‘การบินไทย’ เดินหน้าอัดงบกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ลุยธุรกิจ MRO ประเดิมปีหน้าขยาย ‘ดอนเมือง’ ปั้นเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ย้ำความพร้อมชิงสัญญา ‘อู่ตะเภา’ สร้างศูนย์ซ่อมอากาศยานที่ใหญ่ที่สุด รองรับเครื่องบินในประเทศและต่างประเทศ
31 ก.ค. 2568 – นายเชิดพันธ์ โชติคุณ ประธานเจ้าหน้าที่สายช่าง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังการบินไทยออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ และเดินหน้าผลักดันองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น ได้กำหนดแผนลงทุนขยายขีดความสามารถของฝ่ายช่าง โดยจัดทำแผนปรับปรุง และลงทุนศูนย์ซ่อมอากาศยาน ซึ่งประเมินเบื้องต้นใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น แผนขยายขีดความสามารถศูนย์ซ่อมอากาศยานดอนเมือง งบประมาณราว 2 พันล้านบาท และแผนลงทุนศูนย์ซ่อมกาศยานแห่งใหม่ที่อู่ตะเภา วงเงินราว 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับแผนขยายขีดความสามารถศูนย์ซ่อมอากาศยานดอนเมือง เนื่องจากปัจจุบันศูนย์ซ่อมแห่งนี้มีการซ่อมเครื่องยนต์มาอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่าแนวโน้มของการซ่อมบำรุงมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การบินไทยเตรียมงบประมาณราว 2 พันล้านบาท เพื่อขยายศูนย์ซ่อมแห่งนี้ให้กลายเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ โดยวางแผนทยอยลงทุน 3 – 4 ปี คาดจัดใช้งบประมาณเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท
“ปัจจุบันการบินไทยเรามีศูนย์ซ่อมอยู่ที่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ซึ่งที่ดอนเมืองก็ซ่อมเครื่องยนต์อยู่แล้ว แต่เนื่องด้วยดีมานด์มีเพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องขยายขีดความสามารถให้เป็นศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น ปีนี้น่าจะเริ่มออกแบบโครงการ และเริ่มลงทุนปรับปรุงในปีหน้า ส่วนศูนย์ซ่อมที่สุวรรณภูมิก็จะมีการปรับปรุงเล็กน้อย ไม่ได้ใช้งบประมาณที่สูงมากนัก”นายเชิดพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามปัจจุบันการบินไทยยังคงวางแผนร่วมลงทุนในโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วมกับบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ในการศึกษาความเหมาะสมของการร่วมทุนในโครงการ โดยในส่วนของการบินไทยประเมินวงเงินลงทุนไว้ที่ราว 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนในรูปแบบการลงทุนจากทางคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แผนลงทุนในโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา ก่อนหน้านี้การบินไทยเคยศึกษาไว้ พบว่าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานจะดำเนินการบนพื้นที่ประมาณ 210 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมธนารักษ์ที่อยู่ในความครอบครองของกองทัพเรือ และเป็นหนึ่งในโปรเจกต์การลงทุนของ EEC เพื่อพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานขนาดใหญ่ รองรับการซ่อมอากาศยานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้การบินไทยประเมินวงเงินลงทุนอยู่ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานรองรับการซ่อมบำรุงอากาศยาน ประกอบด้วย การซ่อมใหญ่อากาศยาน (Heavy Maintenance) เพื่อรองรับอากาศยานลำตัวกว้างได้พร้อมกัน 3 ลำ, รองรับอากาศยานลำตัวกว้างได้ 110 ลำต่อปี และรองรับอากาศยานลำตัวแคบ 130 ลำต่อปี และยังมีแผนพัฒนาเพื่อซ่อมบำรุงระดับลานจอด (Line Maintenance) เพื่อรองรับอากาศยานลำตัวกว้างและแคบได้ 70 เที่ยวบินต่อวัน รวมทั้งการพ่นสีอากาศยานทั้งลำตัวแคบ และลำตัวกว้าง ซึ่งจะรองรับอากาศยานได้ราว 22 ลำต่อปี
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นพัฒนาโรงซ่อมอากาศยานอัจฉริยะ (Smart-hanger) ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุดของโลก สามารถรองรับการให้บริการซ่อมเครื่องบินทั้งของแอร์บัส และโบอิง โดยตามแผนเดิมที่ศึกษา คาดการณ์เป้าหมายสร้างรายได้ในปีแรกอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท จากการซ่อมอากาศยาน 10 ลำ และประเมินว่าจะมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยอีกปีละ 2% และในช่วง 50 ปีตลอดอายุสัญญาจะมีรายได้รวม 2 แสนล้านบาท