"พี่หนูแหม่มรู้มั้ย จริงๆเราเราคิดเผื่อชีวิตแบบนี้มานานแล้ว เพราะเราเห็นมาหลายล็อตแล้ว และบ้างล็อตก็เป็นล็อตที่เราเป็นหัวหน้า ที่เราต้องบอกเค้า จริงๆปอไม่มีส่วนเอาคนออกนะคะ แต่จะเป็นในส่วนของการประเมินนะคะ เราก็ไม่คิดหรอกคะว่าจะเป็นตัวเอง ก็มีเตรียมใจไว้บ้างเหมือนกัน เพราะว่าสถานการณ์ตอนนี้เราก็ต้องเข้าใจ สื่อในทีวีมันก็ค่อนข้างจะไปกันยากแล้วแหละ เรารู้เลยว่าเรือลำใหญ่ของเรามันแบกไม่ไหวแล้วอ่ะ วันนึงเรือมันแตก ก็ต้องจม หรือมีคนไป"
"เราเข้าใจทุกอย่าง แม้ในใจมันจะหวิวๆ มันรักบ้านหลังนี้ ปอเชื่อว่าน้องๆทุกคนก็มีความรู้สึกแบบนี้ ทุกคนเข้าใจมันหวิวเพราะรักที่นี่"
วางแผนตัวเองยังไงต่อ จะมุ่งทำโซเชียล หรือไลฟ์ขายของมั้ย? "ตอนแรกที่เจอ หนูคิดอะไรไม่ออกเลย หนูคิดแต่ว่าหนูไปทำงานที่ช่อง หนูถนัดแต่ในเรื่องของพิธีกร แต่ส่วนนึงที่เจ้านายให้โอกาสก็คือมีแว้บๆไปทอล์คขายของมาแล้วบ้าง เพราะหนูรู้สึกว่าการขายของเป็นสิ่งที่หนูถนัดมากที่สุด หมายถึงว่าไปขายของให้เค้าไปรีวิวให้เค้า เราชอบตรงนี้แล้วเราก็มีความจริงใจที่จะรีวิว และลูกค้าจะชอบก็คิดว่าตรงนี้เป็นอาชีพเสริมอย่างเดียว แต่เราก็คิดว่าเศรษฐกิจแบบนี้แล้วใครจะจ้างเราต่อไป"
แล้วงานโซเชียลอื่นๆมีได้ดูไว้บ้างมั้ยคะ? "ก็มีดูค่ะ มีถามแพท ณปภา มีดูๆจากเค้า แต่หนูก็คิดว่ามันไม่ง่าย ทีแรกทุกคนก็บอกว่าออกมาลุยโซเชียลซิคิดว่าง่าย มันยาก ตอนแรกคิดว่าจะถ่ายเองตัดเอง ในที่สุดแล้วมันทำไม่ทัน บางทีจะตัดคลิปขายของใช้เวลาทั้งวัน และก็ไปเจอพิ้งกี้ สาวิกา เราก็ถามเค้าหนูทำคลิปตลกมากเลย เค้าก็บอกว่าหนูมีผู้ช่วย ผู้ช่วยเค้าก็ไม่ได้เยอะทำกับพิ้งกี้สองคน แต่วันนึงต้องทำคลิป2-3คลิป ต้องตัดคลิปใส่เพลง ด้วยความเค้าเป็นวัยรุ่นก็ยังมีความวือหวา รุ่นเราไปเต้นแบบเค้าเข่าก็ไม่ได้ (หัวเราะ) แล้วถ้ามันฝืนกับธรรมชาติของเรามันก็จะดูหลอกๆ"

กับงานขายของไลฟ์สดพอไหวมั้ย? "มีบ้างค่ะ มีไลฟ์สดขายเสื้อผ้ากับเพื่อน เราก็เลือกมาแบบเสื้อผ้าคนอายุ40-50 กว่า ตามบุคลิกของเราก็คือขายได้อยู่ แต่พี่หนูแหม่มรู้มั้ยว่าการไลฟ์สดขายของ เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก หนูไลฟ์ไปนอกจากเสียงจะไม่มีแล้ว ยังปวดหลังไปด้วย (หัวเราะ)มันไม่ใช่ทางเรา มันต้องไลฟ์ไปเรื่อย มันหยุดไม่ได้"
ครอบครัวเราว่ายังไงบ้างกับสิ่งที่เกิดขึ้น? "เค้าก็สนับสนุนทุกอย่าง อยากทำอะไรก็ทำ แต่ข้อดีหนูว่ามันก็ดีมากในการดูแลสุขภาพ มีเวลามากขึ้น มีเวลาเลี้ยงลูก ได้สร้างเยาวชนขึ้นมาหนึ่งคน แต่หนูก็ลำบากหน่อยที่มีลูกตอนอายุเยอะ ถามว่าโดนออกงานตอนนี้ แต่เรายิ่งต้องหาเงินจ่ายค่าเทอมลูกอยู่เลยนะ"
แล้วได้คุยกับลูกยังไงบ้าง? "บอกกับลูกว่าเราไม่ได้สบายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เราต้องประหยัด แม่ติดอาวุธให้ลูกแล้วเรื่องการศึกษา ลูกต้องหาเองตั้งใจและทำเอง เงินส่วนที่เก็บมีแต่ของแม่ คุยกันแบบผู้ใหญ่เพราะเขาอายุ 14 แล้ว เงินของแม่นะ มรดกไม่มีให้ ลูกต้องหาเอง บ้านมีให้ถ้าถึงวัยทำงานลูกอยู่บ้านไปก่อน ยังไม่ต้องไปเช่าหรืออะไร รถมีใช้ได้ แต่เงินที่จะหาใช้ซื้อความสุขหา เงินที่เป็นส่วนซื้อความสุขแม่ แม่กับพ่อต้องเก็บไว้ใช้อย่ามาเอา ไม่มีมรดกให้ ให้เค้าหาเอง เค้าเข้าใจเราก็ไม่ได้พึ่งเค้า เค้าก็ไม่ต้องมาให้แม่ แม่ขอมีเงินส่วนที่แม่ดูแลตัวเอง"
มีอะไรอยากจะบอกคนที่มีงานประจำ แล้ววันนึงต้องถึงคิวที่ต้องโดนออก? "ต้องหาอะไรทำ อย่าทำอาชีพเดียว หาอะไรก็ได้ อย่างหลายคนก็ทำงานปักตะกร้า ถือเป็นค่ากับข้าว กะปิน้ำปลาก็ว่ากันไป หาอาชีพเสริมหน่อย"


