ชีวิตหักเห หลังแม่เสีย กลายเป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่อายุ 14 ทำทุกอย่างให้ได้เงิน หาเลี้ยงตา-ยาย เพียงลำพัง ท้อแต่ถอยไม่ได้สักก้าว
จากกรณีผู้ใช้ TikTok @fluk596 โพสต์เรื่องราวการสู้ชีวิตของตัวเอง ตั้งแต่วัยเด็กต้องเผชิญความสูญเสียและแบกรับภาระครอบครัว ดูแลทั้งคุณตาที่ล้มป่วยและคุณยายวัยกว่า 80 ปี ป่วยอัมพฤกษ์ เพียงลำพัง ทำให้โลกโซเชียลต่างเข้ามาชื่นชม พร้อมส่งกำลังใจให้เป็นจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันที่ 19 ก.ย.68 นายสินธุ บุญกมุติ หรือ ฟลุ๊ค อายุ 17 ปี ได้เปิดใจกับ “ข่าวสดออนไลน์” เล่าถึงชีวิตสุดลำบาก โดยตนต้องดูแลทุกอย่างในบ้าน ทั้งคุณตาและคุณยาย เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ตนยังเล็ก และแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ตอนตนเรียนอยู่ชั้น ม.2
นายสินธุ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้แม่เป็นเสาหลักของบ้าน คอยทำหน้าที่ทุกอย่าง แต่หลังจากแม่เสียเพียงไม่กี่เดือน คุณตาก็ล้มป่วยสะโพกหัก ทำให้ตนต้องรับหน้าที่หาเงินเข้าบ้านและดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ช่วงที่คุณตาป่วย ตนต้องแบ่งเวลาไปเฝ้าและทำงาน ทำให้ไม่สามารถเรียนได้อย่างเต็มที่
“ผมเริ่มรับผิดชอบทุกอย่างตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี โดยทำงานรับจ้างสารพัด ทั้งเฝ้าไร่ เฉาะมัน ขุดมัน และหักข้าวโพด เพื่อให้ได้เงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน วันหนึ่งตั้งเป้าจะต้องหาให้ได้อย่างน้อย 200 บาท แม้บางครั้งจะไม่ถึง แต่ก็มุ่งมั่นพยายามทุกวัน” นายสินธุ กล่าว
จนกระทั่งปัจจุบันอายุ 17 ปี ตนยังคงทำงานมาโดยตลอด เปลี่ยนอาชีพไปตามโอกาสที่สร้างรายได้มากกว่า ทั้งขายของ ทำน้ำพริกกากหมู ทำหมี่ไก่ฉีก เปิดรับออเดอร์ผ่านเฟซบุ๊ก และจัดส่งเอง แม้เหนื่อยแต่ก็พออยู่ได้ ยอมรับว่า ช่วงอายุ 14 ปีเป็นช่วงที่คนในหมู่บ้านเบื่อที่สุด เพราะตนโพสต์เศร้าทุกวัน มันกดดันมาก ตั้งแต่แม่เสีย ทุกอย่างพังหมด ไม่ได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่ แล้วต้องมารับผิดชอบทุกอย่าง แถมคุณตาล้มป่วยอีก ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
ต่อมา แม้คุณตาจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้างหลังจากทำกายภาพ แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา คุณตาล้มป่วยอีกครั้ง อาการหนักจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลห่างไกลจากบ้าน ทำให้ตนไม่สามารถไปเรียนได้เพราะต้องเฝ้า กระทั่งคุณตาเสียชีวิต ตนต้องหันมาดูแลคุณยายวัย 80 ปี ที่ป่วยอัมพฤกษ์ครึ่งซีกมาตั้งแต่ตนยังเล็ก แม้ยายจะช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง เช่น อาบน้ำ กินข้าว แต่ตนยังต้องคอยใส่แพมเพิร์ส หุงข้าว ทำอาหาร และพาไปเที่ยว
“ในชีวิตนี้เหลือแค่ยายคนเดียว แม่ก็เสียไปแล้ว เลยอยากทำเต็มที่ ในขณะที่ผมเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่คิดว่ายายอาจอยู่กับผมได้ไม่เกิน 3 ปี ซึ่งเป็นเวลาที่สั้นมาก จึงอยากใช้ทุกวันให้คุ้มค่า” นายสินธุ กล่าว
หลังจากที่ตนโพสต์เรื่องราวใน TikTok ก็ได้รับกำลังใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก ทำให้หัวใจฟูและมีกำลังใจสู้ต่อ ปัจจุบันตื่นเช้ามาต้องทำหมี่ไก่ฉีก ทำน้ำพริกกากหมู และไปรับโดนัทมาขายทุกวัน กว่าจะเสร็จงานบางวันก็ตีสอง หลายครั้งเหนื่อยมาก โดนมีดบาดเจ็บมาก จนรู้สึกเฟลเพราะทำงานอยู่คนเดียว
ทุกครั้งที่เหนื่อยหรือท้อ จะไม่มีคำพูดปลอบใจตัวเอง แต่จะหันไปมองหน้ายายแล้วบอกตัวเองว่าต้องทำ เพราะยายไม่มีประกัน หากวันหนึ่งต้องเข้าโรงพยาบาล ตนต้องมีเงินสำรอง อีกทั้งอนาคตก็ต้องเรียนต่อ จึงอยากเก็บเงินไว้ให้มากที่สุด เพราะทุกเช้าตื่นขึ้นมาก็ต้องใช้เงิน
สำหรับค่าใช้จ่ายในบ้าน ตนต้องรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าฌาปนกิจในหมู่บ้าน ค่าแพมเพิร์สของยาย รวมถึงค่าข้าวปลาอาหาร ตกเดือนละประมาณ 6,000–7,000 บาท แม้จะหนักแต่ก็สามารถหาเงินมาได้ทุกเดือน
หากมีผู้สนใจจ้างงาน ไม่ว่าจะเป็นงานรีวิวสินค้า หรืองานทำคลิปออนไลน์ ตนก็พร้อมรับทุกงานเพื่อสร้างรายได้ พร้อมฝากข้อคิดว่า “ชีวิตเกิดมาชาติเดียว ไม่รู้ว่าจะมีชาติหน้าหรือไม่ อยากทำอะไรให้ทำเลย ลุยไปเลย พอถึงเวลาเราจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง เพราะคนเรามีเวลาเท่ากัน แต่ใช้อาจไม่เท่ากัน ต้องมีความสุขกับสิ่งที่มี และอย่าท้อ เพราะยังมีคนลำบากกว่าเราอีกมาก เราเกิดมาครบ 32 ถือว่าโชคดีที่สุด ใครที่กำลังท้ออยู่ อย่าท้อเลย ตื่นเช้ามาสู้กับวันใหม่ เหนื่อยก็นอนพัก แล้วลุกขึ้นมาสู้ต่อ”