วันที่ 5 ก.ค.68 นายชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิสโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต ระบุว่า...
“เลี้ยงทางบางกอกน้อย ลอยแล
บ้่านเก่าเหย้าเรือนแพ พวกพ้อง”
“วังหลังครั้งหนุ่มเหน้า เจ้าเอย
เคยอยู่ชูชื่นเชย ค่ำเช้า”
หลักฐานสำคัญที่เจ้าตัวคือ สุนทรภู่ บอกกล่าวไว้ในโคลงนิราศสุพรรณ ว่าตนเองเกิดและเติบโตอยู่ที่วังหลัง หรือบริเวณโรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน
และที่วังหลัง นี่เองที่ “สุนทรภู่” ได้พบกับ “คลังความรู้” ของเจ้าวังหลังที่มีอยู่อย่างมากมายมหาศาล อันเป็นสิ่งสุนทรภู่ศึกษาจนแตกฉาน และที่สุดกลายมาเป็นมหากวีอย่างที่เรารับรู้กัน
เจ้าวังหลัง เกิดในอยุธยา ก่อนกรุงแตก รับราชการกับพระเจ้าตาก มีนิวาสถานอยู่บ้านปูน (ใกล้บ้านบุ) ต่อมาได้เป็นเจ้าเมืองนครราชสีมา อุปถัมภ์กวีโคราช แต่งนิทานกลอนเรื่องปาจิตกุมาร ตำนานเมืองพิมาย เมื่อ พ.ศ.2316
คาดว่า นิทานกลอนนี่เองที่เป็นต้นแบบให้กับ “กลอนแปด” ของ “สุนทรภู่”
ราว พ.ศ.2325 ยกทัพมาจากโคราช จับพระเจ้าตาก รอ ร.1 กลับจากเขมร แล้วได้เป็นเจ้าวังหลัง เป็นแม่กองแปลพงศาวดารจีนเรื่อง “ไซฮั่น” ขณะที่พงศาวดารจีนอีกเรื่องที่แปลในสมัย ร.1 คือ “สามก๊ก” มีแม่กองแปลคือ “เจ้าพระยาพระคลัง (หน)”
พ่อสุนทรภู่เป็นทหารในวังหลัง แม่สุนทรภู่เป็นแม่นมของธิดาวังหลัง แสดงว่าเป็นบริเวรใกล้ชิดมากเหมือนเครือญาติ ของวังหลัง จึงได้เป็นแม่นม
สำหรับทริปวันที่ 17 และ 21 กรกฎาคม นี้ที่ผมอาสานำพาเลียบคลองบางกอกน้อย ตามรอยนิราศของสุนทรภู่ ขณะนี้มีผู้สมัครแล้วทั้งสองรอบ แต่ยังรับเพื่อนสมาชิกได้อยู่ ซึ่งตลอดทั้งวันเที่ยวสบาย ๆ ประสาคนกันเองชวนเดินทางเลาะลัดคลองบางกอกน้อย ตามรอยเส้นทางนิราศของสุนทรภู่ มหากวีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งได้ร้อยเรียงเรื่องราวการเดินทางอันผ่านสถานที่สำคัญในอดีต ซึ่งจะแวะและผ่านวัดโบราณ และเยี่ยมชุมชนเก่าแก่ ที่มีเสน่ห์และความสำคัญที่ควรค่าแก่การมาสัมผัส จากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าคลองบางกอกน้อยไปบรรจบคลองบางหลวงหรือคลองบางกอกใหญ่
สำหรับเดือนสิงหาคมจะชวนไปตามรอย นิราศภูเขาทอง ของ สุนทรภู่ เยี่ยมบ้านครูไพบูลย์ บุตรขัน คีตกวีแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทริปนี้จัดวันเดียวรับจำนวนจำกัด