ปกรณ์วุฒิ ป้อง อนุทิน ปมไล่เช็กบิลเขากระโดง-ฮั้วสว. ชี้เป็นไปไม่ได้ ภท. เป็นเสียงข้างมาก
ข่าวสด September 18, 2025 03:42 PM

ปกรณ์วุฒิ ป้อง อนุทิน ยังไม่เริ่มทำงาน ปมไล่เช็กบิลคดีเขากระโดง-ฮั้วสว. ย้อนถาม ครม. รักษาการทำอะไรไม่ได้หรือ ชี้ เป็นไปไม่ได้ “ภูมิใจไทย” พลิกเป็นเสียงข้างมาก

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 18 ก.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีราย รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่านค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่าพรรคประชาชนไม่ทันเกมการเมืองพรรคภูมิใจไทยว่า ตนน้อมรับทุกความเห็น ทั้งผู้สนับสนุนพรรค สมาชิกพรรคก็มีความเห็นต่าง แม้กระทั่งประชาชนทั่วไป ก็เป็นเรื่องปกติ

ตนน้อมรับความคิดเห็นของนายชูวิทย์ด้วยความเคารพ และได้ติดตามมานานตอนที่ลงเล่นการเมืองตนก็ได้เลือกพรรคนายชูวิทย์ด้วย ถ้าถามว่าทันเกมการเมืองหรือไม่ ตนคิดว่าพรรคของเรามาทำงานการเมือง ดังนั้น การตัดสินใจในแต่ละครั้งก็ต้องคิดดีๆ ว่าตัดสินใจบนพื้นฐานความนิยมของพรรคหรือผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ

โดยหัวหน้าพรรคก็พูดไปหลายครั้งว่า เรามองบนโอกาสสูงสุดที่จะทำให้เกิดการยุบสภาและคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วในเวลาที่เหมาะสม และเปิดประตูบานแรกสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราไม่ได้เอาฐานความนิยมของพรรคมาเป็นตัวตั้ง แต่เราเอาฐานสิ่งที่เราอยากเห็นภาพของประเทศในอนาคตเป็นตัวตั้ง แต่น้อมรับทุกคำวิจารณ์ จะบอกว่าเราไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองหรืออะไรก็ตามก็เป็นคำวิจารณ์ที่เราพร้อมน้อมรับอยู่แล้ว

เมื่อถามว่ามีคนไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยเยอะ เพราะการโหวตของพรรคประชาชนในวันนั้นเป็นการเพิ่มฐานให้พรรคภูมิใจไทยในวันนี้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่ามันเป็น “What If” ที่เราตอบไม่ได้ ตนคิดว่าสื่อมวลชนก็ทราบดีว่าบางพรรคมีสัญญาณของการแตกมานานแล้ว ต่อให้เกิดหรือไม่เกิดเหตุการณ์นี้เขาก็อาจจะไหลไปทางนั้นอยู่ดี มันเป็น What if ที่ตอบไม่ได้ คงจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ก็ไปดูที่การเลือกตั้งครั้งหน้า

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราก็ยืนยันในการหาเสียงและรณรงค์ในการเลือกตั้งแบบเดิม อยากให้ทุกพรรคใช้อุดมการณ์ เราไม่ได้มีปัญหากับเรื่องบ้านใหญ่ การใช้กระแสในท้องถิ่นในพื้นที่เล็กๆ ในความเป็นผู้มีอิทธิพล เราไม่เห็นด้วยกับการทำการเมืองแบบนั้นมากนัก และเราก็พยายามผลักดันการเมืองให้เป็นไปในทางที่เป็นอุดมการณ์เป็นหลัก

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรในเมื่อเสียงพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น นายปกรณ์วุฒิ ย้อนถามว่า ยังไม่ได้เลือกตั้งเลยเสียงเพิ่มขึ้นอย่างไร ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่าเสียงในสภา

นายปกรณ์วุฒิ จึงถามต่อว่า “เสียงในสภาเพิ่มขึ้นแล้วหรอครับ พูดถึงเสียงข้างมากใช่หรือไม่ ตนต้องบอกว่าพรรคประชาชนมี 142 เสียง พรรคเพื่อไทยมี 141 อาจจะไปแล้ว 9 คน เหลือ 132 พรรคประชาชาติ มีอยู่ 9 เสียง บวกกันดีๆ นะครับ 280 กว่านะครับ จะเป็นเสียงข้างมากได้อย่างไร ถ้าพรรคบางพรรคไม่แตก”

“ผมคิดว่าความพยายามเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากต้องดูตั้งแต่วันที่โหวตนายกฯ แน่นอนว่าเราไปห้ามสส.ไม่ให้ไปโหวตฝั่งไหนไม่ได้อยู่แล้ว บางพรรคที่มีมติอย่างหนึ่ง แต่สส.ก็โหวตอีกอย่างหนึ่ง เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นความผิดใคร แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ พรรคภูมิใจไทยจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้ ต้องมีพรรคใหญ่แตกแบบจริงจัง ฉะนั้น เรื่องเสียงข้างมากยังไม่มีความใกล้เคียง ผมว่ามันเป็นการตีตนไปก่อนไข้มากๆ” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่าถ้าเสียงเพิ่มขึ้นถือว่าผิดสัญญาหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในMOA ระบุว่าไม่กระทำการใดๆ เพื่อให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก การจับตาให้ทำตาม MOA เราจับตาอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว เรามองอยู่ตลอด

“ถ้ามันไม่มีพรรคไหนที่แตกเป็น 30-40 เสียง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก พรรคประชาชนอยู่ที่เดิม 140 กว่าเสียง อาจจะฝากไปตั้งคำถามกับอีกพรรคหนึ่งก็ได้ ว่าจะลดจาก 132 เสียง อีกหรือไม่” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่าเห็นโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วรู้สึกคุ้มค่าต่อการโหวตให้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า แน่นอนว่ามีหลายรายชื่อที่น่าชื่นชม แต่รายชื่อเหล่านี้มาไม่ได้เลย ถ้าไม่มีพรรคประชาชนประกาศว่าไม่รับเก้าอี้ใดๆ เพราะมันมีโควตาเหลือที่ไม่ต้องไปแบ่งให้พรรคร่วมรัฐบาลอื่น

แต่โควตาคนนอกก็ถือว่าเป็นหน้าตาที่ดี อาจแก้ปัญหาระยะสั้นที่เราได้เคยพูดคุยกันไว้แล้ว เพราะหากไปดูตำแหน่งของคนนอกจะอยู่ที่กระทรวงเศรษฐกิจและความมั่นคง ตนคิดว่าพอจะแก้ปัญหาระยะสั้นได้บ้าง ส่วนครม.ที่เป็นสัดส่วนพรรคการเมือง ตนคิดว่าก็ไม่แตกต่างจากรัฐบาลเพื่อไทยเท่าไหร่ ไม่ได้ผิดหวัง สมหวัง หรือแปลกใจอะไร

เมื่อถามกรณีมีการวิจารณ์ว่ามีรัฐมนตรีบุรีรัมย์ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า พูดตรงๆ ก็คือรมว.ยุติธรรม ซึ่งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ก็จับตาอย่างใกล้ชิด เราอาจได้เห็นการอภิปรายนโยบายที่ชี้ให้เห็นว่า มีการตั้งรัฐมนตรีบางคน เพื่อมาทำการอะไรบางอย่างใน 4 เดือนนี้หรือไม่ การตรวจสอบเริ่มขึ้นแล้ว

เมื่อถามกรณีมีกระแสข่าวว่าได้มีการดำเนินการล่วงหน้าเช็กบิลเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีเขากระโดง และฮั้วสว.แล้ว นายปกรณ์วุฒิ ย้อนถามว่าทำอย่างไร แล้วครม.รักษาการทำอะไรไม่ได้เลยหรือ ก่อนหน้านี้ครม.รักษาการคือรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยถูกหรือไม่

ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยก็เคยถามเรื่องฮั้วสว.และเขากระโดงกับพรรคประชาชน ต้องถามกลับว่าช่วงที่เป็นครม.รักษาการได้กระทำการใดๆ ที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ มากแค่ไหน

อย่างเมื่อวานนี้ที่มีการพาดหัวข่าวเรื่องเขากระโดง ผมก็คิดว่าบางสื่อพาดหัวเกินจริงไปนิดหนึ่ง จะเห็นว่ากำลังรอคำพิพากษาจากศาลปกครอง ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ จะให้รัฐบาลไปทำอะไรครับ ต้องรอคำพิพากษา คดีฮั้วสว.

แน่นอนว่าเราก็ติดตามและคาดหวังว่ากระทรวงยุติธรรม DSI จะทำงานอย่างเต็มที่ไม่มีข้อกังขา แต่คดีที่ใหญ่ขนาดนี้ 4 เดือนไม่ทันอยู่แล้ว แต่เราติดตามอย่างใกล้ชิดแน่นอน ว่ามีการแทรกแซงหรือไม่

เมื่อถามว่าขณะนี้เสี่ยงแล้วหรือยังที่จะมีการแทรกแซง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถตอบได้ เพราะเราไม่ได้เห็นพฤติกรรมใดๆ อาจเห็นข่าวว่าคนนี้ทำแบบนั้นคนนั้นทำแบบนี้ แต่อย่าลืมว่ารัฐบาลยังไม่เข้าถวายสัตย์ฯ และยังไม่มีอำนาจอะไร จะไปกล่าวหาครม.ที่ยังไม่ได้ถวายสัตย์ฯ ตนคิดว่าไม่สามารถทำได้ในฐานะผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่าเป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่ เพราะมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่หลายส่วนที่ทำคดีเหล่านี้ ถูกเรียกกลับหรือชะลอไม่ให้ดำเนินการ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ถ้าเป็นการชะลอเรื่องคดีที่อยู่ในศาลปกครอง ตนถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่แน่ใจในรายละเอียดจริงๆ ว่าการระงับครั้งนี้เกิดจากกระบวนการอะไร การกระทำที่ไม่รอคำพิพากษาต่างหากที่ถือว่าผิดปกติ ยืนยันว่าพรรคประชาชนตรวจสอบเรื่องนี้ คาดหวังว่าจะไม่มีการแทรกแซง

“ผมย้ำอีกครั้งครม.ยังไม่ได้ถวายสัตย์ ยังเป็นครม.เดิม คุณอนุทินยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์แถลงนโยบาย ยังไม่มีอำนาจที่จะไปสั่งการใดๆ ดังนั้น ตอนนี้ผมไม่สามารถไปกล่าวหาว่าเขาทำอะไรหรือไม่ทำอะไรได้บ้าง ต้องรอการแถลงนโยบาย” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำคดีฮั้วสว. ที่เจ้าหน้าที่ถูกเรียกตัวไม่ให้ดำเนินการต่อ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อมูลเลย แต่พรรคประชาชนมีทีมงานที่ดูเรื่องนี้อยู่ แต่ตนไม่ทราบข้อมูลจึงไม่สามารถตอบคำถามได้

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.