นายก อบต.บักได ประชุมเยียวยาครอบครัว ลุงวัย 61 ปี ที่ช็อคเสียชีวิตระหวางหนีสงคราม ส่วนโดรนปริศนา ยังคงบินว่อน
GH News August 02, 2025 12:08 PM

สุรินทร์ นายก อบต.บักได ประชุมเยียวยาครอบครัว ลุงวัย 61 ปี ที่ช็อคเสียชีวิตระหวางหนีสงคราม ส่วนโดรนปริศนา ยังคงบินว่อน ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 ประกาศมาตรการต่อต้านแล้ว

วันนี้ 2 สิงหาคม 2568 ที่ศูนย์พักพิง ผู้ประสภัยสงครามแห่งหนึ่ง นายณัฐพัชร์ บุญมี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบักได ได้เชิญคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนขององค์การบริหารส่วนตำบลได อำเภอพนมดงรักจังหวัดสุรินทร์ ประชุมเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน รายนายบุญเรือง รูปขำ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 8 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังจากเสียชีวิตจากการอพยพเพื่อเข้าศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่ตำบลเชื้อเพลิง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากเกิดการประทะระหว่างไทย - กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 

โดยเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. นายบุญเรือง ได้ใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เพื่ออพยพออกจากหมู่ที่ 8 ตำบลบักได เมื่อถึงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัส อำเภอปราสาท นายบุญเรือง รูปขำ ได้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ลิ้นแข็ง ทำให้ต้องเรียกรถฉุกเฉินเพื่อนำส่งโรงพยาบาลปราสาท ต่อมาเวลาประมาณ 12.05 น. นายบุญเรืองได้เสียชีวิต ณโรงพยาบาลปราสาท โดยแพทย์ได้แจ้งสาเหตุการตาย เกิดจากสมองขาดเลือดฉับพลัน คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนขององค์การบริหารส่วนตำบลบางได นำโดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบักได ปลัดอำเภอพนมดงรัก เกษตรอำเภอพนมดงรัก ท้องถิ่นอำเภอพนมดงรัก ปลัดอบต. บักได รองปลัดอบต. บักได ตัวแทนประชาคม ผู้ใหญ่บ้าน นักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยอบตได รวมถึงภรรยาผู้เสียชีวิตและบุตรสาว ได้เข้าประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ณ โรงเรียนรัฐประชาสามัคคี ตำบลเชื้อเพลิง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ที่ประชุมมีมติที่ประชุมมีมติให้ความช่วยเหลือเป็นค่าทำศพ เป็นเงิน 29,700 บาท และผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัวจึงพิจารณาให้เงินสงเคราะห์เพิ่มเติมอีกจำนวน 29,700 บาท  รวมการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้  รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 59,400 บาท (ห้าหมื่นเก้าพันสี่รอยบาทถ้วน)

นางประดับศรี รูปขำ อายุ 60 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันนั้นแกขับรถมาถึง อ.ปราสาท บอกว่าแน่นหน้าอก แขนไม่มีแรง  หิวน้ำ เลยไปซื้อน้ำส้มกินได้นิดหน่อย บอกไม่ไหวแล้ว ตนจึงยกมือไหวร้านแถวนั้นให้ช่วย จึงแจ้งรถกู้ชีพโรงพยาบาลมารับไป รพ.ปราสาท และก็เสียชีวิตไม่ถึงชั่วโมง แกไม่เคยมีอาการแบบนี้ อากาศร้อนด้วยวันนี้ และก็ตกใจด้วย ศพก็เผาแล้วที่วัดสุวรรณวิจิตร อ.ปราสาท เก้บกระดูกไว้ จบสถาณการร์จะไปทำบุญตามหลัง  มีลูก 3 คน อยกย้ายทำงายอยู่ต่างจังหวัด มีคนหนึ่งที่กลับมาดู ส่วนการเยียวจากจังหวัด ส่งเอกสารไปให้หมดแล้ว น่าจะรอประชุมพิจารณาอีกครั้ง  วันนี้ก็พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสุงสุด กองบัญชาการกองทัพไทย ก็ได้มอบเงิน 1 หมื่นบาท มาให้เป็นกำลังใจ ตนขอบคุณท่านมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังหยุดยิง เป็นวันที่ 5 พบประชาชนผู้อพยพ เริ่มพากันทยอยเดินทกลับบ้านบ้างแล้วบางส่วน แม้ จนท.ในพื้นที่ยังไม่ได้อนุญาตให้กลับบ้าน เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบและเก็บกู้ลูกกระสุนปืนใหญ่ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาในหลายพื้นที่ให้เสร็จสิ้น หวั่นจะมีการตกค้างและยังไม่ระเบิด และให้รอดูสถานการณ์สักระยะก่อน  ซึ่งทางการจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านยังคงพบโดรนบินขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งอำเภอชายแดน อ.ปราสาท และ อ.เมืองสุรินทร์ ในจุดเดิม แต่ไม่มากเหมือนสองวันก่อน

ทั้งนี้เพจเฟสบุ๊คของกองทัพภาคที่ 2 ได้โพสต์ประกาศ ยกระดับมาตรการต่อต้านโดรน หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร

โดยมีรายละเอียดดังนี้  กองทัพบกบูรณาการทุกภาคส่วน ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร

ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เรื่องห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือ “โดรน” ที่ควบคุมการบินจากภายนอก, ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน, และทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการใช้ระบบต่อต้านโดรน (Anti-Drone System) รวมถึงสามารถดำเนินการทำลายโดรนจากภาคพื้นดินได้ทันที

ในการนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ถึง 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 ถึง 4 ดำเนินมาตรการตามแนวทางดังต่อไปนี้

• ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด โดยมีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ฝ่ายทหาร) เป็นผู้รับผิดชอบในการหารือและประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการ หน่วยงาน และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมและวางแผนภาพรวมในการป้องกันและต่อต้านการใช้โดรนไม่ทราบฝ่าย

• ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยงานความมั่นคง ภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วยกำลังจากฝ่ายพลเรือน ตลอดจนตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร และสารวัตรทหาร เพื่อดำเนินการสกัดกั้นและติดตามจับกุมผู้บังคับหรือใช้โดรนไม่ทราบฝ่าย

สำหรับแนวทางการใช้อาวุธในการต่อต้านอากาศยานไร้นักบิน แบ่งเป็นกรณี ดังนี้

1.กรณีมีการใช้อาวุธก่อน หรือพบพฤติการณ์เป็นภัยคุกคามร้ายแรง ที่อาจกระทบต่อชีวิตของกำลังพลและประชาชน รวมถึงอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ให้หน่วยที่วางกำลังตามแนวชายแดนสามารถใช้อาวุธประจำกายหรืออาวุธประจำหน่วยเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามได้ทันที

2.กรณีตรวจพบในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และ 2

  • พื้นที่แนวหน้า: สามารถใช้ทั้งมาตรการ Soft Kill และ Hard Kill ได้

  • พื้นที่ส่วนหลัง: ให้ใช้ Soft Kill เป็นลำดับแรก หากไม่สามารถดำเนินการได้ จึงให้ใช้ Hard Kill โดยต้องใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของประชาชน

3.กรณีตรวจพบในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 และ 4

  • ให้เน้นการใช้มาตรการ Soft Kill ก่อนเป็นลำดับแรก หากสถานการณ์จำเป็น ให้ใช้มาตรการ Hard Kill ตามความเหมาะสม

  • การใช้อาวุธให้ถือเป็นความรับผิดชอบหลักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหน่วยทหารสามารถใช้อาวุธได้เฉพาะในขอบเขตที่ตั้งและพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย โดยใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง และต้องไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นหรือทราบเบาะแสเกี่ยวกับการบังคับหรือปล่อยอากาศยานไร้นักบิน ที่อาจฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนความมั่นคง 1374 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.