คิกออฟ ‘WebD’ ใช้เทคโนโลยี AI กวาดล้างเว็บผิดกฎหมายเร็วกว่าเดิม 30 เท่า ตั้งเป้าปิดเว็บผิดกม.เพิ่ม 70% ปีหน้า!
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เดินหน้าการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างต่อเนื่อง ภายใต้หลักการการกำกับดูแลด้วยจริยธรรม AI ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการระงับการแพร่หลาย และตรวจสอบการเข้าถึงเว็บไซต์ผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่า “WebD Project” ในรูปแบบแพลตฟอร์ม
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า สำหรับแพลตฟอร์ม “WebD” เป็นแพลตฟอร์มเร่งรัดกระบวนการระงับเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ซึ่งมีมากกว่า 100,000 URLs ต่อปี โดยใช้เทคโนโลยี AI และ RPA ในการค้นหา เก็บหลักฐาน สร้างคำร้องต่อศาลแบบ Paperless และส่งคำสั่งไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) โดยอัตโนมัติ พร้อมมีระบบ “URLs Checker” เพื่อตรวจสอบการปิดกั้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจุดเด่นของแพลตฟอร์มดังกล่าว คือสามารถทำงานได้เร็วกว่าเจ้าหน้าที่ถึง 31.5 เท่า ช่วยลดขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาลลงได้ 5 วันทำการ คาดว่าจะเพิ่มจำนวน URLs ที่ถูกสั่งปิดในปี 2568 ได้ถึงร้อยละ 70.7 จากเดิมในปี 2567 เฉลี่ยเพิ่มขึ้นวันละ 175 URLs
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ WebD ยังมีระบบค้นหาและจัดเก็บหลักฐานเว็บไซต์ผิดกฎหมาย (AI Crawler) ซึ่งใช้ในการตรวจสอบ URLs ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งเทียบเท่าการทำงานโดยเจ้าหน้าที่จำนวน 94 คน ก่อนส่งต่อไปยังระบบแอปพลิเคชัน สำหรับตรวจสอบ กลั่นกรองเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และเข้าสู่กระบวนการยื่นคำร้องต่อศาล สร้างคำร้องส่งต่อไปยังศาลอาญาผ่านระบบออนไลน์ กระบวนการสั่งปิด ระบบส่งคำสั่งศาลไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และกระบวนการปรับพินัย โดยเป็นการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี AI ร่วมกับการทำงานของเจ้าหน้าที่
“การใช้งานแพลตฟอร์ม WebD จะช่วยให้กระบวนการทำงานในการระงับ ปิดกั้นเว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมายสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเว็บไซต์ผิดกฎหมายเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของการก่ออาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งรัฐบาล โดยกระทรวงดีอี ให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อประเทศชาติและประชาชน โดยรัฐบาลมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างมีจริยธรรม เพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย ลดภัยคุกคามทางออนไลน์ ดูแลคุ้มครองประชาชนอย่างรอบด้าน พร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนทุกคนใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว