เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2568 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ชี้แจงกรณี  การพิจารณาคำร้องเพื่อยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรค ร่วมฯ ครอบงำพรรคการเมือง โดยระบุว่า  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เคยชี้แจงการพิจารณาคำร้องที่มีการยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลเดิม ตามคำร้องของนายคเณศ ชัยชุติ นายอนุยุทธ เสถียรสถิต นายอรรค เคณกิจวิกรม และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องพรรคเพื่อไทย และคำร้องของนายเกษม รวิชิตวุฒิกุล ร้องพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ กรณีหน่วยงานศาลปกครองมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับสมาคมการค้า กำหนดว่า “ครอบงำ” ซึ่งในสมัยวิชาการตัดสินใจของพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรค โดยผู้ร้องทั้ง 5 ราย กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย มิให้กระทำการเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจการของพรรคการเมือง เป็นไปลักษณะเข้าข่ายให้พรรคการเมืองกระทำการขัดต่อกฎหมายอันมีผลให้ กกต.ต้องส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 และพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรคดังกล่าว ก็มีมติไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การครอบงำ หรือชี้นำกิจการของพรรคการเมืองโดยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นความผิดตามมาตรา 28 หรือมาตราอื่นของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หากเป็นการกระทำที่เข้าข่ายครอบงำหรือชี้นำพรรคการเมือง อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 การพิจารณาไปแล้ว เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นั้น และกรณีนายสัญญา สวัสดิ์ โตมีหัวข้อสอบถามกระทำของนายบุญพุธ เรืองปัญญาฤกษ์ หัวหน้าพรรคประชาชน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีการครอบงำพรรคเพื่อไทย อันอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้น

นายทะเบียนพรรคการเมือง ได้พิจารณาสำนวนคำร้องและความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง คณะที่ 2 และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คณะที่ 9 ประกอบความเห็นของคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมืองแล้ว เห็นว่า คำร้องดังกล่าวข้างต้นขาดพยานหลักฐาน ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงอันควรรับฟังได้ว่าพรรคเพื่อไทยทั้ง 6 พรรคการเมืองดังกล่าว กระทำการเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายไม่เป็นไปตามมาตรา 28 และมาตรา 29 จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา อันส่งผลให้คำร้องขอให้พิจารณายุบพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรคการเมืองดังกล่าวตกไปตามข้อกำหนดมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ. 2566 โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องทั้ง 6 ราย ทราบแล้ว