10 ปี เนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ คืนระบบนิเวศคลองขนมจีน สู่พื้นที่อนุรักษ์ระดับประเทศ
GH News July 15, 2025 02:06 PM

คลองขนมจีน เป็นหนึ่งในสายน้ำสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มที่อุดมสมบูรณ์ รับน้ำจากแม่น้ำน้อยและเชื่อมต่อกับคลองพระยาบรรลือ ครอบคลุมพื้นที่ 6 ตำบล ได้แก่ ตำบลสามกอ ตำบลบางนมโค ตำบลบ้านหลวง ตำบลสามตุ่ม ตำบลคู้สลอด และตำบลพระยาบันลือ สายน้ำสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางของวิถีชีวิตผู้คนในชุมชน ใช้เป็นเส้นทางสัญจร แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และเป็นแหล่งหาปลาที่หล่อเลี้ยงผู้คนมาตั้งแต่อดีต

แต่เมื่อความเจริญเข้ามาในพื้นที่ มีการสร้างถนนและโรงงานอุตสาหกรรม วิถีชีวิตที่เคยผูกพันกับสายน้ำก็ค่อยๆ จางหายไป ผู้คนเปลี่ยนจากการทำเกษตรมาเป็นแรงงานในโรงงานมากขึ้น ส่งผลให้แหล่งน้ำเริ่มเสื่อมโทรม เกิดปัญหาขยะ ผักตบชวาขึ้นหนาแน่น และสัตว์น้ำก็ลดน้อยลง แม้ชาวบ้านและหน่วยงานภาครัฐจะพยายามช่วยกันดูแลฟื้นฟู แต่ปัญหาก็ยังไม่หมดไป

จุดเปลี่ยนที่สำคัญเริ่มต้นในปี 2558 เมื่อโครงการ “เนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ” ของบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เข้ามาในพื้นที่ โดยมีจุดเริ่มต้นจาก “โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ” ซึ่งเป็นการประกวดแผนงานอนุรักษ์แหล่งน้ำ โรงเรียนสาคลีวิทยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นโรงเรียนที่ชนะการประกวด และได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนนำร่อง พร้อมจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ที่โรงเรียนในปี 2561 เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการถ่ายทอดความรู้และส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำอย่างครบวงจร

นกที่พบในคลองขนมจีน

โดยได้ดำเนินโครงการในพื้นที่ตำบลบางนมโค บ้านหลวง สามกอ และสามตุ้ม ในเขตอ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา  รวมระยะทางกว่า 18 กิโลเมตร ภายใต้แนวคิด “เรียนรู้ ปกป้อง ฟื้นฟู” เพื่อฟื้นฟูแหล่งน้ำให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

ในโอกาสครบรอบ 10 ปี นับเป็นความสำเร็จของบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ที่โครงการนี้สามารถคืนปริมาณและคุณภาพน้ำกลับสู่ชุมชนได้ พร้อมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพให้กลับมาอีกครั้ง โดยมีความร่วมมือกับชุมชน อปท. และพันธมิตร เช่น สผ. กรมชลประทาน กรมประมง WWF ประเทศไทย วงษ์พาณิชย์ และ มรภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อฟื้นฟูคลองขนมจีนอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด คลองขนมจีนได้รับการยกระดับเป็นพื้นที่นำร่องระดับประเทศ สำหรับการดำเนินงานอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตพื้นที่คุ้มครอง (OECMs) อย่างเป็นทางการของประเทศไทย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างภาคธุรกิจ ชุมชน และธรรมชาติ

ไชยงค์ สกุลบริรักษ์

ไชยงค์ สกุลบริรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โครงการเนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเนสท์เล่ในการสร้างคุณค่าแก่สังคมและสิ่งแวดล้อมไทย โดยมีแผนงานด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ (Water Stewardship) เป็นหนึ่งใน 4 แผนหลักในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero 2050

ชาวบ้านมายกยอหาปลา

ไชยงค์ กล่าวต่อว่า โครงการดำเนินการฟื้นฟูคลองขนมจีนอย่างครบวงจร 3 ด้าน ได้แก่ 1. เรียนรู้  ส่งเสริมความรู้และจิตสำนึกด้านการจัดการน้ำผ่านศูนย์การเรียนรู้เนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ ที่โรงเรียนสาคลีวิทยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเนื้อหาเพิ่มเติมด้านความหลากหลายทางชีวภาพ 2. ปกป้อง  ป้องกันขยะลงแหล่งน้ำ ผ่านกิจกรรมตลาดนัดขยะชุมชน ร่วมกับวงษ์พาณิชย์ เก็บขยะรีไซเคิลได้กว่า 16 ตัน และจัดตั้งธนาคารขยะ ที่โรงเรียนสาคลีวิทยา 3. ฟื้นฟู ฟื้นฟูคุณภาพน้ำและระบบนิเวศ ด้วยการอนุรักษ์พันธุ์ปลาและพืชน้ำท้องถิ่น พร้อมปล่อยกุ้งก้ามกราม 100,000 ตัวสู่คลองขนมจีน

“คลองขนมจีนในวันนี้กลับมาสะอาด ชุมชนสามารถใช้เพื่อเกษตร ประมงพื้นบ้าน และเป็นเส้นทางสัญจรได้อีกครั้ง พื้นที่โครงการยังกลายเป็นศูนย์เรียนรู้และแหล่งศึกษาดูงานระดับประเทศ ตอกย้ำบทบาทของคนรุ่นใหม่และชุมชนในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และเนสท์เล่สามารถบรรลุเป้าหมาย Water Regeneration 100% ด้วยการชดเชยน้ำคืนสู่ธรรมชาติและชุมชนในปริมาณเท่ากับที่ใช้ในธุรกิจน้ำดื่ม คิดเป็นกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตรภายในปีนี้” ไชยงค์ กล่าว

ศุภวัฒน์ คามีเยาน์

ด้าน ศุภวัฒน์ คามีเยาน์ ผู้จัดการด้านความยั่งยืนธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ การดำเนินงานด้าน Water Regeneration 100% ของเนสท์เล่ ซึ่งมุ่งชดเชยน้ำคืนสู่ธรรมชาติและชุมชนในปริมาณเท่ากับที่ใช้ในธุรกิจน้ำดื่ม สามารถดำเนินการได้แล้วถึง 65% ภายในช่วงครึ่งปีแรก ในส่วนของการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกพื้นที่คุ้มครอง (OECMs) สอดคล้องกับพันธสัญญาระดับโลก 30×30 ที่ประเทศไทยเข้าร่วม ซึ่งกำหนดให้ 30% ของพื้นที่นอกเขตอนุรักษ์ ต้องมีการบริหารจัดการตามแนวทาง OECM ภายในปี 2030

ศุภวัฒน์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นโครงการที่ คลองขนมจีน จึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นพื้นที่นำร่องระดับประเทศ ด้านระบบนิเวศน้ำจืดในหมวดคลอง และเป็น 1 ใน 5 โครงการที่ขับเคลื่อนโดยภาคเอกชน ซึ่งแต่ละโครงการมีเป้าหมายการอนุรักษ์ที่แตกต่างกันตามลักษณะของพื้นที่สิ่งแวดล้อมที่ดำเนินงานอยู่ โดยความโดดเด่นของโครงการ คือการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งชุมชน ผู้นำท้องถิ่น ภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ร่วมกันบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพในลุ่มน้ำอย่างเป็นระบบ เช่น การฟื้นฟูแหล่งน้ำจืด การเก็บขยะ การฟื้นคืนพันธุ์ปลา รวมถึงการสร้างความรู้และความตระหนักรู้แก่เยาวชนและชุมชน จนสามารถยกระดับคุณภาพน้ำให้สะอาดที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ

“ความท้าทายหลังจากนี้ คือการรักษามาตรฐาน ของพื้นที่ให้สอดคล้องกับเกณฑ์สากลในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม หรือผลกระทบต่อชุมชนในระยะยาว จึงมุ่งรังนกกระจาบ มาทำรังเพิ่มมากขึ้นมั่นดำเนินงานต่อเนื่องและไม่หยุดพัฒนา โดยเริ่มจากการฟังเสียงของชุมชนเสมอ เช่นในช่วงแรกที่ทำงานร่วมกันด้านการจัดการขยะ หากชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านนี้แล้ว ในอนาคตอาจต่อยอดสู่การจัดการ food waste หรือประเด็นอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่ และคาดว่าในปีหน้า โครงการจะได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการโดยองค์กรระหว่างประเทศอย่าง IUCN (International Union for Conservation of Nature) ซึ่งจะทำให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องแหล่งน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นต้นแบบสำคัญที่สามารถขยายผลไปยังลุ่มน้ำอื่นทั่วประเทศ” ศุภวัฒน์ กล่าว

ประสิทธิ์ หอมระรื่น
 

ประสิทธิ์  หอมระรื่น ตัวแทนชาวชุมชนคลองขนมจีน เล่าว่า ในอดีตคลองขนมจีนอุดมสมบูรณ์มาก เต็มไปด้วยกุ้ง หอย ปลา ผักน้ำ และยังใช้ทำนาปลูกข้าว ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้าน แต่เมื่อความเจริญเข้ามา มีถนนและโรงงานเกิดขึ้น วิถีชีวิตก็เปลี่ยน คนหันไปทำงานโรงงาน คลองถูกลืม ไม่มีใครดูแล กลายเป็นทางระบายน้ำเสีย ขยะ โดยเฉพาะถุงพลาสติก เริ่มมากขึ้น เพราะยังไม่มีระบบจัดเก็บขยะที่ทั่วถึง น้ำก็เริ่มเน่า มีกลิ่นเหม็น บางคนดูแลได้แค่หน้าบ้านตัวเอง แต่ส่วนใหญ่ก็ปล่อยเลยตามเลย ปัญหานี้เรื้อรังนานกว่า 30 ปี

ประสิทธิ์ เล่าต่อว่า จนกระทั่งโครงการเนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ เข้ามาดำเนินการในพื้นที่นำร่องระยะทาง 18 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในเขต อ.เสนา จากความยาวคลองทั้งหมด 21 กิโลเมตร โครงการให้ความรู้เรื่องการจัดการน้ำและขยะ ชาวบ้านและผู้นำจาก 4 ตำบลจึงร่วมมือกัน เพราะทุกคนตระหนักว่าน้ำเป็นทรัพยากรสำคัญของชีวิต

การร่วมมือกันของชุมชนและทีมของโครงการ ประสิทธิ์ เล่าว่า เริ่มจากการเก็บขยะ ผักตบชวา และวัชพืชที่ขวางทางน้ำ เด็กนักเรียนก็ร่วมมือกันช่วยเก็บขยะ และเรียนรู้ว่าขยะบางอย่างสามารถแยกขายสร้างรายได้ ตอนนี้ผ่านมา 10 ปี เห็นผลชัดเจน น้ำเริ่มกลับมาใส ปลา กุ้ง นก และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เริ่มกลับมา ชาวบ้านก็เริ่มกลับมาหาปลาอีกครั้ง ชุมชนจึงตื่นตัวและร่วมมือกันมากขึ้น เพราะเห็นว่าน้ำดี ชีวิตก็ดีตาม

ดร.วัชราภรณ์ ตันติพนาทิพย์

ดร.วัชราภรณ์ ตันติพนาทิพย์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พัฒนาการของความหลากหลายทางชีวภาพในบริเวณคลองขนมจีนตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการของเนสท์เล่ที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งด้านการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตและการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิต การเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะกลุ่มหอยกาบและปลาน้ำจืดหลายชนิดที่เคยสูญหายไปจากคลองขนมจีนแต่ในปัจจุบันพบการแพร่กระจายและขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งภายในระบบนิเวศและความสมบูรณ์ของห่วงโซ่อาหาร ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่ช่วยสร้างสมดุลและความอุดมสมบูรณ์แก่คลองขนมจีนอย่างยั่งยืน

ศูนย์การเรียนรู้เนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ
© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.