ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดลงกว่า 2% หลังตลาดกังวลมาตรการภาษีทรัมป์กดดันเศรษฐกิจโลก
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดลงกว่า 2% หลังตลาดกังวลเรื่องผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน
โดยล่าสุดทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากบราซิลเป็น 50% รวมถึงเพิ่มภาษีนำเข้าจากหลายประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา แอลจีเรีย อิรัก และลิเบีย ที่อัตรา 30% บรูไนและมอลโดวา 25% และฟิลิปปินส์ 20% นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มภาษีนำเข้าทองแดงเป็น 50% โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. 68
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 10 ก.ค. 68 อยู่ที่ 66.57 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.81 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 68.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.55 เหรียญสหรัฐ
ตลาดคาดโอเปกพลัสจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 550,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ย. 68 ทั้งนี้ การปรับเพิ่มดังกล่าวจะส่งผลให้โอเปกพลัสสามารถบรรลุเป้าหมายการปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงบรรลุแผนการปรับฐานการผลิตของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มขึ้น 3 แสนบาร์เรลต่อวันภายในเดือน ก.ย. 68 เร็วกว่ากำหนดเดิมราว 1 ปี โดยการประชุมเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับปริมาณการผลิตเดือน ก.ย. 68 จะมีขึ้นในวันที่ 3 ส.ค. 68
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 ก.ค. 68 ปรับเพิ่มขึ้น 7.07 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 426 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล