงการพอสมควรและยังเป็นที่มาของคำว่า ปลัดจอมแฉ

ต่อเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มิถุนายน ผ่านมา ก็เกิดเหตุการช็อกวงการ อีกเช่นกัน  เมื่อเจ้าหน้าที่ ทั้ง 3 หน่วย  พร้อมกับหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ที่ 21/2568 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2568 บุกเข้าไปจับ  โดยคดีดังกล่าวนั้น

สำนักงาน ป.ป.ช.ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหาย ซึ่งประกอบอาชีพเป็นนายหน้าแรงงานต่างด้าว ได้นำแรงงานต่างด้าวเข้าทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) และคัดแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ท.ร. 38/1) ตามกฎกระทรวงกำหนดให้คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยปฏิบัติเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎร พ.ศ.2562 กำหนดค่าธรรมเนียมการออกบัตรประจำตัว (บัตรชมพู) ฉบับละ 60 บาท และค่าธรรมเนียมการขอคัดสำเนาแบบรับรองรายการทะเบียน ฉบับละ 20 บาท

แต่ นายบุญญฤทธิ์ ได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว จากนายหน้าแรงงานต่างด้าว จำนวน 200 บาทต่อแรงงานต่างด้าว 1 ราย ซึ่งมีเงินส่วนต่างเกินจากค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย (เงินส่วนต่าง) จำนวน 120 บาท เฉพาะผู้เสียหายที่เข้าแจ้งเบาะแสกับสำนักงาน ป.ป.ช.เพียงรายเดียว

มีเงินส่วนต่างเกินจากค่าธรรมเนียมตั้งแต่ นายบุญญฤทธิ์ เข้ามาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2566 จำนวนกว่า 2.4-3.6 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม พบว่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีผู้ประกอบอาชีพตัวแทนนายหน้าแรงงานต่างด้าวกว่า 100 ราย ซึ่งพฤติการณ์ เก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่านายบุญญฤทธิ์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายละ 200 บาทต่อแรงงานต่างด้าว 1 ราย หากตัวแทนนายหน้ารายใดไม่จ่ายเงินจำนวนดังกล่าว จะไม่ได้คิวนัดเพื่อนำแรงงานเข้าทำบัตรประจำตัว

ดังนั้นทางสำนักงาน ป.ป.ช. บก.ปปป. และสำนักงาน ป.ป.ท.จึงได้สนธิกำลังร่วมกันสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง และได้เข้าจับกุมผู้ถูกกล่าวหาพร้อมเงินของกลางจำนวน 15,200 บาท ณ วิทยาลัยการปกครอง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการออกบัตรประจำตัว (บัตรชมพู) และคัดสำเนาแบบรับรองรายการทะเบียน

ภายหลังการจับกุมผู้ถูกกล่าวหาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2566 มาตรา 22 และมาตรา 23 โดยได้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปทำบันทึกการจับที่ สภ.ดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

  • บุกจับ ‘ปลัดอำเภอสันทราย’ คาวิทยาลัยการปกครอง เก็บค่าธรรมเนียมบัตรชมพูเกินจริง เงินสะพัดกว่า 3 ล้าน.
© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.