“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ดำเนินการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ทั้งประเภทถนน, ลู่, เสือภูเขา และบีเอ็มเอ็กซ์ นับเป็นเวลา 7 เดือนเต็ม มีการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งด้านเวชศาสตร์การกีฬา, ด้านโภชนาการ, ด้านชีวกลศาสตร์, ด้านจิตวิทยา ฯลฯ โดยมี พลตรี นายแพทย์ภูษิต เฟื่องฟู อุปนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ฝ่ายแพทย์ เป็นหัวหน้าคณะในการนำทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาดูแลนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยอย่างใกล้ชิด และมีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายของนักกีฬาเป็นระยะ
พลเอกเดชา กล่าวว่า จากการรายงานของสตาฟฟ์โค้ชนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยทุกประเภทมีความแข็งแกร่งและสมรรถภาพทางร่างกายพัฒนาขึ้นเป็นที่น่าพอใจ ทั้งความแข็งแรงและด้านเทคนิคเป็นไปตามเป้าหมายทุกประการ สำหรับนักกีฬาประเภทถนน และประเภทลู่ระยะกลาง เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่จังหวัดนครนายก, ประเภทลู่ระยะสั้นเก็บตัวอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี, ประเภทเสือภูเขาเก็บตัวที่จังหวัดปราจีนบุรี และประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เก็บตัวอยู่ที่สวนกีฬากมล (เอฟบีที) เขตหนองจอก กรุงเทพฯ นอกเหนือจากการที่ให้นักกีฬาเก็บตัวฝึกซ้อมตามโปรแกรมแล้ว สมาคมกีฬาจักรยานฯ ก็ได้ส่งนักกีฬาไปแข่งขันยังต่างประเทศเป็นระยะ เพราะการที่นักกีฬาฝึกซ้อมต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายเดือน แต่ถ้าไม่มีการแข่งขันรายการใหญ่ ๆ ก็อาจจะทำให้นักกีฬาเกิดความเบื่อหน่ายได้
“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงเตรียมส่งนักกีฬาทีมชาติไทยไปร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ เดอ บันยูวังกี อีเจน” ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม มีนักกีฬาจำนวน 5 คน ประกอบด้วย พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง, ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย, ส.ท.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, ร.ต.อ.นวุติ ลี้พงษ์อยู่ และ นายจูดาห์ ทอมป์สัน โดยมี “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท เป็นผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอน, ร.ต.อ.ณัฐพล จีบถาวรธาวิต เป็นช่างประจำทีม และ จ.ส.อ.รัฐพงศ์ เรือนเมา เป็นนักกายภาพบำบัด การแข่งขันรายการนี้ทางเจ้าภาพได้ลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) ในระดับ UCI 2.2 ก็จะเป็นโอกาสให้นักปั่นไทยเก็บคะแนนสะสมอันดับโลกเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขันอีกด้วย
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า การแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ เดอ บันยูวังกี อีเจน” ที่ประเทศอินโดนีเซีย จะเป็นบททดสอบความสามารถของจูดาห์อีกรายการหนึ่งหลังจากที่เขาได้เดินทางมาฝึกซ้อมในนามทีมชาติไทยได้ประมาณ 1 เดือนเศษ และมีโอกาสได้ลงแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2568 สนามที่ 4 ที่จังหวัดพิจิตร และการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” ประจำปี 2568 สนามที่ 3 ซึ่งจูดาห์ก็ทำผลงานได้ดีโดยเฉพาะประเภทลู่กวาดมาได้ถึง 3 เหรียญทองในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ส่วนการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์ประเทศไทยฯ สนามที่ 4 ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคมนี้ ที่เวลโลโดรมหัวหมาก จูดาห์ก็จะลงแข่งขันอีกเช่นเดียวกัน
ด้าน “โค้ชบาส” พ.อ.อ.ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ ผู้ฝึกสอนจักรยานประเภทถนนทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้นักกีฬาทุกคนมีสภาพร่างกายที่ดี และจะมีการทดสอบปั่นจับเวลากันในวันที่ 21-22 กรกฎาคมนี้ รวมทั้งการทดสอบปั่นขึ้นเขาด้วย เนื่องจากเส้นทางการแข่งขันจักรยานประเภทถนนในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มีการปั่นขึ้นเขาใหญ่ด้วย ส่วนโปรแกรมการฝึกซ้อมอื่น ๆ ก็อยู่ในช่วงเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้นักกีฬา แต่ยังไม่เพิ่มความเข้มข้นเนื่องจากแผนของเราคือต้องการให้นักกีฬามีร่างกายฟิตและสมบูรณ์สูงสุดในช่วงแข่งขันซีเกมส์พอดี สำหรับ จูดาห์ ตนได้ปรึกษากับ “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท รองประธานฝ่ายเทคนิคว่า จะให้ลงแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์ประเทศไทยฯ สนามที่ 4 แค่ 2 รายการคือสแครตช์ กับพอยต์เรซ ซึ่งแข่งวันเดียวจบในวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม หากแข่งหลายรายการอาจจะมีผลกระทบต่อการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวไปแข่งขันรายการ “ทัวร์ เดอ บันยูวังกี อีเจน” ที่ประเทศอินโดนีเซีย
“โค้ชบาส” กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่จูดาห์ได้มาเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ประมาณ 1 เดือน ก็แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักกีฬาที่มีความตั้งใจฝึกซ้อม การปั่นบนถนนทางเรียบก็ทำได้ดีมาก มีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม ส่วนการปั่นขึ้นเขาก็ทำได้น่าพอใจ ถึงแม้ว่าจูดาห์จะมีน้ำหนักตัวถึง 70 กก. ก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันรายการ “ทัวร์ เดอ บันยูวังกี อีเจน” ที่ประเทศอินโดนีเซียแล้ว จูดาห์จะเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการเรื่องการสำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัยอินเดียนา จากนั้นจะเดินทางไปแข่งขันจักรยานประเภทถนนรายการ “ยูซีไอ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ที่ประเทศรวันดา ระหว่างวันที่ 21-28 โดยจูดาห์จะลงแข่งขันรายการโรดเรซ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ในวันที่ 26 กันยายน นอกจากนี้ก็จะมี พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง จะลงแข่งขันรายการโรดเรซ รุ่นประชาชนชาย ในวันที่ 28 กันยายน
“สำหรับพีระพลตอนนี้มีคะแนนสะสมรั้งอันดับ 2 ของเอเชียทัวร์ มี 355 คะแนน ส่วนอันดับ 1 เป็นของ เยฟเกนี่ เปโดรอฟ นักปั่นชาวคาซัคสถาน มีคะแนนสะสม 399.33 คะแนน หากการแข่งขันรายการยูซีไอ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ พีระพล สามารถทำผลงานได้ดีก็สามารถเก็บคะแนนตีตื้นหรือแซงขึ้นอันดับ 1 ได้อีกครั้ง รวมถึงจูดาห์ก็เช่นเดียวกันหากทำผลงานดีก็มีคะแนนสะสมให้กับประเทศไทย เนื่องจากจูดาห์ได้ลงทะเบียนกับยูซีไอมาถือสัญชาติไทยเต็มตัวตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถือเป็นผลดีต่อการคว้าโควตาโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลีส และเมื่อจบการแข่งขันที่ประเทศรวันดาแล้ว ทั้งจูดาห์และพีระพลก็จะกลับมาเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมทีมสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ต่อไป ซึ่งทั้ง 2 คนถือเป็นนักกีฬาความหวังในการคว้าเหรียญทองให้กับทีมจักรยานไทย” พ.อ.อ.ภุชงค์ กล่าวทิ้งท้าย.