เซ็นทรัล พาร์ค ที่สุดของกรุงเทพ จุดขาย ‘สวนลอยฟ้า’ เทควิวพาโนรามิก 180 องศา
เปิดบริการวันแรก คนแห่เช็คอินทะลัก ศูนย์การค้าเปิดใหม่”เซ็นทรัล พาร์ค“ ศูนย์การค้าลำดับที่ 43 ของเซ็นทรัลพัฒนา และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพระดับโลก ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่าโครงการรวม 46,000 ล้านบาท บนทำเลหัวมุมถนนสีลมและพระราม 4 ตรงข้ามสวนลุมพินี
โครงการประกอบด้วย โรงแรมดุสิตธานี คอนโดมิเนียมหรู อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า โดยเมื่อเดือนกันยายน 2567 เปิดบริการโรงแรมค่าห้องเริ่มต้น 12,000 บาทบวกๆต่อคืน ส่วนคอนโดมิเนียมพร้อมส่งมอบในปีนี้มีเพนต์เฮาส์ที่ว่ากันว่าอาจจะเห็นราคาแตะ 1 ล้านบาทต่อตารางเมตร แพงสุดในกลุ่มลิสต์โฮลด์ ขณะที่อาคารสำนักงานเปิดบริการแล้ว และในเดือนพฤศจิกายนนี้ศูนย์การค้าจะเปิดเต็มรูปแบบ หลังเปิดเฟสแรกเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568
สำหรับไฮไลท์ Roof Park สวนลอยฟ้าบนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ใหญ่ที่สุดในไทย ที่เชื่อมต่อวิว”สวนลุมพินี” พร้อมดีไซน์เนินเขาลาดระดับจากชั้น 4 ถึงชั้น 6 วิวพาโนรามิก 180 องศา ได้ฤกษ์เปิดไปหมาดๆเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ถือว่าเป็น”แม่เหล็ก-จุดขายใหม่”ของโครงการ สะท้อนจากภาพคนแห่เช็กอินแชะภาพแตะขอบฟ้าอย่างคับคั่ง
โฟกัสศูนย์การค้าใหม่”เซ็นทรัล พาร์ค” ทางเซ็นพัฒนา ปักหมุดเป็น Culinary Landmark แห่งใหม่ของเอเชีย ที่สุดแห่งรสชาติระดับโลก อาทิ First-time in Thailand ร้านดังระดับตำนาน, ร้านดังคอนเซ็ปต์ใหม่ ,ร้านคิวยาว และ Michelin Guide เยอะที่สุดในกรุงเทพฯ รวมถึง 550 แบรนด์ดังระดับโลกและไทย รองรับ day-to-night lifestyle ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ตัวท็อป แบรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ แกดเจ็ตชั้นนำทยอยเปิดตัวต่อเนื่อง
“วัลยา จิราธิวัฒน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า ในฐานะผู้พัฒนาพื้นที่แห่งอนาคต เซ็นทรัลพัฒนาเห็นศักยภาพของทำเล Prestigious Address ใจกลาง Super Core CBD ของกรุงเทพฯ จึงได้ออกแบบศูนย์การค้า ‘เซ็นทรัล พาร์ค’ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ ทุกเจเนอเรชั่น ภายใต้แนวคิด ‘Here for All of You’ โดยเป็นส่วนหนึ่งของมิกซ์ยูส ‘ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค’
“ศูนย์การค้าแห่งนี้จะเป็นศูนย์กลางชีวิตรูปแบบใหม่ที่ผสานเมืองเข้ากับพื้นที่สีเขียวอย่างไม่เคยมีมาก่อน ด้วย Roof Park ขนาด 7 ไร่ ใจกลางเมืองใหญ่ที่สุดในไทย เชื่อมต่อกับสวนลุมฯ พร้อมวิวพาโนรามิก 180 องศา ยังคงรักษาคุณค่าและเอกลักษณ์ของพื้นที่ผืนประวัติศาสตร์ เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่แห่งไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ชีวิตคนเมือง ที่ผสาน Well Being และ Sustainability เชื่อมชีวิตเมืองกับธรรมชาติให้กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน และช่วยยกระดับกรุงเทพฯ สู่การเป็นมหานครระดับโลก” วัลยา กล่าว
“วัลยา”กล่าวว่า ด้านงานดีไซน์ ใช้โทนสี “3 กษัตริย์” – เงิน ทอง และคอปเปอร์ – สีเสริมมงคลและความมั่งมี พร้อมคง Legacy ของดุสิต ด้วย Façade ที่สะท้อน Heritage ผ่านทุกดีเทล ดีไซน์โค้งและคลื่น เพิ่มมิติด้วยจอ LED digital curved ขนาดใหญ่กว่า 518 ตร.ม. รองรับคอนเทนต์ 3D ด้วย Visual Impact ที่ดึงดูดสายตากว่า 1 ล้านคู่ต่อวัน กลายเป็นจุด Landmark ใหม่ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เดินทางสะดวกที่สุดด้วยการเชื่อมต่อ BTS – MRT – Skywalk รองรับ Commuter กว่า 70,000 คนต่อวัน หรือมากกว่า 25 ล้านคนต่อปี
พร้อมยกระดับเป็น Culinary Landmark แห่งเอเชีย รวมที่สุดแห่งรสชาติจากทั่วโลกไว้ในที่เดียวรวมลิสต์ร้านดัง ที่สุดแห่งรสชาติจากทั่วโลก
ที่สุดของไลฟ์สไตล์คนเมือง ผ่าน 8 ชั้น 8 เรื่องราว ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ได้แก่