คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย แถลงความพร้อมก่อนชุมนุมใหญ่ 2 ส.ค. นี้
วันที่ 1 ส.ค.68 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล, นายแก้วสรร อติโพธิ, นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายสมชาย แสวงการ แถลงข่าวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
นายพิชิต ไชยมงคล เปิดเผยว่า การชุมนุมจะจัดขึ้นตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. โดยยึดหลักสันติวิธี ปราศจากอาวุธ รวมใจคนไทยเป็นหนึ่งเดียว พร้อมยืนยันเป้าหมาย 3 ข้อเรียกร้องเดิม ได้แก่
1. เรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ
2. เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล
3. ให้ประชาชนร่วมแสดงพลังในการปกป้องอธิปไตยของชาติ
นอกจากข้อเรียกร้องทางการเมือง การชุมนุมครั้งนี้ยังจัดขึ้นเพื่อรวมพลังส่งกำลังใจให้ทหาร ตำรวจ ทหารพราน อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่แนวหน้า รวมถึงแพทย์ พยาบาล และชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน โดยจะเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องใช้จำเป็น และตาข่ายกันระเบิดวิถีโค้ง ซึ่งเป็นของจำเป็นเร่งด่วน
นายแก้วสรร อติโพธิ กล่าวย้ำว่า การชุมนุมในครั้งนี้ไม่ใช่การเรียกร้องรัฐประหาร แต่เป็นการใช้พลังประชาชนเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อสถานการณ์ชายแดน พร้อมทั้งวิจารณ์บทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแทรกแซงรัฐบาล และแม้แต่การเจรจาทางทหาร โดยตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีประเทศใดเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่เชื่อว่ากัมพูชาจะหยุดสู้ในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากต้องการรักษาอำนาจของตระกูลสมเด็จฮุนเซน
ด้านนายสมชาย แสวงการ แสดงความเห็นว่า รัฐบาลไทยกำลังละเลยต่อความมั่นคงของประเทศ ปล่อยให้กัมพูชาซึ่งมีศักยภาพทางทหารด้อยกว่าเข้ามารุกราน และโจมตีโรงพยาบาล โดยเชื่อว่าทั้งสองตระกูล “ชินวัตร” และ “ฮุนเซน” กำลังตกลงผลประโยชน์ร่วมกัน ขณะที่รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร กลับกลายเป็นไส้ศึกภายใน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวเสริมว่า การเจรจาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาถือเป็นจุดอ่อนสำคัญ เพราะเกิดขึ้นในช่วงที่กองทัพไทยเสียเปรียบในหลายยุทธภูมิ เช่น ปราสาทตาควาย จึงถือเป็นการประนีประนอมที่เสียเปรียบอย่างรุนแรง โดยมีประเทศมหาอำนาจอยู่เบื้องหลัง ย้ำว่า การชุมนุมในวันที่ 2 สิงหาคมนี้เป็นการรวมพลังของประชาชนผู้รักชาติ ไม่ใช่การสร้างความวุ่นวายหรือขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมชี้แจงว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ไปที่ชายแดน แต่จะจัดกิจกรรมในพื้นที่เมืองเพื่อกดดันรัฐบาล และส่งกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานแนวหน้า
สำหรับการช่วยเหลือแนวหน้าในวันพรุ่งนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมจัดรถบรรทุก 2 คันจากภาคเอกชนมารับสิ่งของบริจาคจากประชาชนที่อนุสาวรีย์ชัยฯ โดยเที่ยวแรกจะออกเดินทางเวลา 18.00 น. เพื่อส่งมอบสิ่งของให้เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่แนวชายแดน โดยจะประสานสถานที่กับทางกองทัพต่อไป