รมต.ศก.ป้ายแดง “เอกนิติ-อรรถพล-ศุภจี-วรภัค-นิธิยา” ลุยแก้ปัญหาปากท้องปชช.-สร้างความเชื่อมั่นนลท.
GH News September 09, 2025 09:16 PM

ทีมอเวนเจอร์รมต.เศรษฐกิจป้ายแดง “เอกนิติ-อรรถพล-ศุภจี-วรภัค-นิธิยา” ลุยแก้ปัญหาปากท้องประชาชน-สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน

โฉมหน้ารัฐมนตรีชุดใหม่ของรัฐบาล “อนุทิน1” ที่กำลังเป็นที่จับตามองว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้หรือไม่ กับระยะเวลาที่ได้ประกาศไว้ว่าจะอยู่บริหารประเทศ 4 เดือน หลังจากนั้นจะคืนอำนาจให้กับประชาชน เลือกคนที่ต้องการมาบริหารประเทศใหม่

ทั้งนี้รัฐมนตรีป้ายแดงที่ประชาชนให้ความหวังในเรื่องปากท้อง นำโดย “นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” อธิบดีกรมธนารักษ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ข้าราชการการเงินการคลังมืออาชีพ เชี่ยวชาญด้านนโยบายภาษี , “นายวรภัค ธันยาวงษ์” ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด  (มหาชน)  มีประสบการณ์ด้านการเงิน-ธนาคาร และตลาดทุน และการเจรจาภาษีกับสหรัฐ

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” อธิบดีกรมธนารักษ์ ว่าที่รองนายกฯ และรมว.คลัง

วรภัค ธันยาวงษ์” ว่าที่รมช.คลัง

“นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. (PTT) ว่าจะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่รมว.พลังงาน

“นางศุภจี สุธรรมพันธุ์” ซีอีโอ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคุณ โดยคุณนิธิยา เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนลฟู๊ด จำกัด

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รมว.พาณิชย์

นิธิยา บุญญามณี ว่าที่รมช.พาณิชย์

และเป็นที่น่าจับตามมองว่าของตำแหน่งของ “นายเอกนิติ” ที่กำลังขึ้นหม้อได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรีอนุทิน มอบเก้าอี้รองนายกฯควบรมว.คลัง เพราะการเป็นรมว.คลัง จะต้องไปพูดคุยในเวทีโลก การสวมบทบาทรองนายกฯ เพิ่มโอกาสมากกว่าเป็นรัฐมนตรีปกติ แล้วการจะได้รับความน่าเชื่อถือจากนานาชาติจะเพิ่มมาอีกระดับหนึ่ง

ทั้งนี้นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลอนุทิน ได้ประกาศมุ่งเดินหน้าโรดแมปเศรษฐกิจ 3 แกนหลัก ได้แก่

1. ลดรายจ่าย ค่าครองชีพ พลังงาน เดินทาง และค่าขนส่ง

2. แก้หนี้สิน เกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย เพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อ

3. เพิ่มรายได้ฐานราก ผ่านการพัฒนาชุมชน การท่องเที่ยว และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลใหม่จะดำเนินการโครงการคนละครึ่ง ว่า ยอมรับว่ากระแสดี เพราะเราฟังประชาชน ไม่สนใจว่าจะถูกมองว่าก็อบปี้นโยบายพรรคไหน เพราะทำเพื่อประชาชน ประชาชนได้ประโยชน์เราจะไปก็อปปี้ใครเราก็จะทำ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เกิดในรัฐบาลทักษิณ ก็ต้องเดินต่อไป รวมถึงโครงการคนละครึ่ง ที่มาจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และตนเป็นรัฐมนตรีสมัยท่าน ตนก็ยกมือสนับสนุน

เมื่อถามว่า กระแสข่าวคนละครึ่งจะเป็น 50 :50 หรือจะเป็นแบบพลัส นายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อคืนวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา จากที่ได้คุยกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หากไม่กระทบวินัยการเงิน หรืองบประมาณ และช่วยเหลือประชาชนได้ จะออกไปรูปในรูป 60 : 40 เพื่อจูงใจกลุ่มคนที่เสียภาษี ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เสียภาษีอยู่แล้ว แต่หากเป็นประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เสียภาษี ก็ 50: 50 ถือเป็นไอเดียที่นายเอกนิติ เสนอ ซึ่งตนก็เห็นด้วย และสั่งให้ไปพิจารณาเพิ่มเติม แต่ต้องไม่ผิดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย งบประมาณ และไม่เสียวินัยการเงินการคลัง พร้อมยอมรับว่าโครงการจะทันในกรอบ 4 เดือน และนายเอกนิติ ก็แจ้งมาว่างบประมาณมีดำเนินการ พร้อมเปรียบว่า กระเป๋าก็ยังมีเหมือนเดิม

ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ของรัฐบาลเพื่อไทย จะสานต่อหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์ แต่ต้องมาดูว่าบางโปรเจกต์ทำแล้วขาดทุน หรือต้องไปซื้อมาก็ไม่ได้ พร้อมย้ำว่าต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง และโครงการต้องอยู่รอดและพึ่งพาตัวเองได้

หลังจากนี้ต้องดูกันต่อไปว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจะสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน!?!

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.