วันที่ 9 ก.ย.68 ร.ต.อ.พิทักษ์ ดีแซง พนักงานสอบสวน สภ.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย.68 เวลา 19.45 น.ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 เพชรบูรณ์ว่า มีคนพยายามจะกระโดดสะพานห้วยตองฆ่าตัวตาย นำโดย พ.ต.อ.ภาสันต์ สังข์ทอง ผกก.สภ.บ้านกลางและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณสะพานห้วยตองหรือสะพานพ่อขุนผาเมือง ซึ่งเป็นสะพานที่มีตอม่อสูงที่สุดในประเทศไทย หมู่ 10 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทางหลวงหมาย 12 (หล่มสัก-ชุมแพ) ที่บริเวณราวสะพานฝั่งซ้ายมุ่งหน้าไปอำเภอชุมแพ
ที่เกิดเหตุพบนายพีระพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี อยู่หมู่ 5 ตำบลดงแดง อำเภอจตุรพักพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด นั่งอยู่บนราวสะพานห้อยขาลงไปด้านล่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านได้ช่วยกันเกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างมงคลธรรมศรัทธาได้วางแผนให้รถบัสโดยสารขับผ่านอย่างช้าๆ เพื่อให้บังเจ้าหน้าที่เดินเข้าประชิดและได้จังหวะก็จะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าชาร์จทันทีแต่ผิดคาดหลังรถบัสเคลื่อนตัวพยายามเข้าใกล้เพียงไม่นานนายพีระพัฒน์ก็ตัดสินใจลาโลกกระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตายทันที สร้างความตกตะลึงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กู้ภัยและชาวบ้านที่คอยเป็นกำลังใจอย่างสุดช็อก จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ไต่เชือกลงไปตรวจสอบด้านล่างพบว่านายพีระพัฒน์ได้เสียชีวิตในสภาพกระดูกหักทั่วร่างมีเลือดออกตามศรีษะและร่างกาย จึงช่วยกันนำศพขึ้นมาอย่างทุกลักทุเลท่ามกลางสายฝนและขวากหนามแหลมคมและรกประกอบกับเป็นเหวลึกใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงเศษจึงสามารถนำศพขึ้นมาได้
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายได้ขับรถปิคอัพตอนเดียวตู้ทึบยี่ห้อ อีซูซุสีบรอนเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่กระจกหน้ารถติดแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี ระบุทะเบียนร้อยเอ็ด มาจอดที่ลานจอดรถหัวสะพานก่อนเดินไปนั่งราวสะพานเพื่อครุ่นคิดคล้ายจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย พลเมืองดีผ่านมาพบจึงพยายามเกลี้ยกล่อมและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบแต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้ผู้ตายเลิกล้มความคิดก่อนตัดสินใจกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย
ตรวจสอบภายในรถยนต์พบจดหมายสั่งเสีย 5 ฉบับ ฉบับแรกผู้ตายได้เขียนถึงแม่และยายระบุข้อความว่า “ฝากถึงแม่และยาย ได้โปรดอย่าโทษกันเลย ไม่มีใครผิดทั้งนั้นถ้ามีคนผิดก็คงเป็นเด็กคนนี้ที่ผิด ผิดที่อ่อนแอ ผิดที่ใจกระจอก ขอให้แม่อย่าโทษตัวเอง แม่ไม่ได้ผิดอะไรเลย แม่เลี้ยงเด็กคนนี้มาอย่างดี ไม่เคยให้อดอยากสักครั้งเลย รักแม่เสมอนะครับ ขอให้แม่ยกโทษให้ลูกคนนี้ด้วยนะครับ จากลูกชายรักแม่เสมอนะครับ โจ้-พีระพัฒน์-8-9-68 ฝากบอกยายด้วยรักยายมากๆและก็รักตามากๆเหมือนกัน ขอโทษที่ยังไม่ได้ตอบแทนอะไรทั้งสองคนเลยมีอีกหลายอย่างเลยที่ยังไม่ได้บอก
ฉบับที่ 2 ได้เขียนถึงพี่ชายระบุข้อความว่า “ฝากถึงพี่ชายทั้งสองคน อยากให้พี่ทั้งสองรักกัน อย่าทะเลาะกันบ่อยให้รักกันให้มากๆ สิ่งไหนที่ไม่ดีอยากให้เลิกทั้งหมด อย่าเสียใจ นี้ไม่ใช่ความผิดทั้งสองคน ถ้าจะมีคนผิดเรื่องนี้ก็คงเป็นน้องคนนี้ที่อ่อนแอเกินไป ต่อจากนี้จะเหลือกันแค่สองคนแล้ว ก็รักกันให้มากๆ น้องคนนี้รักพี่เสมอและรักมากๆ จากน้องชาย โจ้ - พีระพัฒน์ 8-9-68 และฉบับที่ 3 ได้เขียนถึงเพื่อน ระบุข้อความว่า “ฝากถึงเพื่อน-ต่อ-โอ๊ต ตลอดมาขอบคุณทั้งสองคนมาก ขอบคุณมาก มีความสุขมาก ทั้งเล่น ทั้งเต้น หัวเราะด้วยกัน ทั้งร้องไห้ด้วยกัน ขอโทษที่จากทุกคนไปก่อน รักทั้งสองคนมากๆ มีอีกหลายอย่างเลย ที่ยังไม่ได้บอก กระดาษแผ่นเดียวไม่พอ จะบอกขอบคุณทั้งสองคนมาก รักเสมอ โจ้ - พีระพัฒน์ 8-9-68
ส่วนฉบับที่ 4 เขียนถึงเพื่อนร่วมงานระบุข้อความว่า “น้าตลาดส่งของไว้ เชียงแสนน้าตลาดส่งของไว้อยู่ใน(ลาย) อย่าลืมเข้าไปอ่านด้วย ถ้าลูกค้าถามบอกลูกค้าไปว่าน้องกลับไปพัก อีกทั้งฉบับที่ 5 ซึ่งเป็นฉบับสุดท้ายระบุข้อความว่า “เบอร์แม่ 096.....979 ผมขอโทษที่ทำให้พี่ๆและเจ้าหน้าที่ทุกคนเดือดร้อนผมขอโทษครับ พีระพัฒน์-โจ้ 8-9-68 ขณะที่ก่อนหน้านี้นายพีระพัฒน์เคยก่อเหตุรมไฟพยายามจะฆ่าตัวตายในรถยนต์คันนี้มาแล้วเมื่อหลายเดือนก่อนที่บริเวณลานจอดรถสะพานห้วยตองแห่งนี้แต่ในครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสากู้ภัยสามารถช่วยไว้ได้ทันแต่ก็กลับมาก่อเหตุซ้ำในครั้งนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำศพไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลหล่มสักเพื่อรอญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาโดยมารดาของผู้ตายแจ้งว่าจะมารับศพในวันที่ 9 ก.ย.68
สำหรับสะพานห้วยตองแห่งนี้เป็นสะพานตอม่อที่สูงที่สุดในประเทศไทยมีภูมิทัศน์ที่สวยงามของต้นไม้เขียวขจีและเป็นประตูสู่ภาคอีสานบนถนนสายขอนแก่น-เชียงใหม่แต่มีประวัติศาสตร์อันน่าสยองขวัญมาตลอดหลายสิบปีที่สร้างสะพานมา ในสมัยก่อนมีคนนำศพมาโยนทิ้งปีละหลายศพจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาสร้างป้อมตำรวจในบริเวณหัวสะพาน นอกจากนี้ยังมีการฆ่าตัวตายรวมถึงมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้งโดยครั้งล่าสุดเมื่อหลายปีก่อนมีรถบัสแหกโค้งตกลงไปด้านล่างทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบศพในครั้งเดียว อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีความสยดสยองขวัญของการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมาก สะพานแห่งนี้ก็ยังเป็นที่เช็คอินถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวเสมอเพราะความสวยงามของสะพานและธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์