“BioActive+” เขย่าตลาดอาหารเสริม 90,000 ล้าน ประกาศขยายช่องทางจัดจำหน่าย ปลายปี 2568 ปักหมุดเชนบิวตี้สโตร์-ร้ายยา-สะดวกซื้อ หวังดันสัดส่วนรายได้ออฟไลน์เป็น 20% ก่อนสยายปีกสู่ CLMV-สหรัฐ-เกาหลี-ญี่ปุ่น-จีน” ตั้งเป้าสิ้นปี 2568 โกยรายได้ 1,500 ล้านบาท
ดร.วาสนา อินทะแสง ผู้ก่อตั้งบริษัท ไบโอแอคทีฟ เอ็นแซต 1984 จำกัด เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอาหารเสริมของไทยปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 90,000 ล้านบาท และเติบโตในอัตราเฉลี่ย 7-10% ต่อปี เป็นผลมาจากผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ ความงาม และการดูแลตัวเองมากขึ้น ทำให้ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าในตลาดอาหารเสริมมีผู้เล่นรายใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อชิงเม็ดเงิน
กระแสนี้เป็นส่วนหนึ่งที่หนุนให้ “ไบโอแอคทีฟ พลัส” สามารถทำยอดขายทะลุ 921 ล้านบาท โดยมียอดคำสั่งซื้อสิ้นค้าทั้งหมด 1,541,707 กล่อง หรือจัดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 15 ล้านหลอด ในช่วง 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม-9 กันยายน 2568
ดร.วาสนากล่าวต่อว่า โดยจากความสำเร็จดังกล่าว ในช่วงที่เหลือของปี 2568 บริษัทจะต่อยอดโมเมนตัมเพื่อสร้างการเติบโต ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีก 3 รายการ จากปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อยู่ทั้งหมด 4 รายการ เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มอายุประมาณ 20-40 ปี
พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำกลยุทธ์แบบ 360 องศา ทั้งการจัดแคมเปญกับ EM District และการทำ Copromotion กับแบรนด์สกินแคร์ Kiehl’s เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง รวมถึง 2 แคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี
นอกจากนี้ ยังดึง “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” มานั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์สำหรับสูตร Gold เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของความหรูหรา และเชื่อมโยงกับความเป็น Global Brand โดยคาดว่าจะใช้งบฯการตลาดทั้งปีประมาณ 10-15% ของยอดขายทั้งหมด
ดร.วาสนากล่าวต่อว่า ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทจะบุกช่องทางออฟไลน์อย่างจริงจัง โดยในเดือนกันยายนนี้จะนำผลิตภัณฑ์เข้าไปวางจำหน่ายที่ร้านเชนบิวตี้สโตร์ และร้านขายยา ได้แก่ อีฟแอนด์บอย, วัตสัน, บิวเทรี่ยม, Tops Care, Tops Vita และ LAB Pharmacy ก่อนที่จะขยายไปที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven ในเดือนธันวาคม ในรูปแบบหลอดพร้อมดื่มราคาประมาณ 59 บาท
ในอนาคตก็มีแผนขยายช่องทางไปยังโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่จริงจังด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยอยู่ในช่วงการเจรจา
“การขยายช่องทางนี้คาดว่าจะหนุนให้สัดส่วนรายได้จากออฟไลน์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 20% จากปัจจุบันช่องทางการขายหลักจะเป็น TikTok Shop ประมาณ 60% และ Shopee Lazada อีก 40%”
ดร.วาสนากล่าวย้ำว่า บริษัทมีเป้าผลักดันให้ BioActive+ เป็นแบรนด์ระดับโลก โดยก่อนสิ้นปี’68 จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV รวมถึงสหรัฐอเมริกา จีน เกาหลี และญี่ปุ่น
หลังจากก่อนหน้านี้ขยายไปยังนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และมาเลเซียแล้ว โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับตัวแทนจำหน่าย ก่อนที่จะขยายสู่ตลาดยุโรปในช่วงไตรมาส 1 ของปี’69
ทั้งนี้ เชื่อว่าจากแผนดังกล่าวจะส่งผลให้สิ้นปี’68 บริษัทมีรายได้แตะ 1,500 ล้านบาท และมีมาร์เก็ตแชร์เป็น 3% ของตลาดอาหารเสริมในประเทศไทย