เปิดใจ "มูฮัมหมัด อุสมานมูซา" แข้งไทย ที่อยู่ท่ามกลางดวงดาว "ฟุตซอลลีกสเปน" ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก หลังประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มาครอง แต่นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดความฝัน
นี่คือนักกีฬาไทย ที่ไปอยู่ท่ามกลางดวงดาว เวทีระดับโลก ของจริง
มูฮัมหมัด อุสมานมูซา เทพฟุตซอลทีมชาติไทย ที่ปัจจุบันค้าแข้งกับ จิมบี คาร์ตาเกนา ทีมในลีกสูงสุดสเปน ลีกที่ดีที่สุดในโลก
ความมุ่งมั่น เป็นแรงผลักดันสู่ลีกกระทิง ตั้งแต่การยืมตัวในปี 2560 เล่นกับ ซานติอาโก ฟุตซอล ก่อนกลับมาตั้งหลักในไทย ต่อด้วยออกเดินทางอีกครั้ง ในปี2565 กับทีม คอร์โดบา แบบยืมตัว และล่าสุดปีที่แล้ว ถูกยอดทีมกระทิงดุ จิมบี ซื้อไปร่วมทัพ
ก้าวที่กล้า แม้การอยู่กับทีมระดับโลก จะไม่ง่าย แต่ มูฮัมหมัด ยังสามารถพาตัวเองร่วมทัพกับซูเปอร์สตาร์ ได้โอกาสลงสนามเรื่อยๆ ก่อนประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์ ฟุตซอลพรีเมียร์ ดิวิชั่น สเปน 2024/25 รอบชิงชนะเลิศ เผด็จศึก บาร์เซโลนา 3-1 เกม นับเป็นแชมป์ที่ 2 ต่อเนื่องจาก ซูเปอร์โคปา
ล่าสุดเขาขึ้นเวทีคว้ารางวัล นักฟุตซอลผลงานโดดเด่น จากงานประกาศรางวัล “FA Thailand Awards”
ในวัยเพียง 27 ปี เจ้าเหม็ด ยืนยันว่ายังมุ่งมั่นกับการลุยลีกสเปนต่อไปยาวๆ
“ผมอยากอยู่ที่ จิมบี ยาวๆ อยู่แล้ว ผมอยู่ที่นั่นทุกอย่างไม่มีปัญหาอะไร จิมบี เป็นทีมใหญ่ อยู่ตรงนั้นมีแต่ได้” เจ้าเหม็ด กล่าว
“ทุกๆ วัน มีการแข่งขันกัน ทั้งในการซ้อม เพื่อชิงตำแหน่ง ผมคิดว่าอยู่กับคนเก่ง ทำให้ผมพัฒนาไปด้วย”
ไม่ใช่เพียงในสนาม แต่เรื่องนอกสนาม มูฮัมหมัด ก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรได้รับการยอมรับเพื่อนร่วมทีม เพราะตนเองก็ไม่ใช่หน้าใหม่ของฟุตซอลสเปน เคยไปเล่น คอร์โดบา มาก่อน ทุกคนรู้จัก เคยเห็นมาก่อน
“แต่ในการเป็นมืออาชีพ เราต้องทำงานหนักในสนาม เราจะดีที่อื่นมาอย่างไรก็ตาม แต่ต้องทำผลงานที่ดีในปัจจุบัน”
แน่นอนว่า การอยู่ในลีกแข็งแกร่ง ก็ต้องแกร่งตาม นับเป็นจุดแตกต่าง ที่สามารถช่วยให้ยกระดับขึ้นไป
“ลีกสเปน เป็นลีกดีสุดในโลก มันต่างกันมากอยู่แล้ว สปีดบอล หรือทุกอย่าง”
“ที่นี่ทุกคนก็อยากมาโชว์ บราซิล อาร์เจนตินา…หรือ ทีมท็อปไฟว์โลก ส่วนใหญ่อยู่นั่นหมด”
“สำหรับนักเตะไทย ถ้ามีโอกาสต้องไป ไม่ว่าทีมเล็ก ใหญ่ มีแต่ได้กำไรกลับมา ถ้าเราตั้งใจ เตรียมพร้อมไปสู้ ผมมองว่านักเตะไทยหลายคนไปได้ แต่ไม่อยากพูดชื่อ อยู่ที่จังหวะ และโอกาสมากกว่า”
เจ้าเหม็ด กล่าวถึงความเป็นอยู่ที่ จิมบี ว่า เขาจะสนิทกับกลุ่มนักเตะ บราซิล ส่วนคู่บัดดี้นอนร่วมห้องในโรงแรม ยามเป็นทีมเยือน ก็คือ ซูฮีล มูฮูดีน ทีมชาติฝรั่งเศส หรือ ปาโบล รามิเรซ ทีมชาติสเปน
ถือว่ามีความสนิทสนมกันกับเพื่อนร่วมทีม จะให้กำลังใจกันเสมอ อย่างเช่นในรอบชิงชนะเลิศ กับ บาร์เซโลนา มีจังหวะที่ เจ้าเหม็ด ยิงจ่อๆ โล่งๆ ชนเสา พลาดโอกาสน่าเสียดาย แต่เพื่อนๆ ต่างเข้ามาปลอบใจ
“ตอนระหว่างเกม ก็มีแต่คนมาให้กำลังใจครับ เราให้กำลังใจกัน แต่พอแข่งจบแล้ว เราได้แชมป์แล้ว ก็มาแซวบ้าง อำบ้าง ธรรมดา”
“แต่ก็เสียดายมากนะ ผมเองก็ไม่ควรพลาด เป็นจังหวะบอล นี่ถ้าไม่ชนะคงนอนไม่หลับ ติดหัวไปหลายวัน”
“เป็นประสบการณ์ที่ดี ถ้ามีโอกาสจะทำให้ดี แล้วก็เสียดายที่ได้ลงน้อยไปหน่อยในนัดนั้น อยากช่วยทีมมากๆ”
การผจญภัยในสเปน ยังเดินหน้าต่อไป มูฮัมหมัด ไม่มีทีท่าว่าจะท้อถอย มีแต่พยายามปรับตัว ยกระดับตัวเองมากขึ้น
“ในสนามผมเต็มที่อยู่แล้วครับ ซ้อมให้หนัก ส่วนนอกสนามปัญหาอาจมีแค่เรื่องภาษา ที่นั่นพูดสเปน ร้อยเปอร์เซ็นต์”
“ผมเองถ้ายืนคุยตัวต่อตัวน่ะคุยได้ แต่ถ้ามาแบบเร็วๆ รัวๆ อย่างตอนขอเวลานอก ต้องรีบพูด บางทีก็ไม่ทัน ก็เข้าคอร์สเรียนอยู่ กลับมาไทยก็เข้าคอร์สเรียนไปด้วย เพื่อเพิ่มทักษะภาษา”
เป็นมุ่งมั่นของ มูฮัมหมัด กับทัศนคติสู้ไม่ถอย แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย 100 เปอร์เซ็นต์ในหัวใจคือ ต้องยืนหยัดอยู่บนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกให้ได้
“ผมไม่รู้หรอก อนาคตเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ผมทำได้คือพยายามรักษาตัวเอง ทำให้ดีที่สุด”
“เพราะผมอยากเล่นระดับสูงนานที่สุด นั่นคือการเล่นที่ลีกสเปนไปอีกหลายๆปี” มูฮัมหมัด ทิ้งท้าย.
วุฒินล บุญวานิช