หมอสุภัทร เผยปมขัดแย้ง ปลัด สธ. ถูกสอบวินัย-บีบออกจากราชการ
ข่าวสด August 17, 2025 08:42 AM

หมอสุภัทร เผยปมขัดแย้งปลัด สธ. ถูกสอบวินัย จัดซื้อ ATK บีบออกจากราชการ ทั้งที่ทำหลายโรงพยาบาล ชี้ระบบทำให้ข้าราชการ สงบปากสงบคำ

กรณี นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) สะบ้าย้อย จ.สงขลา ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า กำลังถูกให้ออกจากราชการสังกัด สธ.

เนื่องจากถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยกรณีจัดซื้อชุดตรวจไวรัสโควิด-19 แบบ ATK ที่นำมาตรวจคัดกรองให้กับประชาชนกรุงเทพมหานคร เข้าข่ายดำเนินการไม่ถูกต้อง โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม และถูกกลั่นแกล้ง ทั้งที่กลุ่มแพทย์ชนบทอาสาเข้ามาช่วยเหลือในช่วงระบาด รวมไปถึงระบุถึงผู้บริหารระดับสูงของ สธ. อาจมีความต้องการให้ออกจากราชการนั้น

วันที่ 16 ส.ค.2568 นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการ รพ.สะบ้าย้อย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างชมรมแพทย์ชนบทกับปลัด สธ. คนปัจจุบัน (นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์) มีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ก่อนที่ นพ.โอภาส จะดำรงตำแหน่งปลัด สธ. โดยก่อนหน้านั้น ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมโรค ชมรมแพทย์ชนบท รวมถึงตน ได้วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานของกรมควบคุมโรคที่ล่าช้าและการบริหารวัคซีนที่ไม่เพียงพอ

ประกอบกับ ตนได้เข้าไปปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุงเทพฯ ตั้งแต่ในช่วงโควิด-19 เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา จนกระทั่ง นพ.โอภาสดำรงตำแหน่งปลัด สธ.โดยตนและชมรมแพทย์ชนบทยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่อง เมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ใช่ หรือไม่ถูกต้อง ก็ต้องให้ความเห็นไป

“ต่อมา จึงมีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยเกิดขึ้นหลายครั้ง สุดท้ายมีคำสั่งย้ายตนจาก รพ.จะนะ จ.สงขลา ไป รพ.สะบ้าย้อย เพื่อหวังให้ตนสงบลงและเลิกวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานต่างๆ รวมถึงการให้ความเห็นเรื่องอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคใต้ แต่ผมยังคงทำหน้าที่ต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจจนมีความต้องการให้ออกจากราชการ” นพ.สุภัทร กล่าว

หมอสุภัทร กล่าวยืนยันว่า เรื่องที่ชัดเจนที่สุด คือ การจัดซื้อชุดตรวจ ATK เพื่อสนับสนุนแพทย์ชนบทบุกกรุงเทพฯ 3 ครั้งนั้น มีการสอบสอบสวนทางวินัยตนว่า การนำรถพยาบาลและบุคลากรใน รพ.จะนะ ไปปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุงเทพฯนั้น ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ หรือการเบิกจ่ายทางราชการ

เช่น ค่าน้ำมันรถ ถูกต้องหรือไม่ โดยเป็นการสอบสวน รพ.จะนะ เพียงแห่งเดียวจากกว่า 60 โรงพยาบาล ที่เข้าร่วมปฏิบัติการ ซึ่งผลการสอบพบว่า รพ.จะนะดำเนินการถูกต้องตามระเบียบทุกประการ

“ขณะนั้น การจัดซื้อชุดตรวจ ATK อยู่ในยุคที่หายากและราคาแพง โดยสามารถจัดซื้อในราคาชิ้นละราว 260 บาท จากราคาตลาดประมาณ 350 บาท ซึ่งแกนนำหลายโรงพยาบาลแบ่งหน้าที่ช่วยกันจัดซื้อ ATK ในลักษณะเดียวกับ รพ.จะนะ นำมาเป็นกองกลาง โดยตรวจไปทั้งหมด 192,905 คน พบผู้ติดเชื้อและได้จ่ายยาไปมากถึง 22,451 คน เพียงแต่มีการสอบสวนทางวินัยต่อ รพ.จะนะ เพียงแห่งเดียว จึงคิดว่าเหตุการณ์นี้ชัดเจนมากว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ” นพ.สุภัทร กล่าว

นอกจากนี้ นพ.สุภัทร กล่าวว่า ยืนยันว่า รพ.จะนะ ปฏิบัติตามระเบียบอย่างถูกต้อง ไม่ได้เอื้อประโยชน์เอกชน และไม่ได้ทำให้รัฐเสียหายหรือทุจริต โดยตนได้ชี้แจงต่อกรรมการสอบสวนทางวินัยเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567

ส่วนขั้นตอนต่อไปนั้น หลังกรรมการสอบสวนทางวินัยมีมติลงโทษให้ออกจากราชการ กรรมการฯ จะต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งต่อไปยังคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงสาธารณสุข (อ.ก.พ.สธ.) ซึ่งมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ.เป็นประธาน เพื่อพิจารณาว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากเห็นด้วยก็จะต้องออกราชการ หากไม่เห็นด้วย อาจจะมีการกลับมาสอบสวนเพิ่มเติมตามกระบวนการ แต่ตนมองว่า น่าจะยังมีความเป็นธรรมในระบบราชการอยู่บ้าง

“ที่ผ่านมา มีปัญหาบ้านเมืองมากมาย ทำไมข้าราชการไม่ออกมาพูด ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น เรื่องทุจริต ทำไมข้าราชการจะไม่รู้ นโยบายที่ผิดเพี้ยน เรารู้ไหม เรารู้ หรือโครงการแปลกๆ เราก็รู้ แต่ทำไมออกมาพูดไม่ได้ เพราะหากออกมาพูดแล้วจะเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้น ข้าราชการส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะอยู่แบบสงบปาก สงบคำ ดูแลตัวเองและครอบครัวให้ดีที่สุด ซึ่งก็ทำได้แค่นั้นจริงๆ ในระบบราชการ

น่าจะถึงเวลาต้องปฏิรูปใหญ่ หากระบบราชการยังเป็นเช่นนี้ ไม่สามารถแสดงความเห็นได้เลย ย่อมจะทำให้ไม่มีวันที่จะปราบคอร์รัปชันได้ และไม่มีวันที่ประเทศเจริญไปข้างหน้าได้ เพราะระบบราชการควบคุมกลไกลทุกอย่างในประเทศนี้จริงๆ” นพ.สุภัทร กล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.