‘ชาบูศาลายา’ จากมหิดลวิทยานุสรณ์ คว้าแชมป์ Green Mission ปีที่ 2 จุฬาฯ-กัลฟ์ ปลุกพลังเยาวชนภารกิจ ‘โลกเปลี่ยน เราปรับ’ เหนือกว่าใบรับรอง คือตระหนักรักษ์สิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดการแข่งขัน Green Mission by Chula x GULF ภารกิจรักษ์ยั่งยืน ปีที่ 2 โจทย์ “Climate Change Adaptation โลกเปลี่ยน เราปรับ” ที่ ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จ.สระบุรี
โครงการ Green Mission by Chula x GULF กับโจทย์ “Climate Change Adaptation โลกเปลี่ยน เราปรับ” คัดเลือกเยาวชนจากผู้สมัครกว่า 798 ทีมทั่วประเทศ จนเหลือเพียง 20 ทีมสุดท้ายเพื่อเข้าร่วมค่าย Bootcamp 3 วัน 2 คืน ณ ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งปีนี้จัดในรูปแบบ Carbon Neutral Event หรือกิจกรรมปลอดคาร์บอน

โดยมีการเยี่ยมชม โรงไฟฟ้าอุทัยของกลุ่มบริษัทกัลฟ์ เพื่อเรียนรู้กระบวนการผลิตพลังงาน และต่อด้วยการเยือน สถานีบริการภาคพื้นดินไทยคม จ.ปทุมธานี เปิดประสบการณ์โลกเทคโนโลยีดาวเทียม ให้เยาวชนสัมผัสระบบสื่อสารและนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโลกยุคดิจิทัล

ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าววัตถุประสงค์การจัดงานว่า ภารกิจ Green Mission by Chula x GULF ภารกิจรักษ์ยั่งยืน ปีที่ 2 มี 2 วัตถุประสงค์ ได้แก่
1.เป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับน้องเยาวชนคนรุ่นใหม่ ในปีนี้เราเน้นภายใต้แนวคิด “Climate Change Adaptation: โลกเปลี่ยน เราปรับ”

และ 2. การส่งผลงาน น้องๆ ส่งผลงานมาจากทั่วประเทศไทย แน่นอนว่าแต่ละพื้นที่มีประเด็นปัญหาที่แตกต่างกันไป ดังนั้น จากองค์ความรู้ที่เราให้ไป เมื่อนำไปเรียนรู้กับปัญหาในชุมชน น่าจะสร้างสิ่งที่เป็นนวัตกรรม หรือแนวคิดที่เป็นประโยชน์ ดังนั้น 2 วัตถุประสงค์ คือ ความรู้ และแนวคิดนวัตกรรมที่ใช้ได้จริงในพื้นที่
“โดยมีพันธมิตรที่ร่วม บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (กัลฟ์) ที่เป็นกำลังสนับสนุนที่มีความสำคัญมากๆ เพราะว่าบทบาทเรื่อง Climate Change การเปลี่ยนผ่านพลังงานก็ปฏิเสธไม่ได้กับบริษัทที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินงานในเรื่องของความรู้ งานวิจัย นวัตกรรม และการนำน้องนิสิต นักศึกษารุ่นใหม่มาร่วมกิจกรรม

และสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สถานีวิทยุแห่งจุฬาฯ) เป็นช่องทางความรู้และช่องทางการสื่อสาร เมื่อผนึกกำลัง 3 ภาคส่วนเข้าด้วยกัน ก็เลยทำให้ Green Mission by Chula x GULF ปีที่ 2 มีทั้งความรู้ มีทั้งประสบการณ์จริง และมีทั้งช่องทางในการสื่อสารที่ครบถ้วน” ศ.ดร.พิสุทธิ์ กล่าว

ศ.ดร.พิสุทธิ์ เผยต่อว่า สำหรับการส่งเสริมทักษะที่มีความจำเป็นต่ออนาคต มี 3 เรื่อง ได้แก่
1.ทักษะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องวิทยาศาสตร์ น้องๆ ต้องเชื่อมโยงเรื่องของอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น อธิบายได้ด้วยทางวิทยาศาสตร์ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า สรุปว่าร้อนจริงหรือไม่จริง เป็ฯความเชื่อหรือไม่
2.Accountability ความรับผิดชอบที่ต้องตอบชี้แจงต่อผลการกระทำ สิ่งที่บอกว่ามันร้อนขึ้น มันทำให้ Carbon Footprint มันสูงขึ้นอย่างไร และ Carbon Footprint มันคำนวณได้อย่างไร
และ 3.การปรับตัว ลด หรือป้องกันภัยพิบัติ หากเรายังใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่ภัยพิบัติยังรุนแรงมากขึ้น ถี่มากขึ้น แม้กระทั่งกฎเกณฑ์นานาชาติ บอกให้เราลดคาร์บอนมากขึ้น แต่ถ้าเราใช้เหมือนเดิม 70 ล้านคนไทย ก็จะเป็นทักษะที่ไม่เติบโตตรงนี้ เราก็ไม่สามารถเข้าสู่เป้าหมาย Net Zero ที่เข้มข้นได้

ศ.ดร.พิสุทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้กับการจัดการ Climate Change ด้วยสาเหตุ 2 เรื่อง
1.เรากำลังเจอกับปัญหาความท้าทายที่ใหม่มากๆ เราก็เลยต้องการของใหม่ในการนำมาบริหารและจัดการ เรื่องเทคโนโลยีทางด้านพลังงานเป็นสิ่งใหม่ที่ต้องการมาทำให้บรรลุผล เพราะว่าถ้าไม่มีสิ่งนี้ แก้ปัญหาไม่ได้แน่นอน
2.นวัตกรรมเทคโนโลยีต่อคนหมู่มากจะช่วยได้มาก จะทำให้ Economies of Scale คือราคาต่อหน่วยมันลดลง
“ยกตัวอย่าง ในอดีตแผงโซลาร์เซลล์แพงมาก ปัจจุบันนี้ลดราคาลงมา 90% ฉะนั้นเรากำลังมองเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดน้องๆ ปัจจุบันเราอาจจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ในอนาคต มันอาจจะเข้าถึงได้ และถ้าประเทศไทยเป็นเจ้าของอะไรบางอย่างพวกนี้ น่าจะเป็นโอกาสที่ดี” ศ.ดร.พิสุทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน ดร.อมร เพชรสม ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยทรัพยากร และผู้อำนวยการสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ภูมิใจอย่างยิ่ง จาก 798 ทีม ทั่วประเทศ ก้าวเข้ามาสู่ 20 ทีมในวันนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยาก แต่ต่อจากวันนี้ไป จะยากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม น้องๆ ที่ต่อสู้จนมาถึงวันนี้ได้ ก็เรียกว่า ‘ยอมรับ นับถือใจจริงๆ’
“สมัยที่ผมยังเด็กอายุประมาณนี้ ยังคิดไม่เป็น สมัยก่อนโลกของเราก็มีต้นไม้เยอะ มีคลอง มีแม่น้ำ มีพื้นที่ทางการเกษตร แต่ปัจจุบันโลกมันเปลี่ยน พอโลกเปลี่ยนก็ต้องมีการปรับตัวอย่างที่น้องๆ กำลังทำอยู่” ดร.อมร กล่าว

ดร.อมร เผยต่อว่า Green Mission ปีนี้เป็นปีที่ 2 ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (กัลฟ์) ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สถานีวิทยุแห่งจุฬาฯ) ช่วยกันดำเนินโครงการนี้มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะสิ่งที่น้องๆ ได้เรียนรู้จากตรงนี้ไป ได้รับความรู้ที่หลากหลาย การอบรมต่างๆ กว่าจะผ่านมาตรงนี้ได้ก็ยาก สิ่งที่น้องๆ ได้ ไม่ใช่เพียงแค่ใบรับรองแน่นอน
“แต่สิ่งที่ได้ต่อจากนี้คือ ประสบการณ์ชีวิต ได้เพื่อน และสิ่งที่สำคัญที่ทางคณะผู้จัดภูมิใจมากๆ คือการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ความพร้อมที่จะเผชิญภัยพิบัติจากธรรมชาติก็ดี หรือจากมนุษย์สร้างขึ้นก็ดี
นอกจากนี้ ทั้ง 20 ทีม ต่างคิดนวัตกรรมขึ้นมาว่า ควรจะมีนวัตกรรมเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อย่างไร เพื่อจะทำให้ชีวิตภายภาคหน้าดีขึ้นกว่าเดิม ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ถ้วยรางวัล แต่ความสำคัญอยู่ที่ความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมที่อยู่ใกล้ตัวเรา ” ดร.อมร กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นางสาวธีรตีพิศา เตวิชพศุตม์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กัลฟ์ขอแสดงความยินดีกับทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศในโครงการ Green Mission by Chula x GULF ภารกิจรักษ์ยั่งยืน ปีที่ 2 รวมถึงชื่นชมน้อง ๆ นักเรียนมัธยมปลายกว่า 798 ทีมทั่วประเทศ ที่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่น และความคิดสร้างสรรค์ที่เต็มเปี่ยม ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Adaptation)
“ตลอดโครงการฯ กัลฟ์รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและจุดประกายให้เยาวชนได้พัฒนาทักษะที่จำเป็น ผ่านกิจกรรมที่เข้มข้น ทั้งการเรียนรู้ภาคทฤษฎีและปฏิบัติ จนเกิดเป็นไอเดียที่น่าสนใจและสามารถต่อยอดได้จริง ซึ่งตอกย้ำว่า เยาวชนคือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน และเป็นความหวังในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในอนาคต” นางสาวธีรตีพิศา กล่าวทิ้งท้าย

จาก 20 ทีม สู่การคัดเลือก 8 ทีมสุดท้าย สำหรับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม ‘ชาบูศาลายา’ จาก ‘โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์’ ประกอบด้วย นายกันตภณ วณิชชานุกร, นายกิตตินันท์ อรรถศิริ และนายวชิรวิชญ์ ชาภูมี ที่ปรึกษา ดร.พัสวีพิชญ์ รุ่งโรจน์ตระกูล

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม ‘Nampong Go Green’ จาก ‘โรงเรียนน้ำพองศึกษา’ ประกอบด้วย นางสาวณฐิกา ชุมพล, นายกฤษฎากรณ์ พรมน้อย และนายนราวิชญ์ ธนวงศ์พิพัฒน์ ที่ปรึกษา นางพิชญา มาตย์ภูธร

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม ‘HorizonX’ จาก ‘โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย’ ประกอบด้วย นายพันธนนท์ โพธิ์ขาว, นายชนน ศุขสุวรรณ์ และนายธัชพงศ์ เหลืองวิลัย ที่ปรึกษา พันเอกอนุวัตร เหลืองวิลัย

รางวัลครูที่ปรึกษาดีเด่น ได้แก่ ดร.พัสวีพิชญ์ รุ่งโรจน์ตระกูล โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ทีม ชาบูศาลายา และ นายเดชา ขันธจิตต์ โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ทีม SrirachaBanHao

นายวชิรวิชญ์ กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ได้นำเรื่อง การวิเคราะห์โรคระบาด แต่ว่าไม่ใช่เพียงดูจำนวนผู้ป่วยว่ามีกี่คน แต่จะดูเรื่องของสภาพอากาศ เพราะว่าการที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้โรคบางชนิด เช่น โรคไข้เลือดออก เมื่อระบาดขึ้นมา พวกเราจึงได้วิเคราะห์โรคนี้
“การเข้าค่ายในครั้งนี้จะเป็นกระบอกเสียง จากชื่อแนวคิด ‘โลกเปลี่ยน เราปรับ’ ผมมองว่า ทุกคนไม่สามารถที่จะหยุดโลกร้อนได้แบบ 100% แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป เราอยากให้ทุกคนช่วยกันปรับตัว เพื่อรับผลกระทบจากโลกร้อนให้น้อยลง แรงกำลังใจจากหลายๆ คนที่ให้ความร่วมมือ โลกของเราก็จะช่วยชะลอความร้อนได้ หรือแม้กระทั่งหยุดยั้งเรื่อง Climate Change ได้ เพราะผมเชื่อในการร่วมมือของทุกคน” นายวชิรวิชญ์ เผย
นายกันตภณ กล่าวว่า ความประทับใจในค่ายแห่งนี้ เริ่มตั้งแต่การศึกษาดูงาน กระบวนการผลิตไฟฟ้าและอุตสาหกรรมพลังงาน รวมไปถึงได้รับความรู้เรื่องดาวเทียมที่สถานีบริการภาคพื้นดินไทยคม จ.ปทุมธานี พี่ๆ ที่เป็นวิทยากร ก็บรรยายความรู้ให้พวกเราได้อย่างดีมาก ในหลายๆ อย่างที่ไม่เคยได้รู้มาก่อน ก็ได้มารู้ในวันนี้ เช่น ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลการผลิตไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ

“ความยากความง่ายในการทำผลงานในครั้งนี้ จะเป็นเรื่องของการทำสเกลงานของพวกเรา ตอนที่เราวางแผนไว้ เราคิดไอเดียได้หลายๆ อย่าง จึงทำให้ขยายขอบเขตงานออกไปกว้างมาก ก็ขอบคุณพี่ๆ วิทยากรในค่าย ที่ช่วยให้พวกผมสามารถลดขอบเขตงานลง เหลือเพียงงานที่เป็นตัวเมนหลัก และเอามานำเสนอให้ทุกคนฟังได้” นายกันตภณ เผย
นายกิตตินันท์ กล่าวว่า ขอขอบคุณ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (กัลฟ์) คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สถานีวิทยุแห่งจุฬาฯ) ที่ให้โอกาสพวกเรา เป็นเวทีที่ให้พวกเราได้แสดงออกว่า เรามีอะไรดีบ้าง และที่สำคัญขอขอบคุณโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ที่ให้การสนับสนุนพวกเรา ทั้งคณาจารย์ทุกคนที่ได้สอนมา และเชื่อว่าเราสามารถพัฒนาตนเองได้ และเตรียมพร้อมเข้าสู่มหาวิทยาลัย
“ในปีต่อๆ ไป เพื่อนๆ คนไหนอยากส่งผลงานเข้ามา ก็อยากให้ลองส่งเข้ามา ไม่ต้องกลัว อดทนเยอะๆ ส่งแรงเข้าไปใน Proposal เขียนเท่าที่เราจะเขียนได้ ให้เต็มที่”นายกิตตินันท์ กล่าว

ด้าน ดร.พัสวีพิชญ์ กล่าวว่า การที่พาเด็กๆ มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นโครงการที่ดี ที่ทำให้เด็กๆ ตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และ Climate Change
อีกสิ่งหนึ่ง ไม่ได้เริ่มจากคุณครู กิจกรรมนี้เด็กๆ เป็นคนที่อยากจะริเริ่มขึ้นมาเพื่อนำเสนอคุณครูด้วยตนเอง ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเด็กๆ ได้มาเรียนรู้ ได้ทำผลงานให้กับตัวเอง
“ขอขอบคุณโครงการดีๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้สนับสนุนทุกๆ ราย บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (กัลฟ์) คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สถานีวิทยุแห่งจุฬาฯ) อยากขอบคุณที่ให้โอกาสเด็กๆ กับทุกโรงเรียน ที่ได้มีโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรม ไม่ว่าจะได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัล แต่ตอนนี้เขาจะได้ความตระหนักรู้ และประสบการณ์ที่ดี กลับไปบอกต่อ และพัฒนาสังคมและโลกของเรา” ดร.พัสวีพิชญ์ กล่าวปิดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้กิจกรรมจะจบลง แต่ความสนุกยังไม่จบ GULF ชวนโหวตกันต่อให้กับทีมที่มีไอเดียคอนเทนต์สุดสร้างสรรค์ ผ่านการกดไลก์ แชร์ และคอมเมนต์โพสต์ใน Facebook Page Gulf Spark เพื่อชิงรางวัล Popular Vote By GULF ทีมที่ชนะจะได้รับทุนการศึกษา 10,000 บาท สามารถโหวตได้ตั้งแต่วันที่ 4 – 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.00 น.
