ชาวบ้านหนองบัวลำภูร้องสื่อ หลังทนไม่ไหวกับถนนสายหลักสร้างแล้วพัง ซ่อมแล้วพังซ้ำ ซ้ำร้ายยังพบการสร้างด่านชั่งโดยไม่แจ้งล่วงหน้า อ้างเป็น “จุดพักรถ” ทั้งที่หน้าบ้านหญิงชรากลับถูกปิดทางเข้าออก ซัดแขวงทางหลวงฯ บริหารงานไร้ประสิทธิภาพ ขาดความโปร่งใสในการดำเนินโครงการ พร้อมพุ่งเป้าไปที่นายสมเด็จ ปุระเทพ ผู้อำนวยการแขวงฯ ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการ
วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่า ถนนทางหลวงหมายเลข 210 (ช่วงหนองบัวลำภู–เลย) ฝั่งขาออก กลายเป็น “แหล่งรวมปัญหา” ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณช่วงตำบลนาคำไฮถึงตำบลวังสำราญ ระหว่าง กม.70+148 ถึง กม.71+132 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการร้องเรียนมากที่สุด โดยปัญหาหลัก ๆ ที่ชาวบ้านสะท้อนออกมามีดังนี้:
1.การสร้างด่านชั่งน้ำหนักบริเวณหน้าบ้านหญิงชรา ชาวบ้านระบุว่าไม่มีการติดป้ายแจ้งโครงการอย่างชัดเจน แต่กลับอ้างกับประชาชนว่าเป็น “จุดพักรถ” ทั้งที่เอกสารและสัญญาก่อสร้างระบุว่าเป็น “ด่านชั่งน้ำหนัก” ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะถูกปิดทางเข้าออก และยังมีการรวมตัวประท้วงจากชาวบ้านมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ
2. ปัญหาความเดือดร้อนจากการก่อสร้างถนน การดำเนินโครงการทางหลวงหมายเลข 210ตอน นาคำไฮ-วังสำราญ ระหว่าง กม.70+148 - กม.71+132 ซึ่งมีการปรับปรุงถนนในช่วงดังกล่าว ไม่เพียงแต่ล่าช้า แต่ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้เส้นทางและชาวบ้านริมทาง เนื่องจากไม่มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ ทำให้ฝุ่นละออง เสียงดัง และอันตรายจากการสัญจรกลายเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องเผชิญทุกวัน
3.การก่อสร้างสะพานที่ล่าช้าและไม่โปร่งใส โครงการก่อสร้างสะพานในพื้นที่เดียวกันก็ประสบปัญหาล่าช้าเช่นกัน โดยไม่มีการติดป้ายแจ้งรายละเอียดโครงการตามระเบียบ ทำให้ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตถึงความโปร่งใสของหน่วยงานที่รับผิดชอบ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาชี้แจง และแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ชาวบ้านยังฝากตั้งคำถามถึงโครงการก่อสร้างบริเวณทางหลวงหมายเลข 210 ตอน นาคำไฮ – วังสำราญ ซึ่งผู้อำนวยการแขวงฯ ได้ให้คำมั่นว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 3 กันยายน 2568 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจน
ชาวบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมทางหลวง ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน พร้อมเปิดเผยรายละเอียดโครงการและการใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ที่ต้องทนทุกข์กับถนนที่ไม่ปลอดภัย และโครงการที่ไม่มีคำตอบ