หอแว่น Better Vision ประกาศแผน 5 ปี รุกปรับโฉม ร้านขายแว่น สู่การเป็นเวลเนสสุขภาพตา ล่าสุดเปิดสาขาใหม่ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค
วันที่ 19 กันยายน 2568 นายปิยะพงษ์ ธัญญศรีสังข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิชั่น เวน เจอร์ส จำกัด ผู้บริหารหอแว่น Better Vision เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าเชิงรุกตามแผนการดำเนินธุรกิจในระยะ 5 ปีข้างหน้า ด้วยการปรับโฉมและยกระดับประสบการณ์หน้าร้านให้พรีเมียมมากขึ้น เพื่อสอดรับกับวิสัยทัศน์การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา (Vision Expert Solution) ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่ใช่เพียงร้านขายแว่น แต่เป็น Holistic Wellness ด้านสุขภาพตา
“มีแผนจะรีโนเวทสาขาเดิมให้มีบรรยากาศที่เชิญชวนและดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาในร้าน แม้ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าในทันที แต่สามารถเข้ามารับรู้ถึงความสำคัญการดูแลสายตาได้ และการเป็น Holistic Wellness ด้านสุขภาพตา ที่ครบถ้วนทั้งบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เครื่องมือเทคโนโลยีทันสมัย และผลิตภัณฑ์ที่ดี ในการให้บริการและประสบการณ์การดูแลสายตาให้กับลูกค้าในทุกมิติ”
ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกแว่นตาของหอแว่น Better Vision มีหน้าร้านทั่วประเทศ 108 สาขา และตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจสำคัญ ภายในศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำ มีการปรับรูปแบบร้านให้สอดรับกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค ล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ หอแว่น Better Vision สาขาดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งจะเป็นสาขาที่ช่วยขยายการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพสายตาคุณภาพสูงแบบครบวงจร ให้กับกลุ่มคนเมือง ผู้บริหารและครอบครัวในย่านธุรกิจ รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยในกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ดีสาขา ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะเป็นต้นแบบของประสบการณ์ใหม่ที่ลูกค้าจะจดจำ และเชื่อมั่นในระยะยาว เนื่องจากเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักได้ง่ายขึ้น และมีศักยภาพในการสร้างยอดขายที่สูงขึ้น ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานธุรกิจของแบรนด์ในอนาคต
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเปิดสาขาใหม่แบบจัดเต็ม “หอแว่น Better Vision” สาขา ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มอบโปรโมชั่นลด 30% จากราคาปกติ สำหรับกรอบแว่นและเลนส์ ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน – 31 ตุลาคม 2568 และยังร่วมแคมเปญ Central Park Opening Promotion ที่มอบ E-Voucher สุดคุ้มสำหรับการช็อปปิ้งในร้านค้าที่ร่วมรายการครั้งถัดไป ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน – 20 พฤศจิกายน 2568
สำหรับตลาดค้าปลีกแว่นตาประเทศไทยในปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่า 16,700 ล้านบาท ตามการคาดการณ์ของยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor) โดยมีการเติบโตจากมูลค่าประมาณ 15,600 ล้านบาทในปี 2567 โดยเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหลักมาจากการที่ผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพตาและปัญหาการมองเห็นที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการขยายตัวของช่องทางการขายในโมเดิร์นเทรด อย่าง ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มยอดขาย