กุ้ง ภูริกา เบอร์ 1 เขต 5 ศรีสะเกษ ลุยหาเสียงเลือกตั้ง ชูหัวใจนโยบายเพื่อไทย ประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ ว่าบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 5 จ.ศรีสะเกษ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ กำลังคึกคักเป็นพิเศษ ล่าสุด “กุ้ง” น.ส.ภูริกา สมหมาย ผู้สมัครหมายเลข 1 ในนามพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินหน้าลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำเสนอนโยบายเร่งด่วนที่สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในพื้นที่

นโยบายสำคัญที่ กุ้ง ภูริกา ย้ำในการลงพื้นที่ ได้แก่ การเร่งปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนจำนวนมาก การแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน และปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ซึ่งล้วนเป็นปัญหาเชิงระบบที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจเข้ามาแก้ไขให้เป็นรูปธรรม

น.ส.ภูริกาเปิดเผยว่า แม้ที่ผ่านมายังไม่ได้มีบทบาทโดยตรงในทางการเมือง แต่ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมาตนอยู่เคียงข้าง คุณพ่ออมรเทพ สมหมาย อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ ในการทำงานเพื่อประชาชนมาโดยตลอด และในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่พรรคเพื่อไทยเปิดโอกาสให้สานต่ออุดมการณ์เพื่อประชาชนอย่างเป็นทางการ

“ถึงคุณพ่อจะจากไป แต่เลือดแท้เพื่อไทยยังอยู่ ดิฉันขออาสาทำงานแทนคุณพ่อ ไม่ใช่แค่สืบทอดทางการเมือง แต่เพื่อพิสูจน์ว่าลูกหลานศรีสะเกษพร้อมยืนหยัดเพื่อบ้านเกิด” น.ส.ภูริกากล่าว

น.ส.ภูริกากล่าวต่อไปว่า ทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเศรษฐกิจ สังคม หรือความมั่นคง ปัญหาหนี้สิน ปากท้อง การค้าขายในท้องถิ่น รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ศรีสะเกษ ล้วนต้องได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและทั่วถึง

“ดิฉันเชื่อมั่นว่าพี่น้องชาวขุนหาญและชาวภูสิงห์ยังไม่ลืมผลงานของคุณพ่ออมรเทพ ท่านไม่เคยทอดทิ้งประชาชน และดิฉันก็จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง จะไม่ให้ใครต้องเสียโอกาส” น.ส.ภูริกากล่าว

นอกจากนี้ กุ้ง ภูริกา ยังแสดงความมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยยังคงเป็นความหวังของพี่น้องประชาชนในศรีสะเกษ โดยเฉพาะนโยบายหลายด้านที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเคยผลักดันประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมประกาศขอแรงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้

“ดิฉันไม่ได้มาเพียงเพื่อสานต่อการเมืองของพ่อ แต่ตั้งใจอาสารับใช้ประชาชน ตอบแทนแผ่นดินเกิด ในฐานะลูกหลานขุนหาญ ลูกหลานภูสิงห์ ขอแรงใจจากทุกคน เพื่อก้าวไปด้วยกัน” น.ส.ภูริการะบุ