ช่างผมสาวสองสุดทน แม่ลูกค้าอ้างเป็นหมอ โทรจี้ถามเรื่องเพศสัมพันธ์-แผลที่มือ กลัวติด HIV เหตุหน้าผากสิวแตก เจ้าตัวฟาดกลับด้วยผลตรวจ วอนอย่าตัดสินคนจากเพศสภาพ

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ช่างผมสาวสองแชร์ประสบการณ์สุดงง เจอลูกค้ามาตัดผมที่ร้าน หนึ่งชั่วโมงต่อมามีโทรศัพท์เข้ามาขอสายช่างที่เป็นสาวสอง ต้นสายคือคุณแม่ของลูกค้ากล่าวว่าเป็นหมอเข้ามาสอบถาม เพราะลูกกังวลใจเนื่องจากสิวที่หน้าผากดันแตก กลัวว่าติดเชื้อ HIV แต่ตนเองไม่เห็นว่าสิวแตกในร้านหรือมีเลือดออกแต่อย่างใด ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเพราะเพิ่งตรวจสุขภาพไปเมื่อต้นปี หากไม่สบายใจจะส่งผลตรวจเเล็บให้เพื่อเป็นการยืนยัน

เจ้าของร้านเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ระบุว่า “วันนี้มีลูกค้ามาตัดผม และน้องมีสิวที่หน้าผาก (อักเสบพร้อมระเบิด) เราก็ตัดไปตามปกติเรา จนเสร็จเรียบร้อย น้องก็เซลฟี่กับผมทรงใหม่ในร้านปกติ และจ่ายตังแล้วออกจากร้านไป ผ่านไปหนึ่งชม. มีสายเข้า บอกขายสายช่างตัดผมที่เป็นสาวสอง ซึ่งตัดผมบ๊อบสั้น จมูกโด่ง คุยเป็นการส่วนตัว เขาเป็นแม่ของน้องบอกเป็นหมอด้วย มีอะไรหรือเปล่าคะ(เราคิดว่าตัดผมไม่ถูกใจ)

แม่ ลค : พอดีน้องไปตัดผม น้องกังวลใจ เรื่องสิวที่หน้าผาก ดันแตก (แต่เราไม่เห็นว่ามันแตกในร้านหรือมีเลือดออกแต่อย่างใด) ขอถามเป็นส่วนตัว น้องกลัว #ติดเชื้อHIV. (เราก็อึ้งแล้วตั้งสติ)

เรา : หนูไม่ได้เป็นค่ะ สบายใจได้ หนูเพิ่งตรวจสุขภาพไปเมื่อต้นปี

แม่ ลค : แล้วมีเพศสัมพันธ์ล่าสุดเมื่อไหร่

แม่ ลค : แล้วที่มือมีแผลมั้ย

(อึ้งรอบสองไปอีก) เรา : อ่อ.. แผลไม่มีค่ะ และหนูมีแฟนคนเดียวตั้งแต่อายุ 21 และอยู่มา 15 ปีแล้ว ตอนนี้หนูก็อายุ 36 คงไปเอากับไม่ได้หรอกหรอกค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่สบายใจ เดี่ยวหนูส่งผลเเล็บ ให้ทางไลน์นะคะ ยืนยันว่าไม่เป็นแน่นอน #เข้าใจนะคะว่าเห็นเป็นสาวประเภท2 #แต่อย่าตัดสินคนจากเพศสภาพ #วันๆพันเรื่อง #แต่ละมื้อแต่ละเดย์”

จากนั้นทางเจ้าของร้านแชร์ภาพบทสนทาเพิ่มเติม ทางลูกค้าทักมาสอบว่าช่างตัดผมมียาทานทุกวันตอน 2 ทุ่มหรือไม่ เจ้าตัวจึงตอบกลับไปว่า “มันควรจบตั้งแต่พี่ส่งใบตรวจให้แล้วนะ น้องยังไม่สบายใจอีก เหมือนน้องกําลังดูถูกพี่นะคะ เหมือนน้องกําลังดูถูกเพศสภาพพี่ด้วย พี่ไม่เป็นคนมั่วอย่างที่น้องคิด น้องจะให้พี่เป็นให้ได้เลยใช่มั้ย พี่ไม่ได้เป็น ผลตรวจพี่ก็ส่งให้แล้ว น้องยังจะเอายังไงอีก พี่ว่าน้องควรไปหาหมอนะคะพบจิตแพทย์ แล้วทําไมต้องกินยาพี่ไม่ได้ป่วยอย่างที่น้องคิด น้องไม่มองในมุมกลับกัน

ถ้าน้องเป็นล่ะ เพราะน้องก็ไม่ได้มีผลแล็บส่งมาให้พี่ดูและพี่มั่นใจว่าน้องไม่เป็น พี่ต้องกลัวน้องเหมือนกัน อย่าไปทําแบบกับคนอื่นนะคะ มันเป็นการไม่ให้เกียรติคนอื่น มันเป็นพื้นฐานของคนที่มีวุฒิภาวะ และโรคพวกนี้มันไม่ได้ติดกันง่ายขนาดนั้น ไม่ใช่หวัด หรือโควิด ตั้งสตินะคะ ถ้าแม่เป็นหมอ จริง ๆ แม่น่าจะมีความรู้เรื่องนี้”

ฝ่ายลูกค้าจึงออกมาขอโทษ เพราะคุณแม่ของตนบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร แต่เธอรู้สึกกังวล ต่อมาเจ้าของร้านสอบถามกลับไปว่าหากว่าอีกฝ่ายเป็นเอดส์ไหมจะเสียใจหรือป่าว เหมือนว่าอีกฝั่งจะยัดเยียดให้เป็นโรคติดต่อให้ได้ ซึ่งโชคดีของตนมีผลแล็บตรวจสุขภาพเพื่อส่งไปยืนยันให้ลูกค้าได้ทันที

ด้านลูกค้าตอบกลับว่าตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะว่า และเรียนเภสัชกร พร้อมขอโทษ อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ช่างตัดผมเผยว่าหากเป็นคนอื่นอาจจะวีนไปแล้ว หากช่างคนอื่น ๆ ในร้านไม่มีผลตรวจเลือดให้จะไม่ต้องวิ่งไปหาผลให้เลยหรือ พร้อมเอ่ยตักเตือนให้ตั้งสติก่อน สุดท้ายทางลูกค้าสาวตอบกลับมาว่า “หนูเป็นคนคิดมากเองค่ะ ต้องขอโทษพี่จริง ๆนะคะ หนูไม่ได้มีเจตนาว่าดังกล่าวเลยค่ะ ต่อไปหนูจะเอาใจเขามาใส่ใจเรามากกว่านี้นะคะ”