กกพ. เคาะค่าไฟงวด ก.ย.–ธ.ค. 68 เหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย ลด Ft 4 สตางค์ต่อหน่วย
31 ก.ค. 2568 – นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 30/2568 (ครั้งที่ 972) วันที่ 30 และ 31 กรกฎาคม 2568 ได้พิจารณาข้อเสนอการปรับค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (ค่า Ft) ประจำเดือน กันยายน – ธันวาคม 2568 ตามข้อเสนอของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยในครั้งแรกเสนอหน่วยละ 3.98 บาท โดยคืนเงินค่าภาระต้นทุนคงค้าง (ค่า AF) ให้กับ กฟผ. 7,072 ล้านบาท แต่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนนั้น กฟผ. เสนอขอปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าเป็นหน่วยละ 3.95 บาท โดยขอให้ กกพ. นำเงินจากการเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินที่อยู่กับ กฟผ. ประมาณ 4,900 ล้านบาท ลดค่าไฟฟ้าและภาระหนี้ของ กฟผ. เพิ่มเติมในรอบนี้ด้วย
ทั้งนี้ กกพ. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 67 แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาต ซึ่งหมายถึง กฟผ. เป็นผู้เสนออัตราค่าบริการให้ กกพ. พิจารณา ดังนั้น กกพ. จึงพิจารณาตามข้อเสนอใหม่ของ กฟผ. ตามประกาศ กกพ. เรื่อง กรอบหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า พ.ศ. 2564 ข้อ 34 (2) ลดค่าไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า ตามความเหมาะสมเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะวิกฤติที่ส่งผลต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในวงกว้างในระหว่างรอบการกำกับ ควบคู่ไปกับการพิจารณากรอบการใช้เงินตาม ข้อ 34 (1) ที่กำหนดให้นำเงินดังกล่าวมาใช้สำหรับสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพอัตราค่าไฟฟ้าในรอบกำกับถัดไปด้วย“เมื่อตรวจสอบยอดเงินจากการเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินที่อยู่ กฟผ. ประมาณ 4,955 ล้านบาทกับเงินที่อยู่กับ กฟภ. และ กฟน. พบว่ามียอดรวมทั้งสิ้น 7,927 ล้านบาท
โดย กกพ. จึงมีมติให้นำเงินจากการเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินประมาณ 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,640 ล้านบาท มาลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน หรือคิดเป็นหน่วยละ 4 สตางค์ เป็นผลให้อัตราค่าไฟฟ้าที่ กฟผ. เสนอมาในครั้งแรกหน่วยละ 3.98 บาท ปรับลดเหลือหน่วยละ 3.94 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยคิดเป็นค่าเอฟทีสำหรับเรียกเก็บในงวดประจำเดือนกันยายน – ธันวาคม 2568 ลดลงจากเดิม 19.72 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 15.72 สตางค์ต่อหน่วย และ กกพ. ให้นำเงินจากการเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกินที่เหลืออีก 5,287 ล้านบาท ใช้สำหรับสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพอัตราค่าไฟฟ้าในรอบกำกับถัดไป
นายพูลพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กกพ. ยังแสดงความห่วงใยกรณีราคาก๊าซธรรมชาติตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปี เนื่องจากความต้องการใช้ก๊าซที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวของสหภาพยุโรปและปัญหาจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ อาจส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าปรับสูงขึ้นจากค่าประมาณการ สำนักงาน กกพ. จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าได้ง่ายๆ 5 ป. ได้แก่ ปลด หรือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าลดการใช้ไฟฟ้าเมื่อใช้งานเสร็จ ปิด หรือดับไฟเมื่อเลิกใช้งาน ปรับ อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 26 องศา เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้าน ซึ่งทั้ง 5 ป. จะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าเองด้วย