เพชร ภิพัชรา แก้วจินดา ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ PIPATCHARA ได้จัดงาน เปิดตัวคอลเล็กชั่น “PIPATCHARA AQUA-R-US” และครั้งแรกของการจัดแฟชั่นโชว์ใต้ท้องทะเลลึก ณ ซีไลฟ์ แบงคอก ชั้น B1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ซึ่งก่อนงานจะเริ่มขึ้น เธอได้ควงสามีหนุ่ม ฌอห์ณ จินดาโชติ ให้สัมภาษณ์ถึงคอลเล็กชั่นนี้ และทั้งสองได้เผยถึงแพลนการมีลูก รวมทั้งเรื่องที่ไปร่วมงานบวชของ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ
เพชร: “เป็นครั้งแรกที่เราเริ่มใช้ขยะจากท้องทะเลก่อนหน้านี้เราจะใช้จากขยะบนบกอย่าง ฝาน้ำพลาสติก ช้อนส้อมพลาสติก แต่คราวนี้เราจะใช้ในเรื่องของแห่อวนที่อยู่ในทะเล ก็เป็นแหร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็จะเป็นสีค่อนข้างดำหน่อยเป็นดำอมเขียว”
ถามถึงการเติบโตของแบรนด์ ที่ตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่ในไทยแล้วแต่คนดังระดับโลกก็ให้ความสนใจแล้วก็สวมใส่?
เพชร: “จริงๆเพชรมองเป็นขั้นเป็นตอนไปไม่ได้มองภาพกว้างว่าจะต้องไปไหนต่อ แต่โฟกัสในสิ่งที่เราอยากจะทำและความตั้งใจเราที่เราจะทำ อย่างที่หลายๆคนจะมองว่าโปรเจ็กต์นี้อ่ะมันเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ จริงๆแล้วเพชรตั้งใจทำโปรเจ็กต์นี้มาสองปีกว่าแล้ว เพชรภูมิใจ เพราะว่า PIPATCHARA มันไม่ใช่แค่เพชรคนเดียวแต่มันเป็นคอมมูนิตี้ใหญ่ แล้วก็การที่มีศิลปินระดับโลกเขาเห็นคุณค่าของเรื่องนี้ เพชรว่ามันเป็นตัวแทนของคนไทยด้วยซ้ำที่ว่าถ้าเราทำอะไรร่วมกันสามัคคีกันมันก็ต่อยอดได้”
แล้วชีวิตครอบครัวเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้?
ฌอห์ณ : “มีความสุขมากๆ มันเป็นบาลานซ์ที่ดี คุณเพชรเขาชอบทำงานอยู่แล้ว เขาชัดเจนเรื่องสายแฟชั่น ส่วนเราก็มาทำงานเบื้องหลังงานของเรา ยังทำผสมให้เราได้อยู่ด้วยกัน จัดสรรเวลากันได้ดี มันก็มีเวลาว่างที่จะน้อยใจมาก แต่สิ่งที่สำคัญคือเราได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมและแอติจูดที่ดี มันเลยมีโมเมนต์ให้เราผ่านพ้น ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็จะให้ผ่านมันไป”
เพชร: “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราอยากจะทำสิ่งที่เราอยากจะทำอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราต้องเวททว่าเราก็มีงานและแต่งงานแล้ว มีครอบครัวแล้ว ก็รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ก็สำคัญ เราก็ต้องถามเขาอยู่เสมอว่าเขาโอเคไหมในสิ่งที่เราทำ ไม่ใช่ว่าเราอยากจะทำอย่างนี้อย่างเดียวแล้ว แต่มันคือการช่วยเหลือกันแล้วก็ช่วยกันคิดช่วยกันทำมากกว่า เพราะว่าการแต่งงานแล้วมันก็กลายเป็นคนๆเดียวกันเลย แบบหนึ่งมันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนเดิม แต่สิ่งสำคัญคือมันมีความสุขมากกว่าเดิม”
ทำยังไงให้ความรักกันมั่นคง ?
เพชร: “มันมีตีกันบ่อยนะคะ”
ฌอห์ณ : “มันมีอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ทำกันทุกวันคือการซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน แม้ว่าสิ่งนั้น..แม้ว่าแฟชั่นมันอาจจะไม่ใช่ทางของผมแต่ผมก็จะอยู่ในทุกจุดนี้ให้มากที่สุดเพื่อให้อยู่ในอายคอนแทคเขาเสมอ เพื่อให้เขารู้สึกอุ่นใจ คือไม่ว่าจะงานอะไร งานเขามาก่อน หรือจะให้ช่วยกันคิดโปรเจ็กต์ ผมก็ให้เขาก่อนส่วนงานบริษัทผม เพราะยังไงลูกทีมผมก็รักเขา ก็รู้สึกว่าเราซัพพอร์ต และเวลาที่ผมไปออกกองถ่ายสารคดีและเข้าไปในป่าก็รู้ว่าไม่ใช่ทางของเขา เขาก็สนใจที่จะไป มันไม่มีคำว่าได้เปรียบเสียเปรียบ มันมีแต่ไปด้วยกันเสมอ ช่วยเหลือกันและกัน มันก็เลยทำให้เราไม่มีคำถาม”
หลายคนก็ยังลุ้นเรื่องทายาท?
ฌอห์ณ : “เราคุยกันแล้วครับว่าหลังจากโปรเจ็กต์เหล่านี้เราก็จะได้ใช้เวลา ไม่ต้องเอางานมาแน่นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผมก็มีงานหนักๆก็คือปลายปี ก็เลยคุยกันว่าหมดจากวันพรุ่งนี้ไปก็ได้อยู่ด้วยกันเยอะขึ้นได้คุยเยอะขึ้น แต่เขาต้องนอนให้เยอะกว่านี้ก่อนนะเพราะว่าเมื่อคืนน่ะ ผมก็นอนตีสามตีสี่ ก็คุยกันเรื่องนี้ตลอด เพราะเหตุผลที่เราแต่งงาน เราก็อยากจะมีครอบครัว แต่เขาก็มีความฝัน ไม่ใช่ว่าเขามาอยู่กับเราแล้วความฝันเขาต้องหยุด เราก็ต้องซัพพอร์ตความฝันของกันและกันให้ถึงจุดที่พอทั้งสองฝ่ายแล้วก็วางแผนเรื่องของชีวิต การมีคนที่สาม แล้วช่วงนี้ผมก็ออกกำลังกายมากขึ้นวิ่งเยอะขึ้น”
วางแผนไว้ยังไงจะ ผล่อยธรรมชาติไหม และมีกี่คน?
ฌอห์ณ : “เน้นธรรมชาติครับ”
เพชร: ”เน้นธรรมชาติค่ะ แต่สิ่งสำคัญก็คืออย่างที่บอกว่าเราไม่ได้อายุน้อย เราก็ต้องมีการเวท อย่างที่บอกว่าเพชรตั้งใจมากๆกับคอลเลคชั่นนี้ แต่หลังจากนี้ก็จะให้เวลากับคุณสามีมากขึ้น อย่างที่บอกว่าเราต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันให้มันรู้สึกมีความสุข แพลนนิ่งต่อไปในเรื่องของตัวเองด้วย อย่างก่อนหน้านี้ก็อาจจะให้งานเยอะ แต่รู้สึกว่าหลังจากนี้เราควรจะมาโฟกัสในเรื่องของเราเองบ้าง”
กี่คนดี?
ฌอห์ณ : “ก็คือต้องดูเศรษฐกิจด้วย แล้วก็งบประมาณ ก็ต้องดูว่าจะมีงานใหญ่เข้ามาหาเราไหม เราก็ต้องหาเงินไปด้วย”
แต่เช็คร่างกายกับคุณหมอแล้วใช่ไหม?
เพชร: “ใช่ค่ะ คุณหมอบอกว่าไม่มีปัญหาเลย แค่ปัญหาคือไม่มีเวลา”
ฌอห์ณ : “ใช่คือ เขาบอกให้เบรคงานหน่อย แล้วก็อย่าเครียด ถามว่าปีนี้ไหม ก็แล้วฟ้าลิขิต เราก็เต็มที่ของเราและที่สำคัญก็เราต้องดูทางเศรษฐกิจด้วย เราต้องวางแผนเพราะอันนั้นสำคัญสุด ก็อยากให้เกิดมาแล้วทุกอย่างไปได้ดีไม่ลำบาก”
ล่าสุดไปร่วมงานบวชเจนี่ด้วย?
เพชร: “ก็ดีใจที่ได้ไปงานพี่เจนี่ คือจริงๆเพชรกับพี่เจนี่รู้จักกันตั้งแต่แรกๆเลยตั้งแต่ทำแบรนด์ ก็น่าจะเข้าปีที่แปดแล้ว สิ่งสำคัญคือพี่เจนี่เขามีความมุ่งมั่น เขาค่อนข้างรู้ว่าเขาอ่ะอยากได้อะไร เราไปเจอเขาตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว เขาบอกว่าเพชรพี่จะบวชนะ พี่ตั้งใจมากๆนะ มันเป็นความรู้สึกที่พี่มีแพชชั่นอยากจะทำ
เราก็รู้สึกว่าเรายินดีมากๆที่จะไปซัพพอร์ต คือจริงๆแล้วพี่เจนี่บอกว่ามันเช้ามากเลยนะ 05.09น. เราก็เลยไปค้างที่สระบุรีเลยแล้วก็ไปร่วมงานบวชพี่เจนี่ ก็รู้สึกปิติ รู้สึกว่าเขาว่าตั้งใจมากๆ แล้วก็รู้สึกว่าเขาน่าจะได้อะไรกลับมาและเชื่อว่าหลังจากนี้เขาน่าจะมีอะไรใหม่ๆ เพราะว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเนาะ รู้สึกปิติแล้วก็ยินดีกับพี่เจนี่มากๆค่ะ”
วันนั้นหลายคนน้ำตาไหล?
เพชร: “ใช่เราก็น้ำตาไหล”
ฌอห์ณ : “คือตอนแรกผมเกรงใจ เราเคยบวชมาเราก็รู้ว่าเราต้องให้คนใกล้ชิดก่อนเราก็ไปอยู่ท้ายแถวเลย แต่แกก็กวักมือเรียก ตามธรรมเนียมเวลาที่ขลิบผมเราก็จะอนุโมทนาบุญแล้วก็ขออโหสิกรรมไม่ว่าจะเป็นชาตินี้หรือชาติไหน แกก็บอกว่าฝากดูแลเพชรให้ดี คือเขาอวยพรเรา เราก็รู้สึกเห็นความสงบตั้งแต่ห่มขาวจนเปลี่ยน แล้วก็รู้สึกว่าแกตั้งใจและแกผ่องมาก ผ่องสวยมาก”
เพชร: “เพชรก็ส่งข้อความไปหาพี่เจนี่ส่วนตัวว่าเพชรขอบคุณมากๆมากเลยพี่เจนี่ ได้ยินที่พี่ฌอห์ณบอกว่าให้ฝากน้องด้วยก็รู้สึกว่ามันเป็น เหมือนมีความสัมพันธ์ 8ปี แต่มันเป็น 8 ปี ที่เรารู้สึกอยู่แล้วว่าเรารักกัน ก็ดีใจกับเขามากจริงๆ”