“กองปราบ” เดินหน้าคุ้ยปม “หมอบี” เข้าข่ายฉ้อโกง พบที่ดินวัด 2,326 ไร่เสี่ยงทุจริต หลังสอบพยานกว่า 20 ปาก “สุชาติ”สั่ง “พศ.” ตั้งคณะ กก.สอบ ปมวัดพระบาทน้ำพุ ลั่นถ้าผิดจริงจัดการตามระเบียบ ติงสำนักพุทธฯจว.หย่อนยาน รู้หลังเกิดเหตุ
จากกรณีที่ นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ออกมาให้สัมภาษณ์ ภายหลังพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นานกว่า 6 ชั่วโมง เปิดเผยว่าตัวเองไม่มีเจตนาฉ้อโกงเงินบริจาค และไม่รู้เห็นเกี่ยวกับเงิน 5.4 ล้านบาทที่หายไป โดยยืนยันนำเงินบริจาคส่งมอบให้กับ“หลวงพ่ออลงกต”เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุทุกบาททุกสตางค์
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงกรณีนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบีว่า การรวบรวมพยานหลักฐานในขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก หลักฐานบางส่วนพบว่า นายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิด ฐานฉ้อโกง แต่ยังต้องพิสูจน์ทราบข้อเทจจริงก่อนว่าเงินที่หายไปเอาไปใช้ในส่วนไหน ซึ่งนายเสกสันน์ อ้างว่าเอาไปใช้ในโครงการต่างๆของวัด ทั้งโครงการทุนนักเรียนนอก และโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ ส่วนรถยนต์หรู คำให้การนายเสกสันน์ ยอมรับว่าเป็นทรัพย์สินของทางวัดจริง เตรียมส่งมอบคืนให้กับวัด แต่ยังคงต้องตรวจสอบที่มาของทรัพย์สิน เนื่องจากชื่อผู้ครอบครองรถยนต์ดังกล่าวเป็นชื่อของเครือญาติ นายเสกสันน์
ส่วนความคืบหน้าการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องนั้น สอบปากคำไปแล้วกว่า 20 คน ซึ่งเป็นพยานทั้งฝั่งนายเสกสันน์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ส่วนหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้ให้การเบื้องต้น พร้อมขอดูหลักฐานต่างๆ โดยพบว่ามีบางธุรกรรมที่หลวงพ่อ เป็นผู้ลงรายมือชื่อด้วยตัวเอง แต่บางส่วนยังขาดหายไป จำเป็นต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ กรณีที่พบว่า ที่ดินของวัด จำนวน 2,326 ไร่ มีชื่อบุคคลและนิติบุคคลของวัด เข้ามาถือครองนั้น ทางพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จะประสานให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ตรวจสอบเรื่องนี้แทน เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในภาครัฐ ซึ่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่าทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว แต่ยังต้องหารือร่วมกับพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม แลกเปลี่ยนข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้าน สุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นภายในวัดพระบาทน้ำพุว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบสำนักพุทธศาสนาประจำจังหวัดที่ตั้งของวัดพระบาทน้ำพุแล้ว โดยยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น และก่อนหน้านี้ตนได้เคยมอบนโยบายให้ พศ. ทำงานเชิงรุก ไม่ใช่ตั้งรับเพียงอย่างเดียว
นายสุชาติ กล่าวว่า ตนได้กำชับให้สำนักงานพระพุทธศาสนา เข้าไปติดตามการทำงานของสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัด ว่าปฎิบัติหน้าที่หย่อนยานหรือไม่ เพราะสังเกตว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเราจะรู้ปัญหาหลังจากที่เกิดเหตุตลอด ทั้งกรณีที่เกิดขึ้นภายในวัดพระบาทน้ำพุ และกรณีอื่นๆด้วย
“อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่เกืดขึ้นในวัดพระบาทน้ำพุ เราจะดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้กระจ่าง โดยเร็วที่สุด และหากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิด จะดำเนินการตามระเบียบ และกรอบอำนาจที่ที่ทำได้ ผมในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแล พศ.จะเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการพระสงฆ์ให้เกิดความกระจ่าง เพื่อเรียกความศรัทธาคืนให้กับประชาชน” นายสุชาติ กล่าว