ตร.ทางหลวง ไล่ล่ากระบะซุกแรงงานเถื่อน ก่อนคลาดสายตา สุดท้ายพบนำไปแอบเอาไว้หลังเมรุเผาศพวัดชื่อดัง คนขับหลบหนีไปได้
วันที่ 12 ก.ย.2568 พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. นำรถยนต์ตรวจการออกตรวจตราไปตามเส้นทางรับผิดชอบบนถนนทางหลวงสาย 323 (กาญจนบุรี–ไทรโยค)
เมื่อไปถึงหลักกิโลเมตรที่ 83-84 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีบอรนซ์เท า หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร ลักษณะบรรทุกของหนักขับสวนทางมาแต่ใช้ความเร็วสูง เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัย เชื่อว่าภายในรถน่าจะมีสิ่งผิดกฎหมาย จึงขับติดตามไป เนื่องจากรถยนต์คันต้องสงสัยใช้ความเร็วสูงทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามไปไม่ทัน
แต่เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่มีเส้นทางหลบหนี อีกทั้งพบว่ารถได้หายไปที่บริเวณหน้าวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ร.ต.อ.อำนาจ สีนวล รอง สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.จึงตัดสินใจขับรถเข้าไปตรวจสอบบริเวณภายในวัด ผลปรากฏว่าพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดแอบเอาไว้ที่บริเวณด้านหลังเมรุเผาศพ ของวัด ส่วนคนขับได้วิ่งหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง
จากการตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าว ชาวเมียนมาทั้งชายหญิงและเด็ก นั่งแออัดกันอยู่ภายในห้องโดยสาร ทั้งหมดจำนวน 11 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 6 ราย 2 ใน 11 ราย อายุ 3 ขวบกับ 13 ปี
สอบสวนพบว่าแรงงานจำนวนดังกล่าวไม่มีเอกสารการอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย อีกทั้งสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ลาดหญ้า ทราบว่าแรงงานจำนวนดังกล่าวเป็นชาวทวาย ประเทศเมียนมา หลบหนีเข้ามาด้วยการใช้ช่อทางธรรมชาติช่องทางบ้องตี้ ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค
เมื่อข้ามเข้ามาได้คนขับที่หลบหนีไปได้นำรถยนต์มารับ เพื่อมุ่งหน้าไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นในของไทย ส่วนค่าเดินทางจะจ่ายให้กับนายหน้าก็ต่อเมื่อไปถึงที่ทำงานคนละ 8,500 บาท โดยญาติที่ทำงานในไทยอยู่แล้วจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
เบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนรถยนต์กระบะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทะเบียน และทราบแล้วว่าผู้ครอบครองนั้นเป็นใคร ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาสอบปากคำในภายหลังว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่