‘จีนเที่ยวไทย’ ร่วง 34% ประคองตลาดรอฟื้น ลุ้น 5 ล้านคนปีนี้
bangkokbiz July 07, 2025 07:22 AM

จากสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2568 มีจำนวนสะสม 16,685,466 คน ลดลง 4.66% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวแปรหลักอย่างตลาดนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวน 2,265,556 คน ลดลงถึง 34.13% ร่วงจากอันดับ 1 รองจากตลาดนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่มีจำนวน 2,299,897 คน ซึ่งลดลง 5.58%

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกกิตติมศักดิ์และประธานที่ปรึกษาอาวุโส สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ประเมินแนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยตลอดปี 2568 คาดมีจำนวน 5 ล้านคน หลังจาก 6 เดือนแรกมียอดสะสมแล้ว 2.26 ล้านคน เท่ากับว่าต้องออกแรงดึงนักท่องเที่ยวจีนอีกอย่างน้อย 2.74 ล้านคน

“ถ้าทำตลาดให้ดี มีการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง จะช่วยทำให้มีนักท่องเที่ยวแตะ 6 ล้านคนได้ ถือว่าเป็นการฟื้นตัวระดับเต็มที่มากแล้วในปีนี้ นับเป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่าน้อยกว่าตัวเลขเมื่อปี 2567 ซึ่งปิดที่ 6.7 ล้านคน และต่ำกว่าเป้าหมายล่าสุดที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเอาไว้ 6.9 ล้านคน”

 

‘จีนเที่ยวไทย’ ร่วง 34% ประคองตลาดรอฟื้น ลุ้น 5 ล้านคนปีนี้

ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร

“แอตต้า” ย้ำลดการพึ่งพา “จีน” ได้ยาก

นายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีนยังคงมีความสำคัญ ให้ลดการพึ่งพาไปเลยนั้น เป็นเรื่องทำได้ยาก สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือการรักษากระแสการเดินทางเอาไว้ เพราะนักท่องเที่ยวจีนมีฐานตลาดขนาดใหญ่ 

“สมาคมฯ คาดหวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวจีนได้เร็วกว่านี้ เพราะตอนนี้ค่อนข้างช้ามาก ผ่านมาครึ่งปีแล้ว ปล่อยให้เอกชนทำฝ่ายเดียวไม่ได้ รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยด้วย ที่ผ่านมาได้รับทราบมาว่ามีแผนจะฟื้นฟูตลาดจีน แต่ก็ยังไม่เห็นความชัดเจนเพิ่มเติมออกมา”

 

‘จีนเที่ยวไทย’ ร่วง 34% ประคองตลาดรอฟื้น ลุ้น 5 ล้านคนปีนี้

ธนพล ชีวรัตนพร

ทั้งนี้ หลังจาก ททท.ได้รับอนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจจากคณะรัฐมนตรี วงเงิน 3,960 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นงบสำหรับดำเนินการกระตุ้นตลาดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากจีน ขณะนี้ สมาคมฯ กำลังรอ ททท.คลอดแผนแน่ชัดให้เอกชนรับทราบ เพื่อเร่งทำการตลาดดึงนักท่องเที่ยวจีนในครึ่งปีหลังซึ่งเป็นช่วงที่มีอุปสรรคและปัจจัยลบจากสถานการณ์ต่างๆ เยอะมาก

 

โรดโชว์ 3 เมือง เร่งขยายตลาด 

อย่างไรก็ดี สมาคมฯ เตรียมจัดกิจกรรม โรดโชว์ ทู ไชน่า 2025 (Roadshow to China 2025) ใน 3 เมืองของประเทศจีน ได้แก่ ฉงชิ่ง หลานโจว และหังโจว ระหว่างวันที่ 27 ก.ค.-2 ส.ค. ภายใต้ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชน นำคณะผู้ประกอบการไทยไปร่วมเจรจาธุรกิจ (B2B Matching) กับบริษัทนำเที่ยวชั้นนำของจีน และจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวและสินค้าบริการของไทย

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและขยายตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาประเทศไทย หลังจากสถานการณ์โควิด-19 และความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวจีนในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยในช่วงต้นปีหดตัวเฉลี่ย 30-40% ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวทุกฝ่าย

 

ททท.เปิดแผนกระตุ้นตลาดทัวริสต์จีน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า สำหรับแผนกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนในช่วงที่เหลือของปี 2568 จนถึงปี 2569 ตามที่ ททท.ได้รับการจัดสรรวงเงิน 3,960 ล้านบาทจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. สำหรับดำเนินงาน 7 โครงการเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภายใต้แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อาทิ โครงการ ไทยแลนด์ ซัมเมอร์ บลาสต์ - ไชน่า แอนด์ โอเวอร์ซีส์ มาร์เก็ต สติมูลัส แพลน (Thailand Summer Blast - China & Overseas Market Stimulus Plan) งบประมาณ 750 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ ก.ค.2568 - ก.ค.2569

โดยงบบางส่วนของโครงการนี้จะนำไปจัดกิจกรรมส่งเสริมเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) ในตลาดจีนและตลาดต่างประเทศอื่นๆ ด้วยการสนับสนุนเที่ยวบินละ 350,000 บาท ไม่น้อยกว่าจำนวน 1,000 เที่ยวบิน จำนวน 15 เมืองจากเมืองรองของจีนและตลาดศักยภาพ เพื่อดึงเที่ยวบินเหล่านี้เข้าสู่กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย พัทยา (อู่ตะเภา) กระบี่ และสมุย

นอกจากนี้ จะจัดกิจกรรมส่งเสริมโปรโมชันร่วม (Joint Promotion) กับเที่ยวบินพาณิชย์ของสายการบินต่างชาติและไทย โดยจำนวนสายการบินที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้มีไม่น้อยกว่า 5 ราย และกิจกรรมกระตุ้นกลุ่มประชุมสัมมนาและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และกลุ่มซัมเมอร์แคมป์ต่างๆ ภายใต้มาตรการจูงใจ ตั้งเป้าดึงจำนวนพันธมิตรเข้าร่วมกิจกรรมเจาะกลุ่มประชุมสัมมนาและท่องเที่ยว ไม่น้อยกว่า 10 ราย

“จากกิจกรรมภายใต้โครงการ ไทยแลนด์ ซัมเมอร์ บลาสต์ - ไชน่า แอนด์ โอเวอร์ซีส์ มาร์เก็ต สติมูลัส แพลน คาดว่าจะช่วยสร้างรายได้การท่องเที่ยว 33,518 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 790,000 คน”

 

‘จีนเที่ยวไทย’ ร่วง 34% ประคองตลาดรอฟื้น ลุ้น 5 ล้านคนปีนี้ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

 

อัด 300 ล้านสร้างภาพลักษณ์เชื่อมั่นเที่ยวไทย

โครงการสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นประเทศไทยเพื่อการท่องเที่ยว “Trusted Thailand” งบประมาณ 300 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ก.ค. 2568 - ก.ย. 2569 สำหรับจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียง (Brand Ambassador) เช่น นักแสดง นักกีฬา อินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้มีผลงานโดดเด่นระดับโลก

ควบคู่กับการสื่อสารประเทศไทยไปในตลาดต่างประเทศผ่านการทำแคมเปญระดับโลก (Global Campaign) และระดับภูมิภาค (Region Campaign) ในลักษณะซอฟต์เมสเสจ (Soft Message) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย เน้นสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นในแง่จุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย (Safe Destination) พร้อมผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับประเทศไทยให้มีความน่าสนใจ ผ่านการทำมูฟวี่แอนด์ซีรีส์มาร์เก็ตติ้ง (Movie & Series Marketing) อาทิ การจัดทำภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือมิวสิกวิดีโอ นำเสนอประเทศไทย โดยสร้างสรรค์เป็นออริจินัลคอนเทนต์ของไทย เผยแพร่ผ่านช่องทางของผู้จัดทำรวมทั้งสื่อต่างๆ

ขณะเดียวกัน ททท.เตรียมจัดทำมาตรฐานความปลอดภัย ไทยแลนด์ เซฟ ทราเวล สแตมป์ (Thailand Safe Travel Stamp) เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในด้านความปลอดภัย และประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมภาพลักษณ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวไทย ตั้งเป้าหมายสร้างการรับรู้ในสื่อออฟไลน์ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านคน/ครั้ง สร้างการรับรู้ในสื่อออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านครั้ง

 

พีอาร์กระตุ้นเชื่อมั่น “See it Believe it”

นอกจากนี้ ยังมีแผนงานประชาสัมพันธ์กระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปี 2568 งบประมาณ 120 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ก.ย. 2568 สำหรับตลาดต่างประเทศจะมุ่งสร้างกระแสการเดินทางและสร้างภาพลักษณ์ เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพที่มีกำลังซื้อสูง เสนอสินค้าอัลตร้าลักชัวรี จำนวนเงิน 100 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างการรับรู้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านคน/ครั้ง ด้วยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลก และการดำเนินงานร่วมกับผู้นำทางความคิด (KOL) ประชาสัมพันธ์แนวคิดสร้างความเชื่อมั่น “See it Believe it” Amazing Thailand Paradise on Earth และ Savevibe Thailand เป็นต้น

ส่วนตลาดในประเทศจะเน้นสร้างกระแสเมืองน่าเที่ยวและเที่ยววันธรรมดา ทั้งจากโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง และสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว จำนวนเงิน 20 ล้านบาท ตั้งค่าสร้างการรับรู้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านคน/ครั้ง

อีกโครงการที่เกี่ยวข้องกับตลาดนักท่องเที่ยวจีน คือโครงการการทำตลาดการท่องเที่ยวไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (OTA: Online Travel Agent) ในการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทยปี 2568 งบประมาณ 800 ล้านบาท ด้วยการมอบโค้ดส่วนลด สินค้าการท่องเที่ยวไทยผ่าน OTA สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศรวมชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทย โดยโค้ดส่วนลดอัตราส่วนไม่เกิน 17.5% มีวงเงินไม่เกินโค้ดละ 1,500 บาท จำนวน 533,333 โค้ด ผลที่คาดว่าจะได้รับคือการสร้างยอดขายโดยตรงจากการดำเนินงาน 7,200 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 950,000 คน ในช่วงระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ธ.ค. 2568

 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.