สัญญาณเตือน “โรคไต” อาการเริ่มต้น กลุ่มเสี่ยง วิธีรักษา
Thansettakij July 07, 2025 07:37 AM

โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ เตือนภัย “โรคไต” ภัยเงียบที่อาจเริ่มต้นโดยไม่มีอาการชัดเจน แต่หากละเลยจนเข้าสู่ระยะรุนแรง อาจต้องเผชิญกับภาวะไตวายเรื้อรังและต้องฟอกไตไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และผู้ที่รับประทานยาบางชนิดต่อเนื่อง จึงควรเร่งตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันก่อนสายเกินไป

นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ เผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์โรคไตในประเทศไทยน่าเป็นห่วง เพราะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็ว เป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขที่กระทบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก ปัจจัยเสี่ยงหลักคือ ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และผู้ที่ใช้ยากลุ่มต้านการอักเสบ (NSAIDs) หรือยาสมุนไพรที่ไม่ผ่านการรับรอง รวมถึงผู้ที่ได้รับเคมีบำบัด ซึ่งล้วนมีผลกระทบต่อการทำงานของไตโดยตรง

 

สัญญาณเตือน “โรคไต” อาการเริ่มต้น กลุ่มเสี่ยง วิธีรักษา

ด้านนายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี ย้ำว่า โรคไตสามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย และหากไม่ได้รับการตรวจหาสาเหตุและรักษาอย่างเหมาะสม อาจพัฒนาเป็นโรคไตเรื้อรัง พร้อมภาวะแทรกซ้อน เช่น ตัวบวม เท้าบวม เหนื่อยง่าย ปัสสาวะมีฟองหรือมีเลือด การตรวจสุขภาพประจำปีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการค้นหาโรคในระยะเริ่มต้น

รศ.พญ.วรางคณา พิชัยวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลราชวิถี เสริมว่า กลุ่มเสี่ยงหลักที่ควรเข้ารับการตรวจคัดกรอง ได้แก่

  • ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  • ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
  • ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยโรคไต
  • ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
  • ผู้ที่ใช้ยากลุ่ม NSAIDs ต่อเนื่อง

สัญญาณเตือนโรคไตที่ไม่ควรมองข้าม เช่น ปัสสาวะมีฟอง มีเลือดปน ปวดหลัง ปวดบั้นเอว ตาบวม เท้าบวม หรือความดันโลหิตสูงผิดปกติ โดยวิธีป้องกันที่สำคัญ คือ การควบคุมระดับน้ำตาลและความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ งดอาหารหมักดอง งดสูบบุหรี่ และเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวดหรือสมุนไพรที่ไม่ทราบแหล่งที่มา
 

โรคไตสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  • โรคไตเฉียบพลัน มักเกิดจากภาวะขาดน้ำ การติดเชื้อ หรือได้รับสารพิษ การรักษาเน้นแก้ไขสาเหตุ เช่น หยุดยา เติมน้ำ หรือใช้ยาปฏิชีวนะ
  • โรคไตเรื้อรัง มักเกิดจากเบาหวาน ความดันสูง ไตอักเสบ หรือพันธุกรรม การรักษามุ่งเน้นที่การชะลอความเสื่อมของไต และควบคุมภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะบวมน้ำ โลหิตจาง กระดูกพรุน และความดันสูง

หากเข้าสู่ระยะสุดท้าย ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการบำบัดทดแทนไต มีแนวทางการรักษา 4 ทาง ได้แก่

  • การล้างไตทางช่องท้อง
  • การฟอกเลือดผ่านเครื่องฟอกไต
  • การปลูกถ่ายไต ซึ่งมีประสิทธิภาพดีที่สุดในผู้ป่วยระยะสุดท้าย
  • การรักษาแบบประคับประคอง สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้ารับการบำบัดเต็มรูปแบบได้

การตรวจเลือดดูค่าการทำงานของไต และตรวจปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันโรคไต พร้อมแนะให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงหมั่นดูแลสุขภาพ และพบแพทย์เฉพาะทางเมื่อพบความผิดปกติ เพื่อไม่ให้โรคพัฒนาไปสู่ระยะที่รักษายากและกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างรุนแรงในระยะยาว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.