ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งมลภาวะ สารเคมี และการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต ทำให้การดูแลสุขภาพกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ เพราะสุขภาพที่ดีไม่ได้ส่งผลดีแค่ร่างกายแต่ยังส่งผลต่อจิตใจและคุณภาพชีวิตโดยรวม โดยนางสาวบุปผา เรืองสุด เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า เพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถป้องกันและรักษาได้อย่างทันท่วงที
สำนักงานประกันสังคม จึงมอบสิทธิประโยชน์พิเศษ "การตรวจสุขภาพประจำปีฟรี 14 รายการ" สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 (ม.33) และมาตรา 39 (ม.39) เพื่อให้ทราบถึงภาวะสุขภาพของตนเองและเป็นการค้นหาความเสี่ยงหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มเพราะเพียงแค่การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงท่ามกลางมลภาวะรอบตัวอาจจะยังไม่ปลอดภัยจากโรคร้ายที่อาจก่อตัวเงียบๆอยู่ในร่างกาย โดยที่ยังไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา ซึ่งโดยทั่วไปจะทำการตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง แต่หากมีปัจจัยเสี่ยงหรืออายุมากขึ้นก็อาจจะต้องได้รับการตรวจถี่ขึ้นตามคำแนะนำของแพทย์
1. การคัดกรองการได้ยิน Finger Rub Test
2. การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข และสอนการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
3. การตรวจสายตาโดยความดูแลของจักษุแพทย์ เพื่อคัดกรองความผิดปกติและค้นหาโรคทางสายตา พร้อมทั้งการตรวจ Snellen eye Chart และวัดความดันของเหลวภายในลูกตา
4. ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC
5. ปัสสาวะ UA
6. น้ำตาลในเลือด FBS (Fasting Blood Sugar)
7. การทำงานของไต Cr และ eGFR
8. ไขมันในเส้นเลือดชนิด Total & HDL Cholesterol
9. เชื้อไวรัสตับอักเสบ HBsAG
10. มะเร็งปากมดลูก Pap Smear
11. มะเร็งปากมดลูกวิธี Via
12. มะเร็งปากมดลูก HPV DNA Test
13. ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
14. การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (Chest X-ray)
ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพ 14 รายการ ในสถานพยาบาลตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด (โรงพยาบาลที่เข้าร่วมการตรวจสุขภาพกับสำนักงานประกันสังคม) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือโทรสอบถามที่สายด่วน 1506
- การโทรศัพท์สอบถามสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการเพื่อยืนยันสิทธิและนัดหมายวันเวลาเข้ารับบริการตรวจสุขภาพ
- เมื่อถึงวันนัดให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปติดต่อที่สถานพยาบาลแล้ว ให้แจ้งความจำนงค์ขอรับการตรวจสุขภาพตามสิทธิประกันสังคม
- ก่อนเข้ารับการตรวจควรพักผ่อนให้เพียงพอและต้องงดน้ำและอาหารตามที่สถานพยาบาลกำหนด (ประมาณ 8-10 ชั่วโมง)
- ผู้ประกันตนควรแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัวและอาการแพ้ยาแก่เจ้าหน้าที่หรือแพทย์ด้วย
ทั้งนี้ หากพบความผิดปกติจะได้รับการแนะนำให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิ ผู้ประกันตนสามารถมาใช้สิทธิในการตรวจสุขภาพสำหรับผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับการตรวจสุขภาพในปี 2568 สามารถใช้สิทธิได้ภายในเดือนกันยายน 2568
หากไม่สามารถรับบริการได้ภายในเดือนกันยายน สามารถใช้บริการได้ในปีงบประมาณถัดไป (ตุลาคม 2568) โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการตรวจสุขภาพได้ที่ www.sso.go.th หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่งทั่วประเทศ และที่โทร. 1506 (ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชม.)