โครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข” ดำเนินการต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 โดยอมรินทร์กรุ๊ป บริษัทอมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทอมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด

ด้วยการสนับสนุนจาก บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อปลูกฝังสร้างนิสัยรักการอ่านให้เยาวชนไทยในโรงเรียน 261 แห่ง จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบชั้นวางหนังสือและหนังสือ 10 หมวดความรู้ให้โรงเรียนต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 285,000 เล่ม มีนักเรียนเข้าชมรมรักการอ่านกว่า 28,000 คน ไม่เพียงสร้างให้เยาวชนไทยรักการอ่าน แต่ยังส่งเสริมให้นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาดีขึ้น คุณครูผู้รับผิดชอบโครงการเพิ่มวิทยฐานะของตนเองจากการลงมือปฏิบัติงานจริงกับผู้เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยจัดงานแถลงข่าวความสำเร็จของโครงการ พร้อมด้วย ดร.ภูริวรรษ คำอ้ายกาวิน ผอ.สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. เป็นประธานในงาน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ม.ล.ลือศักดิ์ จักรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข” ว่า เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้นักเรียนในโรงเรียนเป้าหมาย สนับสนุนให้เป็นผู้รู้หนังสือ อ่านออกเขียนได้ เพราะเชื่อว่าการอ่านเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้เรียน เพื่อแสวงหาความรู้และข้อมูลต่างๆ ตามความถนัด และความสนใจ เป็นทักษะติดตัวไปจนเป็นผู้ใหญ่ ต่อยอดไปสู่การพัฒนาทักษะสำคัญด้านต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต เช่น ทักษะด้านการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ ทักษะด้านการสื่อสาร ทั้งการพูด การเขียน การสรุปความ และทักษะการแก้ปัญหา เป็นต้น

โดยจัดกิจกรรมการอ่านวันละ 15 นาที ก่อตั้งชมรมรักการอ่าน ลงบันทึกรักการอ่านอย่างสม่ำเสมอ และยังต่อยอดกิจกรรมการประกวด “เด็กสุขสันต์ ยอดนักอ่าน” เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและเป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กๆ สนใจเข้าห้องสมุด, “เด็กสุขสร้างสรรค์ ขยันบันทึก” ต่อยอดความรู้จากการอ่านเก่ง คิดเป็น แก้ปัญหาเป็น และจับใจความสำคัญได้ และ “อ่านดัง ฟังเพลิน” ให้นักอ่านรุ่นใหม่อ่านแล้วบันทึกคลิปเสียงเพื่อส่งต่อสู่ผู้พิการทางสายตา ส่งเสริมให้นักเรียนที่เข้าร่วมชมรมรักการอ่านมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น

จากการดำเนินโครงการตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พบว่านักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาดีขึ้นโดยเฉพาะวิชาภาษาไทย ในปีที่ 1 มีผลการเรียนดีขึ้นร้อยละ 64 ปีที่ 2 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 72 ปีที่ 3 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 75 ปีที่ 4 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 77 และปีที่ 5 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 75 จากกลุ่มตัวอย่างสมาชิกชมรมรักการอ่าน 5,000 คน

โครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข” ยังคงเดินหน้าพร้อมวางเป้าหมายความสำเร็จของโครงการคือนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ดีขึ้น คุณครูพัฒนาด้านการเรียนการสอนและมีโอกาสพัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพ ส่งเสริมให้โรงเรียนเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นสื่อประเภทหนังสือ คลิปวิดีโอการเรียนรู้ต่างๆ ที่มีคุณภาพ หลากหลาย เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของผู้เรียน